10 ก.พ. 2022 เวลา 09:41 • นิยาย เรื่องสั้น
เมื่อสาวเงาะป่าซาไก มีใจให้หนุ่มคนเมือง
ณ เทือกเขาบรรทัดที่ทอดยาวพาดผ่านไปหลายจังหวัดบนดินแดนทางใต้ ในราวปีพ.ศ. 2530 ม่อนหนุ่มคนเมืองในวัยสามสิบต้นๆ ได้ปลูกขนำ (กระต๊อบ)ไว้ตรงเชิงเขา และเขากับเพื่อนมักจะเดินขึ้นภูเขาเพื่อล่าสัตว์ในวันว่าง โดยที่ไม่เคยรู้ว่าผืนป่าในภูเขาที่ตัวเอง และเพื่อนๆได้เข้าไปนั้น เป็นที่อยู่ของชนเผ่าพื้นเมืองซาไก หรือที่เรียกอีกชื่อว่า เผ่ามันนิ เพราะหลายครั้งที่ม่อนเข้าไปเขาไม่เคยเจอะเจอกับเงาะป่าซาไกเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แต่แล้ววันหนึ่ง ในขณะที่ย๊ะสาวซาไกกำลังล่าสัตว์อยู่นั้น และม่อนเองก็เดินดุ่มล่าสัตว์มาอีกทิศทางหนึ่ง ด้วยบุพเพแสนกลทำให้ทั้งสองมาเจอกันด้วยความบังเอิญ ย๊ะเมื่อหันมาเห็นหนุ่มคนเมืองเธอก็ตกใจสุดขีด เพราะไม่เคยเห็นชายใดนอกจากคนในเผ่าเดียวกัน หญิงสาววิ่งหนีไม่คิดชีวิตจนเกือบจะตกเหว ส่วนม่อนนั้นเมื่อเห็นสาวเงาะป่าเขาก็ตกตะลึง เพราะไม่นึกไม่ฝันว่าเรื่องราวของเงาะป่าที่เคยเรียนจากในหนังสือนั้นจะมีอยู่จริง
3
หลังจากเจอกันในคราวนั้น เมื่อม่อนเข้าป่าล่าสัตว์อีกก็พบกับทับ(เพิงที่อยู่ของเงาะป่าซาไก) และที่นั่นเขาได้เจอกับย๊ะ และได้รู้ว่าย๊ะคือลูกสาวของหัวหน้าเผ่ามันนิ
เธอเป็นลูกสาวของหัวหน้าเผ่าที่สวยที่สุดในบรรดาสาวชาวซาไกในตอนนั้น ม่อนบอกตัวเองอย่างนั้น แต่เขาไม่ได้หลงรักเธอเช่นรักแรกพบ เขามีแต่ความสงสารในความเป็นอยู่เลยช่วยเหลือครอบครัวของย๊ะเรื่อยมา เอาเสื้อผ้าไปฝากบ้าง แบ่งปันในสิ่งที่มีอยู่ จนเริ่มสนิทสนมกัน และพ่อของย๊ะก็ชอบใจในตัวม่อน เพราะเขาเป็นคนมีน้ำใจ
ไม่นานนักความสัมพันธ์ของม่อนและย๊ะก็เริ่มคืบหน้า เพราะย๊ะไม่กลัวม่อนแล้ว ในวันหนึ่งหลังจากกลับจากล่าสัตว์ ม่อนได้แวะพักที่ทับของย๊ะ วันนั้นบรรยากาศช่างเป็นใจ รายรอบราวป่าไพรเหมือนรอคอยฝน บนฟ้าเหนือภูสูงเมฆฝนเริ่มตั้งเค้าและไม่นานนักเม็ดฝนก็โปรยปราย
ม่อนนั่งอยู่ในทับของย๊ะเพื่อรอให้ฝนซา เขาคิดว่าฝนหยุดแล้วจะลงจากเขาเพื่อกลับไปที่ขนำ แต่ฝนเหมือนแกล้ง ตกแรงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมืดค่ำ ย๊ะที่นั่งนิ่งๆไม่ค่อยพูดแอบเหล่มองม่อนเป็นครั้งคราว และเธอได้ก่อกองไฟเผาเผือกเผามันให้ม่อนกินเป็นมื้อค่ำ
1
...กลับก่อนนะ มืดค่ำแล้ว
...นอนที่นี่ก็ได้
ย๊ะบอกเสียงเบาๆและปูใบไม้บนพื้นดินในทับให้ม่อนนอน ส่วนตัวเองหลบไปนอนอีกมุมหนึ่ง ม่อนนั้นไม่ชินกับการนอนบนดินแถมผ้าห่มก็ไม่มี เขาไม่คุ้นชินกับวิถีชาวป่า และเริ่มหนาวเพราะฝนก็ตกหนัก ...หนาว กอดได้มั้ย เมื่อถามออกไปก็ไร้วี่แววสาวเจ้าตอบกลับ
1
พอตกดึกม่อนรวบรวมความกล้าปัดป่ายแกล้งก่ายกอดสาวผิวสีร่างเล็ก ย๊ะไม่ได้เต็มใจแต่ขัดขืนได้ไม่นานนักเพราะเธอนั้นก็แอบชอบม่อนอยู่ ในทับกลางป่าใหญ่ภายใต้สายฝนพรำภาษากายใคร่เสน่หาก็ดำเนินไปตามครรลองของความต้องการ
วันรุ่งขึ้นเมื่อม่อนกลับถึงขนำเขาก็คิดทบทวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน และยอมรับว่าตัวเองนั้นทำไม่ถูกต้อง เขาได้ลวนลามเผลอเรอรวบรัดจนย๊ะเองก็ไม่ทันตั้งตัว
1
ม่อนย้อนกลับขึ้นไปที่ทับอีกครั้งเพื่อจะรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป ชายหนุ่มสู่ขอย๊ะด้วยตัวเอง และขอโทษพ่อและแม่ของย๊ะที่ได้ทำผิดผีไป เขายืนยันจะรับผิดชอบทุกอย่าง พ่อของย๊ะได้บอกเขาว่า ไปถามย๊ะดู ถ้าย๊ะตอบตกลงเขาก็ไม่ว่าอะไร ขอให้ลูกสาวสมัครใจแค่นั้นเป็นพอ เมื่อพ่อถามย๊ะว่าชอบม่อนหรือไม่ ย๊ะก้มหน้าหลบตาปกปิดอาการขวยเขินไว้ ...ชอบ
นับตั้งแต่นั้นมาม่อนก็พาย๊ะมาอยู่ด้วยกันที่ขนำ ทั้งคู่ปลูกผัก และใช้ชีวิตอิงธรรมชาติ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ทั้งคู่อยู่ด้วยกันมากว่าสามสิบปี มีลูกด้วยกันสามคน ลูกคนโตนั้นอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ชีวิตคู่มีทะเลาะกันบ้างตามประสาผัวเมีย แต่ยังคงรักกัน และดูแลกันจนตอนนี้ทั้งสองอายุเข้าวัยหกสิบปีแล้ว
1
..เมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาด
บุพเพสันนิวาส
ที่ประสาทความรักภิรมย์....
1
💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖💖
เรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มคนเมืองและสาวเงาะป่า ซึ่งเกิดขึ้นจริงๆตามที่เรไรได้เรียบเรียงให้ออกมาในแนวนิยายรักสั้นๆ หนุ่มคนเมืองมีชื่อว่านายอนันต์ จันทร์คง หรือม่อน ชายชาวสงขลาที่ไปพบรักกับสาวซาไกบนเทือกเขาบรรทัด ชื่อว่าย๊ะ เป็นความรักที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว
1
จากที่ได้อ่านเรื่องราวของทั้งคู่ เห็นได้ว่าความรักอยู่บนพื้นฐานของความจริงใจ คุณม่อนไม่ได้รักย๊ะแบบเห็นหน้าปุ๊ป แล้วถูกใจในทันที แน่นอนเขามีสิทธิ์เลือกเพราะสาวเมืองที่หน้าตาดีมีมากมาย แต่ทำไมเขารักย๊ะ
ความรักของคุณม่อนเริ่มต้นที่สงสาร และเอ็นดู และให้ความช่วยเหลือ ต่างฝ่ายต่างมีน้ำใจให้กัน เมื่อคุณม่อนได้เสียกับย๊ะแล้ว เขาไม่รับผิดชอบก็ยังได้ และคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะสาวชาวป่าคงไม่กล้าทวงถาม แต่เขาเป็นลูกผู้ชายกล้าทำก็กล้ารับ
นับตั้งแต่วันที่เขารับย๊ะเป็นภรรยานั่นหมายความว่าเขาไม่สนใจคำติฉินนินทาของคนทั่วไป เพราะการมีเมียเป็นเงาะป่าคงหนีไม่พ้นคำนินทา คำดูถูก หรือคำว่ากล่าว คุณม่อนรับได้และดูแลลูกเมียเรื่อยมา
1
และแม่ของคุณม่อนเองก็เป็นผู้หญิงที่ใจดี แกยอมรับภรรยาเงาะป่าของลูกชาย ยอมรับลูกสะใภ้จากเทือกเขาสูง คำพูดของแม่คุณม่อนบอกว่า ..ย๊ะเป็นคนดี มีน้ำใจ พูดน้อย อดทน ขยันทำงาน ย๊ะเป็นคนเหมือนเรานี่ล่ะ แค่เป็นคนป่าก็เท่านั้น
2
ในสายตาของคุณม่อน ย๊ะไม่สวย แต่มีน้ำใจ อดทนขยันขันแข็งในการทำงาน เขามองเห็นความสวยที่ใจเธอ
ส่วนย๊ะเองในช่วงแรกๆที่อยู่ด้วยกันเธอยอมมาอยู่กับคุณม่อน ไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนที่ผ่านมา เธอเป็นคนป่า เธอเกิดในป่า เธอจึงโหยหาป่าเพราะนั่นคือบ้านของเธอ แต่เพราะรัก เธอจึงยอมมาใช้ชีวิตแบบวิถีคนเมืองกับคุณม่อน
1
ในตอนที่อยู่ด้วยกันใหม่ๆคุณม่อนต้องการผลักดันให้ครอบครัวคนป่าซาไกได้เข้ามาอยู่ในเมือง เพราะเห็นว่าพวกเขาคงจะสะดวกสบายขึ้น โดยลืมไปว่าจิตวิญญาณของพวกเขาเป็นคนป่า เขามีความสุขเมื่ออยู่กับธรรมชาติ แต่เดี๋ยวนี้คุณม่อนได้สร้างทับและอาศัยอยู่กับชาวเงาะป่าคนอื่นๆ สิ่งนี้คงทำให้ย๊ะมีความสุขมากขึ้นเพราะได้อยู่ใกล้ญาติพี่น้อง คุณม่อนไปอยู่ทับกับย๊ะ เพราะอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะรักและเข้าใจ
ขอบคุณภาพประกอบบทความ
เป็นเรื่องราวความรักที่น่าประทับใจ
...ความรัก ศักดิ์ศรี
รักไม่มีพรมแดน รักไม่มีศาสนา....
2
ส่งต่อเรื่องราวความรักนี้ไปที่ กิจกรรม
“ Love Exhibition นิทรรศการแห่งรัก ” 😊
ที่เพจ “ เพราะโลกไม่ได้กว้างเกินไปกว่าใจ”
1
โฆษณา