ไขข้อข้องใจ
-ออกกำลังกายนาน กล้ามเนื้อหายหรือไม่?
-ไม่กินแป้ง กล้ามเนื้อหายหรือไม่?
- Fastนาน กล้ามเนื้อหายหรือไม่?
- น้ำหนักหยุดนิ่งเพราะภาวะร่างกายจำศีลใช่หรือไม่?
By Coach Pakorn
ในร่างกายมีแหล่งสะสมโปรตีนเรียกว่า Amino Acid Pool เมื่อร่างกายต้องการโปรตีนจะเบิกโปรตีนจากแหล่งนี้ไปใช้ เช่น นำไปสร้างเนื้อเยื่อ ผิวหนัง ผม เล็บ เม็ดเลือด เอนไซม์ ฮอร์โมน ใช้ผลัดเซลล์เก่าเสื่อมสภาพตลอดเวลา รวมทั้งซ่อมสร้างกล้ามเนื้อเวลาออกกำลังกายด้วยครับ
การกินก่อนหรือหลังออกกำลังกาย ร่างกายจะยังไม่ได้ใช้โปรตีนที่กิน แต่ร่างกายจะใช้โปรตีนจากAmino Acid Pool
หากคุณอยู่ในภาวะขาดโปรตีนมาก่อนแล้วเพิ่งมากินโปรตีนก่อนหรือหลังออกกำลังกายเป็นต้นเหตุทำกล้ามเนื้อจะหายนะครับ
เช่น เสาร์อาทิตย์คุณกินโปรตีนน้อย ร่างกายเริ่มอยู่ในภาวะขาดโปรตีน พอวันจันทร์คุณออกกำลังกายหนัก ร่างกายจึงมีกรดอะมิโน ใน amino Acid Pool ไม่พอใช้ ร่างกายจะสลายกล้ามเนื้อมาใช้
แต่คุณอาจจะคิดว่าวันจันทร์คุณกินโปรตีนถึงแน่นอน แต่โปรตีนที่คุณกิน ยังไม่ได้นำไปใช้ได้ทันที เพราะมันต้องแปลงเป็นกรดอะมิโนก่อนซึ่งใช้เวลาเป็นวัน ในขณะที่ร่างกายคุณต้องการทันที กล้ามเนื้อของคุณจึงถูกสลายครับ
ดังนั้น คุณควรกินโปรตีนให้เพียงพอในทุกวันถึงแม้คุณยังไม่ได้ออกกำลังกาย( หากคุณมีพฤติกรรมที่ออกกำลังกายเป็นประจำ) คุณจึงไม่ควรขาดโปรตีน เช่น คุณเล่นเวทเทรนนิ่ง คุณควรกินโปรตีนให้ถึง เตรียมการไว้ล่วงหน้าเพื่อให้คุณมีแหล่งโปรตีนใน amino Acid poolใช้ "ไม่ใช่ออกกำลังกายหนักแล้วค่อยกินนะครับ"
เพราะการขาดโปรตีนจะเป็นการทำลายโครงสร้างของร่างกาย ขาดวัตถุดิบที่ใช้สร้างเซลล์ใหม่เพื่อให้เซลล์ใหม่ได้เติบโต ยิ่งออกกำลังกายในภาวะขาดโปรตีนแทนที่จะสดใสกลับยิ่งดูโทรม กล้ามเนื้อของคุณจะหายครับ
ธรรมชาติของร่างกายเราจะไม่สลายกล้ามเนื้อมาใช้งานเป็นพลังงาน เช่นร่างกายจะไม่สลายกล้ามเนื้อมาเป็นน้ำตาล นอกจากคุณจะขาดโปรตีน ที่ร่างกายจำเป็นต้องเอากรดอะมิโนไปใช้
หากคุณออกกำลังกายนาน ตอนเริ่มออก ร่างกายของคุณจะใช้น้ำตาลในเลือด แต่กลไกร่างกายจะไม่ยอมให้น้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 70มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (ร่างกายมีกลไกควบคุมอยู่ )
นั่นก็แปลว่าเวลาที่คุณออกกำลังกายยาวนาน ร่างกายมีน้ำตาลให้ใช้อย่างพอเพียงจากไกลโคเจนในตับ พอคุณออกเสร็จ น้ำตาลในเลือดต่ำ คุณจะเกิดความหิวทันที
ย้อนกลับไปตอนที่คุณเริ่มออกกำลังกาย..
ร่างกายจะใช้น้ำตาลตอนเริ่มต้น และส่งต่อให้ไกลโคเจนในกล้ามเนื้อของคุณเป็นแรงในการออกกำลังกาย ส่วนไกลโคเจนในตับมีหน้าที่รักษาระดับน้ำตาลในเลือดของคุณ คุณจึงไม่ต้องกังวลว่าในเลือดคุณจะไม่มีน้ำตาลครับ
คุณสามารถออกกำลังกาย เช่น แข่งขันฟุตบอล วิ่งมาราธอน แข่งขันไตรกีฬา หรือกีฬาทุกชนิดได้ในระยะเวลานาน โดยคุณไม่ต้องกินอะไร และไม่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อแต่อย่างใด
ยกตัวอย่างนักกีฬาอาชีพเขาฝึกซ้อมวันละ 4-5 ชั่วโมงก็ไม่ได้ถูกสลายกล้ามเนื้อแต่อย่างใด
ในขณะที่คุณเริ่มออกกำลังกาย น้ำตาลในเลือดจะถูกนำไปใช้ ไกลโคเจนในตับจะถูกผลิตเป็นน้ำตาลส่งให้ร่างกาย เพื่อรักษาระดับน้ำตาลไว้ตลอดเวลา
(พอไกลโคเจนในตับลดระดับลงเหลือประมาณ 20% ร่างกายจะเริ่มสั่งให้ตับผลิตคีโตนจากไขมันสะสมมาให้คุณใช้เป็นพลังงานแทนน้ำตาล)
มาถึงจุดนี้คือร่างกายจะเปลี่ยนไปใช้พลังงานจากคีโตนแทนน้ำตาลครับ การอดอาหารยาวนาน เช่น การทำ intermittent fasting จะเกิดการใช้คีโตนเป็นพลังงานแทนน้ำตาล
ตรงนี้แหละครับที่จะทำให้น้ำหนักลดลง จากร่างกายสลายกรดไขมันมาเป็นสารคีโตนส่งให้คุณใช้เป็นพลังงาน
เวลาคุณทำ intermittent fasting ต่อเนื่องใน 48 ชั่วโมง กล้ามเนื้อจะไม่ถูกสลายมาใช้(หากโปรตีนในกรดอะมิโนใน amino Acid Pool มีให้คุณใช้)
แต่ถ้าร่างกายคุณขาดโปรตีน แค่คุณ Fast 18-16ชั่วโมง ร่างกายก็จะดึงกล้ามเนื้อมาเป็นกรดอะมิโนหากจำเป็นต้องใช้ครับ
เมื่อคุณ Fast48 ชั่วโมงขึ้นไป คุณจะเริ่มเกิดภาวะขาดโปรตีนจากกรดอะมิโนใน amino Acid Pool ไม่พอใช้ กล้ามเนื้อของคุณจะถูกสลายไปสร้างเนื้อเยื่อ เม็ดเลือด เอนไซม์ ฮอร์โมน (ในส่วนของพลังงานตอนนี้ คุณกำลังใช้ไขมันในร่างกายเต็มรูปแบบแล้ว)
คนที่อดอาหารลดน้ำหนัก
1.)ร่างกายก็จะสลายกล้ามเนื้อมาเป็นสารอาหารส่งให้ร่างกายใช้
2.)ในขณะเดียวกันก็สลายไขมันมาเป็นพลังงานแทนน้ำตาลจากอาหาร
เพื่อนๆคงเห็นนะครับว่า เมื่อร่างกายขาดอาหาร ร่างกายสามารถผลิตไกลโคเจนในตับมาเป็นน้ำตาล เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือด
ถึงแม้คุณจะออกกำลังกายยาวนาน ร่างกายก็จะเอาไกลโคเจนในตับมาผลิตเป็นน้ำตาลเสิร์ฟให้คุณต่อเนื่องเพราะจะไม่ยอมให้น้ำตาลต่ำกว่า 70มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
เมื่อคุณหยุดกินอาหาร ไกลโคเจนในตับต่ำลง ร่างกายสามารถแปลงคีโตนมาใช้เป็นพลังงาน ร่างกายสามารถเอาไขมันไตรกลีเซอไรด์ โดยแยกเอา "กลีเซอรอล" มาผลิตเป็นน้ำตาล เพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือด
หรือแม้กระทั่งโปรตีนก็เปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ แต่ไม่ได้อยู่ในขั้นตอนออกกำลังกายนาน แต่จะอยู่ในภาวะขาดแคลนอาหารอย่างหนัก(เท่านั้น)
คนที่เป็นนักกีฬามืออาชีพจะมีการฝึกซ้อมวันละหลายชั่วโมง เรียกว่าวิ่งกันทั้งวัน กล้ามเนื้อเขาก็ไม่ถูกสลายมาเป็นน้ำตาลแต่อย่างใด ดูอย่างโรนัลโด้ หรือนักฟุตบอลมืออาชีพ ซ้อมวันละหลายชั่วโมงก็มีมัดกล้ามเนื้อที่สวยงาม
นนักฟุตบอลที่ทั้งเตะทั้งวิ่ง 90 นาที ต่อทดเวลาบาดเจ็บอีก 30 นาที หรือนักวิ่งมาราธอนนักแข่งไตรกีฬา หรือนักกีฬามืออาชีพเช่นบาสเกตบอล วอลเลย์บอลที่ต้องแข่งเป็นชั่วโมงชั่วโมง เขาก็จะได้ความแข็งแกร่งเพิ่ม
กลับมาดูกันว่ากล้ามเนื้อเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้อย่างไร?
เมื่อร่างกายเราอยู่ในภาวะคับขัน ขาดแคลนอาหารอย่างหนัก เช่น น้องๆทีมหมูป่าติดถ้ำ ไขมันไตรกลีเซอไรด์จะถูกผลิตเป็นน้ำตาล โดยการแยกเอา"กลีเซอรอล" มาผลิตเป็นน้ำตาล
ตรงนี้ไขข้อสงสัยแล้วนะครับคนที่ทำ intermittent fasting เกิน 48 ชั่วโมง ใช้ไกลโคเจนในตับจนลดระดับต่ำสุด นำน้ำตาลมาจากไหน? เพราะร่างกายเราใช้ไขมันผลิตเป็นน้ำตาลได้เอง ไม่ต้องรอน้ำตาลจากอาหารครับ
เมื่อไขมันถูกสลายไปเป็นพลังงาน พร้อมๆกับกล้ามเนื้อที่ถูกสลายเป็นกรดอะมิโนให้ร่างกายใช้ (จากการFastนานเกินไป) จน amino acid pool ไม่มีกรดอะมิโนให้ใช้ กล้ามเนื้อถึงจะหายได้
(ในทางชีววิทยา ร่างกายจะไม่สลายกล้ามเนื้อมาใช้หากคุณกินโปรตีนเพียงพอ เพราะไขมันจะถูกเบิกมาใช้ก่อน)
เหมือนคนที่อ้วน ไดเอทจนผอมลงในระดับลีน ไขมันจะถูกสลายเป็นพลังงานอย่างเดียว(เพราะเขากินโปรตีนถึง เขาจึงรักษามวลกล้ามเนื้อไว้ได้)
**หลายคนกังวลว่ากล้ามเนื้อจะถูกสลายเป็นน้ำตาล จะอยู่ในขั้นตอนเกิดภาวะขาดแคลนอาหารอย่างหนัก (เท่านั้น) เช่นการเกิดวิกฤตขาดแคลนอาหารในทวีปแอฟริกา หรือการขาดแคลนอาหารอย่างหนักของน้องๆทีมหมูป่าติดถ้ำขุนน้ำนางนอน
ดังที่โค้ชอธิบายมา ไขมันจะถูกสลายมาเป็นพลังงานก่อน เมื่อไขมันสะสมในร่างกายต่ำกว่าระดับลีนแล้ว ต่อไปถึงจะเป็นคิวของกล้ามเนื้อครับ!!
โดยร่างกายจะสลายกรดอะมิโนกลูโคจินิคจากกล้ามเนื้อ แปลงเป็นกรดอัลฟาไลคีโต จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นกลูโคส
กระบวนการทั้ง 2เกิดขึ้นในตับ จะเกิดขึ้นเมื่อเกิดวิกฤตอดอยากเพิ่มขึ้นในความรุนแรงที่สูง ตอนนี้ร่างกายจะเกิดภาวะจำศีล เพื่อรักษาชีวิต ระบบเผาผลาญจะทำงานต่ำสุดใช้ในโหมดที่จำเป็นเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดเท่านั้น
แต่เรามักจะเข้าใจว่าร่างกายจําศีล จึงทำให้น้ำหนักไม่ลดลง จริงๆแล้วน้ำหนักไม่ลดลงเพราะวิธีการไดเอทของเขาไม่เข้าสู่ภาวะใช้ไขมันได้ต่างหาก ภาวะจำศีลต้องเกิดในช่วงที่ร่างกายขาดแคลนอาหารอย่างหนัก เช่นเกิดวิกฤตอาหารในทวีปแอฟริกาหรือเคสของน้องๆทีมหมูป่าติดถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ร่างกายถึงจะจำศีลเพื่อรักษาชีวิต
คุณกำลังอยู่ในการลดน้ำหนักแล้วน้ำหนักหยุดนิ่ง ให้แปลความหมายง่ายๆว่าอาหารของคุณมีปัญหา ทำให้เข้าสู่การใช้ไขมันไม่ได้ครับ
**หลายคนมักเข้าใจผิดคิดว่ากล้ามเนื้อจะถูกสลายหากเราออกกำลังกายนาน จนน้ำตาลในเลือดถูกใช้( น้ำตาลในเลือดสูงใช้ไกลโคเจนในตับเรามีอยู่ประมา 400แคลพร้อม support น้ำตาลในเลือดให้เราตลอด) นักกีฬามืออาชีพที่ออกกำลังกายวันละหลายๆชั่วโมงก็เป็นเคสตัวอย่างที่ทำให้เราเข้าใจเรื่องนี้ได้ง่าย
การออกกำลังกายนาน และการหยุดกินอาหารยาวนานเกิน 48 ชั่วโมง จะทำให้กล้ามเนื้อหายได้ในกรณีเดียวคือ amino acid pool ในร่างกายคุณไม่มีใช้เพียงพอครับ( คือคุณกินโปรตีนที่ไม่เหมาะสมนั่นเอง)
ถ้าคุณเข้าใจชีววิทยาร่างกายนี้คุณจะรู้ว่าการไม่กินแป้งเลยก็ไม่ทำให้กล้ามเนื้อหายครับ ยกตัวอย่างให้คุณเห็นภาพง่ายๆ เช่น
เสือ สิงโต เป็นสัตว์กินเนื้อ ไม่เคยขุดมันมาเผากิน มันกินโปรตีนล้วน กล้ามเนื้อมันก็ใหญ่เป็นมัด บึกบึนน่าเกรงขาม
คนที่ลดน้ำหนักแบบ CarnivoreDiet กินเนื้อสัตว์อย่างเดียว ไม่กินแป้งเลย กล้ามเนื้อก็ไม่หายแต่อย่างใด
หรือชาวเอสกิโมที่ไม่สามารถกินพืชได้เลย เนื่องจากภูมิประเทศไม่มีพืช กินเนื้อสัตว์ล้วนก็มีมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแรง กล้ามเนื้อไม่ได้หายแต่อย่างใด
เพียงแค่เวลาคุณเล่นเวทสร้างกล้ามเนื้อ คุณกินแป้ง แป้งทั้งหมดจะถูกบรรจุเข้าไปในถังเก็บไกลโคเจนในกล้ามเนื้อของคุณ คุณจึงทำให้คุณรู้สึกกล้ามโต กล้ามใหญ่ขึ้น เหมือนแป้งคืออากาศที่อัดเข้าไปในลูกโป่ง นั่นก็คือแป้งที่คุณกิน แปลงเป็นพลังงานเก็บไว้ในกล้ามเนื้อของคุณเรียกว่าไกลโคเจน
หลายคนที่กินแป้งแล้วรู้สึกตัวแน่น ตัวบวมตัวขึ้นทันที คนที่เล่นเวทพอกินแป้งคุณจะรู้สึกกล้ามคุณแน่นขึ้น เพราะพลังงานคาร์โบไฮเดรตถูกบรรจุในกล้ามเนื้อของคุณนั่นเองครับ
มาถึงตรงนี้คงมองเห็นภาพแล้วว่าสารอาหารแต่ละอย่างมีกระบวนการใช้งานแตกต่างกัน
- คาร์โบไฮเดรตคือส่วนพลังงาน
- โปรตีนคือส่วนของสารอาหารสำคัญ
ร่างกายไม่ล้ำเส้นเอาโปรตีนมาผลิตเป็นน้ำตาล แต่ร่างกายจะรีไซเคิลพลังงานไขมันเป็นน้ำตาลต่อด้วยเอาโปรตีนเป็นน้ำตาลในช่วงที่วิกฤตสูงสุด
การอดอาหารลดน้ำหนักจะทำให้คุณลดไขมันได้ก็จริง แต่กล้ามเนื้อคุณจะถูกสลายไปด้วย ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการทำลายโครงสร้างร่างกายของตัวคุณเอง
การลดน้ำหนักที่ถูกวิธี ต้องเข้าใจสารอาหารและพลังงาน น้ำหนักของคุณจะลดลงคือไขมันที่ลดลงแต่ยังรักษามวลกล้ามเนื้อไว้ได้
เอาไว้มีโอกาสจะมาอธิบายชีววิทยาร่างกายมากขึ้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจและนำไปสู่การลดน้ำหนักที่ถูกต้อง จากการเข้าใจอาหารระบบร่างกายครับ
"คอร์สผอมไวไม่ใช้ย" คอร์สที่ช่วยให้คุณผอมได้รวดเร็ว ไขมันลดลงทุกวันแม้ไม่มีเวลาออกกำลังกายเลย
💙ขอบคุณที่ติดตามครับ
ผมโค้ชปกรณ์ สอนลดน้ำหนักด้วยวิธีคุมอาหาร กูรูลดไขมันโดยไม่ใช้ยา
เพื่อนๆที่ติดตามโค้ช จะได้รับความรู้และ How to เรื่องลดน้ำหนักได้ที่นี่
🔻สำหรับเพื่อนๆที่อยากผอมไว อยากได้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้หุ่นดี ผอมถาวรตลอดไป
แนะนำใช้ทางลัด ลงคอร์สผอมไวไม่ใช้ยา หุ่นดีด้วยวิธีคุมอาหาร
-ไม่ใช้อาหารเสริม ใช้เนื้อสัตว์และผักเทคนิคที่หาซื้อง่ายตามตลาดทั่วไป
-น้ำหนักลดลงทุกวัน พุงยุบหน้าท้องแบนราบไวโดยไม่ต้องออกกำลังกาย
-น้ำหนักหยุดนิ่งมานาน ลดยากแค่ไหน ก็ลดลงได้ตั้งแต่วันแรกที่ปฏิบัติ และลดลงต่อเนื่องทุกวันไม่หยุดนิ่งครับ
🔺️ สมัครคอร์สของไว้ไม่ใช้ยา
🔹️ราคาคอร์ส5,000บาทโปรโมชั่นพิเศษ 3,000บ ระยะเวลา 1 ปี
🔹️ราคาสุดค้มเพราะผอมจริง ลาออกจากการเป็นคนอ้วนที่นี่ได้เลย❗
🔹️ ค่าคอร์สถูกกว่าค่าขนมต่อเดือนของคุณซะอีก
🔹️เข้าคอร์สแล้วเตรียมเก็บเงินเปลี่ยนเสื้อผ้ายกตู้ได้เลย
👉อยากผอมไวทักโค้ชด่วน!
ID LINE @208hjoow
(โค้ชเทรนเอง ไม่มีแอดมินครับ)
ติดตามโค้ชทาง 4 ช่องทางนี้ครับ
Instagram : @coach_pakorn
facebook : โค้ชปกรณ์
Twitter : @cosmetic_of_p
blockdit : สอนลดน้ำหนักด้วยวิธีคุมอาหาร https://t.co/Rui8I9FW5S
💚 โค้ชปกรณ์ "โค้ชที่ช่วยให้คุณผอมได้จริง"
💙 ขอให้เพื่อนๆพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทุกวัน ขออวยพรให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักนะครับ
- 49
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
