6 ก.พ. 2022 เวลา 08:10 • การศึกษา
รู้แล้วบอกต่อ ไม่ต้องไปเรียนถึงต่างประเทศ ก็พูดภาษาจีนและภาษาอังกฤษได้!!!!
เคล็ดลับ ฟัง พูด อ่าน เขียน อย่างไร ให้พูดภาษาต่างประเทศได้คล่องปรี๋อ ตามฉบับหมีมี่
เคล็ดลับฝึกภาษาต่างประเทศ จากประสบการณ์โดยตรงของหมีมี่
โพสต์นี้เหมาะสำหรับทุกท่านที่กำลังมีไฟในการพัฒนาทักษะภาษาต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาษาที่สอง หรือภาษาที่สาม หรือกำลังหาแรงบันดาลใจในการฝึกฝนภาษาต่างประเทศแบบไม่ต้องลงทุนไปเรียนถึงต่างประเทศ เพราะเคล็ดลับที่หมีจะมาบอกต่อเพื่อนๆเป็นประสบการณ์โดยตรงของหมีเอง ที่ต้องผ่านความกดดัน, ท้อแท้, พยายามอย่างหนัก และถึงกับต้องหน้าแตกเมื่อต้องใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์จริง
หมีสนใจเรียนรู้ภาษาต่างประเทศตั้งแต่สมัยประถม เรียนบ้าง เล่นบ้าง ตามประสาเด็กกะโปโลอย่างหมี สำหรับหมีแล้วตอนนี้หมีสามารถสื่อสารภาษาไทย, ภาษาอังกฤษ และภาษาจีนกลางได้ สามารถใช้ทักษะการฟัง, พูด, อ่าน และเขียน ในระดับที่สามารถสื่อสารในชีวิตประจำวัน, สนทนากับคนท้องถิ่น และใช้สื่อสารในที่ทำงานได้ ไม่ได้จะมาอวยว่าตัวเองว่าเก่งนะคะ
อย่าเพิ่งเข้าใจผิด 555 หมีไม่ได้เรียนจบจากเอกภาษาอังกฤษและภาษาจีนโดยตรงนะคะ บอกก่อน ต้องการให้เพื่อนๆทราบเข้าใจตรงกันว่าถ้าหมีสื่อสารภาษาต่างประเทศได้ เพื่อนๆก็ต้องทำได้เช่นกันค่ะ
ตอนสมัยยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยปีหนึ่ง หมีได้รู้จีกเพื่อนๆในคณะหลายคนที่ได้มีโอกาสไปต่างประเทศในฐานะนักเรียนแลกเปลี่ยน หรือได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างประเทศ เพื่อนๆพูดอิ้ง (อิ้ง คือคำย่อของ ภาษาอังกฤษ ในความหมายส่วนตัวของหมีเองนะคะ) พูดจีน กันไฟแล๊บเลย ตอนนั้นหมีเองก็น้อยใจในความสามารถอันน้อยนิดของตัวเองที่จะไปประชันกับเพื่อนๆได้ยังไง
ถึงแม้ว่าตอนนั้นหมีจะตั้งใจทบทวนบทเรียนทั้งก่อนคลาสและหลังคลาสแล้ว แต่มันก็ยังไม่พออยู่ดี หมีทั้งร้องไห้ทั้งหมดกำลังใจในความสามารถของตัวเองมากว่าทำไมทำไม่ได้แบบเพื่อนๆ และมีอยู่วันหนึ่งฟ้าก็เป็นใจให้หมีได้ค้นพบกับความลับขั้นเทพ ที่ได้เปิดหูเปิดตาในการเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา
ช่วงปิดเทอมหนึ่งของปีหนึ่ง หมีได้กลับไปเยี่ยมเยียนคุณครูสมัยมัธยมปลาย และได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณครูสอนภาษาอังกฤษท่านหนึ่ง หมีได้ช่วยอาจาย์จัดห้องพักครูภาษาต่างประเทศ แล้วด้วยความมั่นใจอันล้นเหลือในตอนนั้นหมีเลยถามคุณครูไปเลยตรงๆว่า
หมี : “คุณครูค่ะ ทำยังไงหนูถึงจะพูดภาษาอังกฤษได้คะ?”
คุณครู : “ถ้าเธอเขียนภาษาอังกฤษได้ เธอก็จะพูดภาษาอังกฤษได้”
จากคำตอบของคุณครูในวันนั้น ก็ทำให้หมีถึงกับตาสว่างขึ้นมาเลยทันที ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาหมีก็ตั้งใจเรียนคลาสเขียน และฝึกเขียนเรื่องราวเป็นภาษาอังกฤษมากขึ้น แต่เมื่อโตขึ้นมาอีกขึ้นหนึ่งก็ทำให้หมีได้ค้นพบตรรกะของวิธีการเรียนภาษาต่างประเทศว่า การเขียนเป็นทักษะที่จะช่วยให้เราได้เรียบเรียงลำดับเหตุการณ์ ออกมาเป็นคำ เป็นประโยค และเป็นเรื่องราวในที่สุด
แต่ยังไงก็ตามรูปประโยคการเขียนและการพูดนั้นมีความแตกต่างกันมาก ต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับโอกาสและสถานการณ์ พอได้เข้าคลาสการเขียนภาษาอังกฤษแบบจริงจังเข้มข้นแล้ว ก็ทำให้หมีตระหนักว่าทักษะการฟัง, พูด และอ่านก็สำคัญไม่แพ้กันเลย ต้องฝึกฝนทั้งสี่ทักษะนี้ไปพร้อมๆกัน ค่อยๆฝึกฝนไปทีละขึ้นตอนทุกวัน ไม่ต้องใจร้อน เพราะภาษาไม่ได้ฝึกวันสองวันแล้วจะเป็นเลย ต้องใช้เวลาและความมีวินัย
และจากข้างต้นก็เป็นเพียงเรี่องราวในการเรียนภาษาต่างประเทศส่วนหนึ่งของหมี เรามีดูเคล็ดลับขั้นเทพ ที่ตอนนี้หมีก็ยังฝึกฝนอยู่เป็นประจำอยู่นะคะ >O<
4 เคล็ดลับ พูดจีนอิ้งได้ ไม่ต้องไป ตปท
1. ฟังวันละหนึ่งชั่วโมง
เพื่อนๆต้องรีเซ็ทแนวคิดในการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศใหม่นะคะว่า การที่เด็กทารกน้อยจะเปล่งเสียงออกมาเพื่อสื่อสารกับคุณพ่อคุณแม่ได้นั้น เป็นเพราะว่าพัฒนาการด้านการฟังเป็นด้านที่ฝึกฝนกันได้ง่ายมากที่สุด และการเรียนภาษาต่างประเทศก็เช่นกันค่ะ การเรียนรู้เกิดจากการเลียนแบบเสียงและสำเนียงที่เราได้ยินเป็นประจำ
จัดตารางให้ตัวเองว่าภายในหนึ่งวันต้องฟังรายการภาษาอังกฤษเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง หรือภาษาต่างประเทศที่เพื่อนๆกำลังเรียนอยู่
ถ้าไม่มีเวลาจริงๆให้ฟัง Podcast ในตอนที่เดินทางไปเรียน ไปทำงาน หรือไปทำธุระข้างนอก ใส่หูฟังจะได้ไม่รบกวนคนอื่น หรือถ้าไม่มีเวลาจริงๆ และรีบเร่งด้วย เพราะในแต่ละวันกิจกรรมของแต่ละคนก็จะแตกต่างออกไป
หมีแนะนำให้เพื่อนๆ เปิด YouTube ในโทรศัพท์ และเอาขาตั้งโทรศัพท์มาด้วยนะ ฟัง Ted Talk ในตอนที่เข้าห้องน้ำ อาบน้ำ ทาสกินแคร์บำรุงหน้า ชงกาแฟ ออกกำลังกาย เก็บผ้า ซักผ้า ถูบ้าน ใครบอกไม่มีเวลากัน เวลาเยอะแยะมาก แต่จะรู้จักปรับกิจกรรมให้คุ้มค่ากับเวลาหรือเปล่าเท่านั้นเอง
วิธีนี้ต้องมีวินัย ต้องฟังให้ครบวันละหนึ่งชั่วโมง ย้ำต้องครบหนึ่งชั่วโมงนะคะ และยิ่งถ้าฟังต่อเนื่องหนึ่งชั่วโมงไปด้วย ประสิทธิภาพจะดีมาก
เพื่อนๆลองหาเริ่องราวที่เพื่อนๆสนใจก่อนใน YouTube แล้วลองฟังดูว่ายากไปสำหรับตัวเองหรือเปล่า ถ้ายากไปอีก หมีแนะนำให้เปิดรายการสำหรับเด็กนะคะ ค่อยๆพัฒนาทักษะการฟังรูปแบบประโยคและคำศัพท์ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆซ้ำๆ เพื่อนๆจะสังเกตุเห็นพัฒนาการของตัวเองภายในหนึ่งเดือนเลยค่ะ
แล้วถ้าเพื่อนๆฟังไปด้วยจดคำศัพท์ใหม่ไปด้วยเลียนเสียงพูดตามไปด้วย ก็จะยิ่งทำให้เพื่อนๆเรียนรู้ได้เร็วมากขึ้นกว่าเดิมด้วยนะคะ
ตอนแรกๆก็จะขัดใจนิดนึงเพราะฟังไม่ออกเลย แต่พอเริ่มชินไปเรื่อยๆเราก็จะสนุกไปกับมันเองค่ะ แถมได้สาระความรู้จากเนื้อหาที่เราได้ฟังด้วยนะคะ
Trick: ฟัง Podcast ใน Spotify จะสะดวกมาก มีหลากหลายรายการให้เลือก เดินทางไปทำงานหรือเดินทางไปต่างจังหวัด เพียงแค่หยิบหูฟังขึ้นมาใส่ก็ได้ฟังรายการที่น่าสนใจแล้วค่ะ
2. พูดหน้ากระจกคนเดียว
เรียนภาษาต่างประเทศต้องพกความมั่นใจไว้เยอะๆนะคะ เพราะเจอสถานการณ์จริงเมื่อไหร่ จะยืนอ้ำอึ้งไม่ได้นะคะ ถ้าใครเขินอาย ก็ลองหาที่เงียบสงบ หรือมุมในห้องนอน แล้วยืนหน้ากระจก แล้วพูดแนะนำตัวเองหน้ากระจกเลยค่ะ
เปล่งเสียงออกมาให้โสตประสาทสัมผัสของหูทั้งสองข้างได้ยินสำเนียง และรูปแบบประโยคของตัวเอง และได้สังเกตุเห็นรูปปากของตัวเองเวลาที่ได้เปล่งเสียงออกมา ซึ่งวิธีฝึกการพูดหน้ากระจกคนเดียวนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างความมั่นใจของตัวเอง ไม่ต้องกังวลว่าจะพูดผิดแกรมม่า
เพราะการพูดเป็นเครื่องมือการสื่อสารที่ทำให้ผู้ฟังได้รับรู้และเข้าใจในความหมายของเรา พูดให้ถูกกาละเทศะก็โอเคแล้ว ส่วนเรื่องแกรมม่านั้นคงต้องไปเน้นที่เรื่องการเขียน จะยากขึ้นมาหน่อยต้องใช้เวลาฝึกฝน
การอัดเสียงตัวเองแล้วฟังอีกครั้งก็ช่วยทำให้เราได้รู้ข้อผิดพลาดของตัวเอง แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าตอนนี้กำลังพูดถูกอยู๋หรือเปล่า? หมีแนะนำให้หาเพื่อนต่างชาติออนไลน์เพื่อฝึกพูดซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดที่สุด แต่ต้องระวังพวก scammer ด้วยนะคะ
Trick: ลองอ่านทำความเข้าใจรูปแบบประโยคที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวันจากหนังสือสรุป เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะเป็นแนวทางให้เพื่อนๆกล้าที่จะพูดออกมาแบบไม่ต้องเขิน ไม่ต้องกังวลว่าจะพูดผิดหรือเปล่า หรืออีกวิธีหนึ่งที่เห็นผลมากที่สุด คือ หาแฟนต่างชาติ จากประสบการณ์จริงโดยตรงของหมีเอง เห็นผลภายในสามเดือน ทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน แต่ก็ต้องเข้าคลาสเพื่อเรียนไวยากรณ์และคำศัพท์ใหม่ควบคู่กันไปด้วยนะคะ
3. เปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้เป็นภาษานั้นๆ
วิธีนี้จะค่อยๆเพิ่มเลเวลความโหด เพื่อฝึกทักษะการอ่านค่ะ เช่น ตั้งค่าเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดภายในบ้าน หรือถ้าอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ก็ตั้งค่าภาษาในโทรศัพท์จากภาษาไทยเป็นภาษาต่างประเทศที่เพื่อนๆกำลังเรียนรู้อยู่เลยค่ะ หรือตั้งค่าโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง ทั้งอีเมล เฟสบุ๊ค ไอจี กูเกิ้ลไดรฟ์ เป็นโหมดภาษาอังกฤษให้หมดเลยค่ะ เพื่อทำให้สมองของเราคุ้นชินกับตัวอักษรของภาษานั้นๆ
เพราะหมีเชื่อว่าการที่เรานำตัวเองเข้าไปคลุกคลีกับสภาพแวดล้อมใดๆก็ตาม จะมีแนวโน้มให้เราต้องปรับตัวเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์นั้นๆ
นอกจากเพื่อนๆจะได้บังคับตัวเองให้คุ้นชินกับระบบภาษาต่างประเทศแล้ว เพื่อนๆยังสามารถค้นหาคำศัพท์จากพจนานุกรมออนไลน์ได้ตลอดเวลา
นับว่าเป็นการสร้างวินัยในการเรียนรู้ของตัวเองอย่างต่อเนื่องและไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ, ภาษาเยอรมัน, ภาษาจีน หรือ ภาษาญี่ปุ่น วิถึนี้ได้ผลสุดๆ
การอ่านหนังสือนอกเวลาก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยฝึกให้เพื่อนๆเรียนรู้รูปแบบประโยคและคำศัพท์ใหม่ๆ หรือต้องการโหมดโหดก็จัดการเวลาของตัวเองไปเลย เช่น ก่อนนอนชั่วโมงครึ่งหรือหนึ่งชั่วโมงให้อ่านหนังสือนอกเวลา เริ่มจากเรื่องราวที่เพื่อนๆสนใจก่อนก็ได้นะคะ หรือเริ่มจากคำศัพท์พื้นฐานง่ายๆไปจนถึงระดับแอดวานซ์เลยค่ะ พยายามสร้างวินัยให้ตัวเองนะคะ ห้ามท้อเด็ดขาด
แหล่งหนังสืออ่านนอกเวลามีเยอะแยะเลยค่ะ ทั้ง E-Book, โหลดออนไลน์ฟรี, ไปยืมที่ห้องสมุด, ติดตามเฟสบุ๊คหรือไอจี เพจข่าว หรืออินฟลูอินเซอร์ที่ลงบทความสั้นๆ หรือง่ายที่สุด ไปร้านหนังสือสองภาษา แล้วเลือกหนังสือที่เพื่อนๆสนใจมาอ่านได้เลยค่ะ
Trick: ดูหนัง เปิดซัพอิ้ง ไตเติ้ลอิ้ง ดูวนๆไป เดี๋ยวก็คุ้นเองว่าแอคชั่นกับรูปประโยคนั้นมันสอดคล้องกัน แล้วเพื่อนๆก็จะได้ซึมทราบความหมายไปเองโดยอัตโนมัติ
4. เขียนไดอารี่ภาษาต่างประเทศ
ฝึกทักษะฟัง พูด อ่าน หมีได้แชร์เคล็ดลับแบบไม่มีกักไปข้างต้นแล้ว เรามาต่อกันที่การฝึกทักษะการเขียน เพื่อนๆคิดว่าทักษะทั้งสี่ในการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ทักษะไหนที่เพื่อนๆคิดว่ายากมากที่สุด? แชร์ความคิดเห็นมากันเยอะๆนะคะ หมีรอตอบอยู่ >O<
ท้าวความเมื่อครั้งที่หมีปิดเทอมปีหนึ่งแล้วกลับไปเยี่ยมโรงเรียนมัธยม หลังจากที่หมีได้ตาสว่างกับประโยคจากคุณครูท่านหนึ่งที่ว่า
ถ้าเธอเขียนภาษาอังกฤษได้ เธอก็จะพูดภาษาอังกฤษได้
คุณครูนิรนาม
ด้วยความที่ไฟในร่างกำลังชุกโชนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาหมีก็หยิบปากกาหาหนังสือไดอารี่หน้าปกสะดุดตามาเริ่มเขียนเรื่องราวในระหว่างวันเป็นภาษาอังกฤษ เขียนแบบยังไม่ต้องสนใจว่าถูกแกรมม่าหรือเปล่านะ เขียนในสิ่งที่ตัวเองรู้และต้องการสื่อสารมันออกมา ถ้าไม่รู้จะอธิบายคำศัพท์นั้นยังไง
ทางเลือกสุดท้ายก็เปิดดิกชันนารี่เลย พอหมีได้เข้าคลาสเขียนแล้วสักปีนึง แล้วย้อนกลับมาดูไดอารี่เล่มนั้น หมีได้เห็นพัฒนาการการใช้ภาษาต่างประเทศที่สื่อสารออกมาเป็นรูปประโยค ได้สังเกตุเห็นข้อผิดพลาดของตัวเอง และพยายามเรียนรู้จากมัน
Trick: แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเขียนถูกหรือเขียนผิด? หมีแนะนำให้เพื่อนๆเข้าคลาสการเขียนเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมหลักไวยากรณ์ และจะได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องจากคุณครูนะคะ หมีเชื่อว่าลงทุนเพื่อการเรียนรู้ เป็นการลงทุนที่ยั่งยืนในชีวิตของเรามากที่สุดเลยค่ะ
สรุป 4 เคล็ดลับ ฟัง พูด อ่าน เขียน อย่างไร ให้พูดภาษาต่างประเทศได้คล่องปรี๋อ ตามฉบับหมีมี่ >O<
4 เคล็ดลับ ฉบับหมีมี่
  • 1.
    ฟังวันละหนึ่งชั่วโมง
  • 2.
    พูดหน้ากระจก
  • 3.
    อ่านโหมดอังกฤษ
  • 4.
    เขียนไดอารี่
สุดท้ายนี้หมีเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีแพสชั่นในการเรียนภาษาต่างประเทศ เรียนรู้ภาษาไว้จะเป็นประโยชน์ต่อตนเองในอนาคตนะคะ การเรียนภาษาเป็นทักษะที่ต้องใช้เวลาและการฝึกฝน ขอเพียงเพื่อนๆ ขยัน ฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง มีวินัย และใฝ่การเรียนรู้เสมอ เป้าหมายของเพื่อนๆที่ตั้งไว้ก็จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนค่ะ หมีทำได้ เพื่อนๆก็ต้องทำได้เช่นกันนะคะ ^___^
ทำความรู้จักหมีมี่มากขึ้นได้ที่
IG: atinybear
ขอขอบคุณฟ้อนต์น่ารักๆจาก
โฆษณา