10 ก.พ. 2022 เวลา 05:38 • ความคิดเห็น
ปลาใหญ่ในอ่างเล็ก....
สำนวนฝรั่งคำนี้ ทำให้นึกถึงเพื่อนแถวบ้านเก่าที่คบมาแต่เด็กคนนึง ซึ่งบังเอิญเมื่อคืนมันทักเฟสมาคุยด้วย
เพื่อนผมคนนี้ชื่อ กัน
กันเป็นคนฉลาดมาก สมัยเรียนนี่ถือว่าเรียนเก่งมาก ขนาดค่อนข้างเกเร หนังสือไม่ค่อยอ่าน แต่คะแนนก็มาท็อปๆระดับติดบอร์ดโรงเรียนเสมอ
1
และเป็นคนไหวพริบดีมาก เรียนรู้อะไรเร็ว พูดจามีหลักการน่าเชื่อถือมาตั้งแต่เด็ก
...พูดง่ายๆ ในสายตาผม ไอ้นี่เข้าขั้นอัจฉริยะเลยแหละ และตัวมันเองก็เป็นลูกคนเดียว เป็นความหวังของที่บ้านเลย....
1
...แต่เชื่อไหม ทุกวันนี้มันคือคนที่ไม่มีอะไรเลย เรียกว่าล้มเหลวสิ้นเชิงที่สุดในรุ่น อายุเท่าผมนี่แหละ แต่ยังต้องพึ่งพาทางบ้าน ในด้านการกินอยู่เลย งานก็ไม่มี....
1
ความล้มเหลวของมัน เริ่มเมื่อตอนเอ็นทรานซ์...
จะว่าซวยหรืออะไรก็ไม่ทราบได้ ตอนนั้นที่บ้านมันดันมีปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ธุรกิจทางบ้านล้ม ถึงขั้นพ่อแม่หย่าร้างพอดี
1
ตัวมันเลยเหมือนคนแพแตก เหลือแม่อยู่คนเดียว ส่วนพ่อนั้นต้องหนีหนี้
2
....สภาพจิตใจมันตอนนั้น เป็นที่เข้าใจได้ว่า มันไม่มีแก่ใจจะทำอะไรเลย จากเด็กบ้านรวย ต้องมาเปลี่ยนเป็นจน ตัว
มันเองก็แตกสลาย เริ่มดื่มหนัก เที่ยวหนัก ตั้งแต่ตอนนั้น....
1
สุดท้ายคนที่ฉลาดที่สุดในกลุ่มเพื่อนก็เอ็นฯไม่ติด จะเรียนเอกชนที่บ้านก็ไม่มีเงิน
1
จะเรียนราม หรือราชภัฏตอนนั้นก็ไม่มีคณะที่มันต้องการ(สมัยนั้นคนจบราชภัฏฯ จะได้ ศศบ. ทุกคณะ แค่แยกเอก มันจึงคิดว่าไม่รู้จะเรียนไปเพื่ออะไร และไม่มีคณะให้เลือกมากนักด้วย) ซึ่งตอนหลังมันยอมรับกับเพื่อนๆว่าคิดผิด ที่ไม่ยอมเรียนคณะอื่นไปก่อนตั้งแต่ตอนนั้น
1
มันจึงคิดว่า มันจะรอจนสถานการณ์ทางบ้านดีก่อน ค่อยเอ็นทรานซ์ใหม่ ช่วงนั้นมันก็ยังดีแหละ ทำงานก๊อกแก๊ก เก็บเงินหาเงินช่วยที่บ้าน
....แต่ความซวยซ้ำสองก็เข้ามา เพราะเกิดการเปลี่ยนแปลงระบบเอ็นทรานซ์ครั้งใหญ่ เมื่อถึงช่วงที่มันพร้อม เด็กสอบเทียบอย่างมัน จึงเข้าไม่ถึงการสอบ...
1
...ตอนนั้นมัน 22 แล้ว มันก็เริ่มรู้สึกว่ามันแก่เกินไป จะไปเรียนกับเด็กก็อาย จะเรียน ม.เอกชนก็ไม่มีเงินมากพออีก
และความน้อยใจในโชคชะตา ที่ดูเหมือนมันจะซวยมาตลอดในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ทำให้มันท้อแท้ และชีวิตก็เริ่มออกทะเลในที่สุด
1
ที่สำคัญคือช่วงนั้นเพื่อนร่วมรุ่นส่วนมาก เริ่มเรียนจบกันแล้ว อย่างผมตอนนั้นทำงานแล้ว และเป็นงานที่ค่อนข้างดี ด้วยความที่บ้านใกล้กัน ผมว่าก็คงมีบ้าง ที่มันจะเปรียบเทียบแล้วทัอ อาย
1
มันจึงเริ่มถอยห่างจากเพื่อนวัยเด็กด้วยสาเหตุนี้ แล้วไปคบเพื่อนนอกบ้านอีกลุ่มซึ่งเป็นกลุ่มเด็กเที่ยว เด็กร้านเน็ตร้านเกมส์....แล้วก็ออกทะเลไปไกล ในที่สุด
ด้วยความที่เป็นคนฉลาด และหน้าตา บุคลิกค่อนข้างดี ทำให้ไม่มีใครแยกออกว่า ที่จริงแล้วกันอยู่ในสถานะแบบไหน
1
บางทีแม้แต่ตัวมันเองก็แยกไม่ออก
...มันเริ่มหลงไปกับสถานะใหม่ของมัน เริ่มหลอกคนไปเรื่อยๆ สุดท้ายหลอกแม้กระทั่งตัวเอง ว่านั่นคือตัวตนของมัน
1
ข้อดีอย่างนึงของมันคือ มันไม่เคยเอาความฉลาดของมันไปหลอกเอาเงินทองจากใคร
การหลอกของมัน เหมือนแค่เพื่อหาคนที่ยอมรับในสถานะปลอมๆที่มันสร้างขึ้น เพื่อปลอบใจตัวมันเองเท่านั้น
3
...มันมีแฟนทำงานดีๆได้ มันมีเพื่อนไฮๆได้ คุยกับผู้หลักผู้ใหญ่จนเขาเอ็นดูได้ ทั้งที่ตัวมันเองนั้นบางช่วงแทบไม่ได้ทำงานอะไรเลย
1
...อย่างที่บอกแต่ต้น มันเป็นคนฉลาดมาก รายได้ของมันส่วนมากมาจากการวิเคราะห์โน่นนี่ให้คนอื่น เช่น บอล หุ้น เลยเถิดไปถึงแผนธุรกิจ ที่มันพูดได้แบบเป็นฉากๆ
....ไม่ก็ทำงานเป็นนายหน้า และงานเล็กน้อยอื่นๆ แต่นั่นกลับสร้างรายได้ให้มันไม่น้อยเลยทีเดียว
2
...แต่ เงินที่ได้มา เท่าไหร่ก็หมดไปกับการสร้างสถานะปลอมที่เกินรายได้นั่นแหละ และเพื่อรักษาสถานะเหล่านั้นไว้ มันก็เริ่มเป็นหนึ้สิน
 
...และดูเหมือนว่า ยิ่งมันเห็นเพื่อนร่วมรุ่นไปไกลแค่ไหน มันก็ยิ่งสร้างตาม ดังนั้นมันจึงมีหนี้สินพะรุงพะรังไปหมด ยังดีที่มันเก่งพอที่จะหมุนได้ทัน ไม่โดนเจ้าหนี้กระทืบตาย
1
ความซวยจากสิ่งที่ตัวมันเองก่อไว้ เริ่มมาเยอะขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
มันก็เริ่มสร้างภาพยากขึ้น เพราะถ้าคุณอายุ 35 ไปแล้ว คุณจะอาศัยเงินไม่กี่หมื่นบาทสร้างภาพ มันก็คงไม่มีใครเชื่อถืออีกแล้ว
1
....มันเริ่มเหงา โดยเฉพาะเรื่องความรัก ที่คนรักเมื่ออายุมากขึ้นย่อมต้องมองความมั่นคง มากกว่าฉาบฉวยแบบความรักหนุ่มสาว เหมือนสมัยวัยรุ่น
1
...สุดท้าย มันเสียทุกอย่าง เพื่อนจากความปลอม และที่สำคัญคือรักแท้แต่เกิดขึ้นจากสิ่งปลอม ที่ดูเหมือนทำให้มันเจ็บที่สุดจนแทบกู่ไม่กลับ....
1
...ซึ่งนั่นคือทั้งหมดจนถึงตอนนี้ และดูเหมือนว่าตัวมันเองก็เพิ่งจะตื่นจากฝัน
1
...ฝันที่มันสร้างขึ้นเอง มาสู่โลกของความจริง...
....โลกของความจริงในวัย 45
1
...วัย 45 ที่ไม่มีอะไรเลยในชีวิต แม้แต่ที่อยู่ที่ทุกวันนี้ต้องไปอาศัยกับญาติทางแม่....
(ซึ่งผมกลับมองว่า ไอ้บ้านหลังนี้แหละที่ทำให้มันเหมือนสับสนกับสถานะตัวเอง เพราะญาติทางแม่มันค่อนข้างรวย บ้านใหญ่โต มันเองก็อยู่สบาย วางตัวไฮได้ แต่จะยังไงก็ไม่ใช่ของมัน)
2
เรื่องของกัน ผมขอมันมาเขียนในที่นี้ เพราะเห็นว่ามันสอนอะไรคนเราได้หลายอย่าง
....คนเราบางครั้งต้องยอมรับชะตากรรม และเดินไปตามนั้น การดื้อดึงแข็งขืน มันอาจไม่ใช่เรื่องดี เพราะไม่แน่หรอกว่า ความโชคร้ายในตอนแรก มันอาจทำให้เราพบทางใหม่ที่ดีกว่าไม่ได้
2
...ความรัก ที่แม้รักจะเกิดขึ้นจากความปลอม แต่เมื่อความรู้สึกมันจริง แล้วต้องเสียไป มันสร้างบาดแผลได้หนักหนาสาหัสจริงๆ ดังนั้นอย่าไปหลอกใครเพื่อให้ได้ความรักมา
1
...คนเก่ง ในที่ที่ไม่เหมาะไม่ควร บางครั้งมันก็น่าเสียดายจริงๆ มันเหมือนปลาใหญ่ในอ่างเล็ก ที่ตัวปลาเอง ยังไงก็ไม่สบายตัว จะทำให้ตัวเล็กลงก็ไม่ได้ ดิ้นไปดิ้นมา สุดท้ายก็ตกออกมาตายนอกอ่าง มันเป็นแบบนี้จริงๆ
1
...และ คนที่หลอกตัวเองนั้น ไม่มีใครได้รับผลดีในบั้นปลาย แม้แต่คนเดียว ไม่ว่าคุณจะเก่งขนาดไหนก็ตาม....
1
เมื่อคืนตอนมันทักมา ผมยังนึกว่ามันจะยืมเงินด้วยซ้ำ เพราะไม่ได้คุยกันจริงจังมานานแล้ว
แต่มันกลับทักมา เพราะได้ข่าวว่าผมจะเปิดร้านใหม่เลยทักมาของานล่วงหน้า มันว่างานผู้จัดการร้านอาหารมันเคยทำมาก่อนมีโควิด เลยอยากสมัครไว้ล่วงหน้า วันละ 3-4 ร้อยก็ไม่เกี่ยง
" กูอยากทำงานก๊อกแก๊กแบบนี้เก็บเงินไปก่อน เก็บเป็นทุนจะได้มีทางไป "
1
....มันบอกผมแบบนั้น....
ผมถามมันว่า ขอเรื่องชีวิตมึงไปเขียนได้ไหม มันสอนใจคนดี
2
" เอาเลย กูไม่อยากให้ใครเป็นแบบกู ถ้ามันช่วยคนอื่นได้ กูก็ยินดี "
2
....นี่คือคำตอบของมัน และเป็นที่มาของโพสต์นี้ในวันนี้ครับ....
โฆษณา