Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Rocket Digital
•
ติดตาม
12 ก.พ. 2022 เวลา 03:00 • การตลาด
ทำไมลูกค้าเดี๋ยวนี้ “หลายใจ” จังเลย?!!
ไม่มีใครปฏิเสธว่า เราอยู่ในยุคที่ผู้บริโภค “ย้ายค่าย” กันง่ายเหลือเกิน
แบรนด์ทำดีแค่ไหน แต่ถ้าลูกค้าเจอแบรนด์อื่นที่ดีกว่า(แค่นิดเดียว) ก็พร้อมย้ายค่ายทันที
เรื่องนี้ก็ชวนฉุกคิดว่า…ทำไมผู้คนถึง “ไม่ภักดี” (Disloyalty) ต่อแบรนด์?
________________________________________
🚀 เปลี่ยนบ่อยกว่าแฟน(😜) …ก็สินค้า
ยุคนี้ เรารับรู้สินค้าออกใหม่จากอีกซีกโลก และกดสั่งซื้อได้ง่ายดาย
เกิดภาวะ “ชอบลองของใหม่” (Newism) อย่างไม่มีสิ้นสุด
ผลสำรวจจาก Nielsen เผยว่า มีผู้บริโภคแค่ 8% ที่เชื่อมั่นว่าตัวเอง Loyalty ต่อแบรนด์อย่างหนักแน่น
ขณะที่อีก 46% รู้สึก “สนุก” ที่ได้ลองสินค้าใหม่ๆ จากแบรนด์ต่างๆ
คนกลุ่มนี้เต็มใจที่จะย้ายค่ายเพื่อลองสินค้าที่หลากหลายในท้องตลาด เป็นความตื่นเต้นที่ไม่รู้ว่าสินค้าใหม่จะนำพาตัวเค้าเองไปพบเจอกับอะไร
The Rise of Newism ยังเกิดขึ้นคู่ขนานกับผู้บริโภคยุคใหม่ที่ “เปิดกว้างทางความคิด”
พวกเค้าไม่ได้ยึดติดแบรนด์ใหญ่ที่เป็นที่ยอมรับในท้องตลาด (Established brands) ซึ่งมักเป็นผู้วางมาตรฐานให้กับหลายๆ เรื่องเสมอไป
แต่พร้อมเปิดใจรับแบรนด์น้องใหม่ ถ้าคุณภาพสินค้าดีจริงหรือมาพร้อมคุณค่าบางอย่างที่ตัวเองยึดถือ (เช่น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม)
✅ ดื่มไวน์แดงดีๆ ได้…โดยไม่ต้องมาจากฝรั่งเศส
✅ ใส่เสื้อกีฬาดีๆ ได้…โดยไม่ต้องมาจาก Nike
✅ ดื่มกาแฟดีๆ ได้…โดยไม่ต้องมาจาก Starbucks
Newism ยังสอดคล้องกับจิตวิทยาในการค้นหา “ความสุข” ของมนุษย์เรา
มนุษย์มักต้องมีเป้าหมายใหม่ๆ เพื่อไปให้ถึง (เช่น จาก A ไป B) โดยคิดว่าถ้าไปถึงแล้วจะมีความสุข
แต่เมื่อไปถึงแล้ว มักจะมีความสุขได้ไม่นาน ก่อนจะค้นหาเป้าหมายใหม่ๆ วนลูปเดิม (เช่น จาก B ไป C)
กล่าวได้ว่า Newism ตอบสนองสัญชาตญาณมนุษย์ตรงนี้ได้เป็นอย่างดี
________________________________________
🚀ลูกค้า “ขุดคุ้ย” แบรนด์ทุกซอกทุกมุม (😎)
ทุกวันนี้เวลาคน “พิจารณาแบรนด์” เค้าไม่ได้มองแค่ด้านหลักๆ ด้านเดียวอีกต่อไป (เช่น ราคา-คุณภาพสินค้า)
แต่มองหลากหลายมิติที่ลึกซึ้งขึ้น (เช่น อุดมการณ์บางอย่างที่แบรนด์ยึดถือ)
แม้คุณภาพ-ราคาดีแค่ไหน แต่คนก็พร้อมย้ายค่าย
✅ ถ้า…แบรนด์ปฏิบัติต่อพนักงานไม่ดี (เช่น กดค่าแรง)
✅ ถ้า…แบรนด์ไม่สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น
✅ ถ้า…แบรนด์ใช้วัตถุดิบที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
✅ ถ้า…แบรนด์นำประเด็นทางการเมืองมาล้อเลียน
รายงานจาก First Insight เผยว่า ผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z กว่า 73% ยินดี "จ่ายแพงขึ้น" ถ้ารู้ว่าสินค้าชิ้นนั้นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (เช่น สินค้านำกลับมารีไซเคิลได้ 100%)
แล้วเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับ #Disloyalty ?
เพราะยิ่งมีเกณฑ์พิจารณามากเท่าไร แบรนด์ยิ่งมีโอกาส “สอบตก” มากเท่านั้น
สอบผ่านเรื่องคุณภาพสินค้า…แต่สอบตกเรื่องสิ่งแวดล้อม
สอบผ่านเรื่องราคา…แต่สอบตกเรื่องความเป็นธรรมต่อพนักงาน
และเมื่อใดก็ตามที่สอบตก…เมื่อนั้น ผู้บริโภคก็พร้อมย้ายค่ายทันที
________________________________________
🚀 เปลี่ยนใจไปเรื่อยขอให้โทษ “โฆษณา” (😱)
โดยเฉลี่ย คนเราเห็นโฆษณา 6,000-10,000 โฆษณา/วัน
หมายความว่า ผู้คน “รับรู้” ความเป็นไปล่าสุดของแบรนด์ / โปรโมชั่นสุดพิเศษ / สินค้าออกใหม่ / กิจกรรมน่าสนใจ…อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
ทุกแบรนด์แย่งความสนใจจากผู้คนและโน้มน้าวให้มาซื้อสินค้าแบรนด์ตัวเอง
…ไม่แปลกเลยที่จะเกิด Disloyalty
เพราะ ไม่ทันที่ผู้คนจะซาบซึ้งแบรนด์ A (จนก่อให้เกิด Loyalty) ก็ถูกแบรนด์ B-C-D-...-Z รุมแย่งตัวซะแล้ว!!
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ คาเฟ่/ร้านกาแฟ ที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดและยิงโฆษณาเชื้อเชิญให้ผู้คนมาลอง ถึงขั้นเกิดวัฒนธรรม Café Hopping (ตระเวนเปลี่ยนร้านไปเรื่อย)
________________________________________
🚀 ระบบสะสมแต้มที่แค่ “ทำตามๆ กัน” (😩)
Loyalty Program ของแบรนด์ทั่วไป มักเป็นในลักษณะ…เห็นแบรนด์อื่นทำก็ “ทำตามๆ กัน” โดยไม่ได้ดูบริบทว่าเหมาะสมกับธุรกิจตัวเองหรือไม่
เช่น ซื้อกาแฟ 10 แก้ว แถม 1 แก้ว (ไม่ได้เหมาะกับทุกร้านกาแฟ)
พอ Privileges & Benefits ไม่น่าดึงดูด ลูกค้าก็ไม่เอนเกจ เพราะไม่รู้ว่าทำไปแล้วได้อะไร
นอกจากนี้ แบรนด์ยังเจอกับ Pain Point ของซอฟต์แวร์ Loyalty Program ที่ไม่มีประสิทธิภาพ (Loyalty Program มีทั้งที่เป็นแบบซอฟต์แวร์ และ ไม่ใช่ซอฟต์แวร์)
เช่น
✅ จำกัดฟีเจอร์ เงื่อนไขยิบย่อย (สุดท้ายไม่ได้ของจริง!!)
✅ ใช้งานยาก ดีไซน์โบราณ ลดทอน User Experience
✅ ปฏิสัมพันธ์จำกัด ไม่สามารถทำจบครบได้ในที่เดียวได้
Loyalty Program ที่เวิร์คจริง ต้องผ่านการวางแผนระดับกลยุทธ์และการเลือกใช้ “ซอฟต์แวร์” ที่เหมาะสมกับธุรกิจ (และบอกลา Disloyalty!!)
เราขอแนะนำ “Rocket Loyalty Hub” จาก Rocket ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ ซึ่งจะมาแก้ Pain Point ของ Loyalty Program ทั้งหมดที่กล่าวมา
🚀 1. Design - ดีไซน์สวยทันสมัยที่สุดเจ้าหนึ่งในตลาด ใส่ใจทุก User Experience
🚀 2. Unlimited Customizable Feature - ไม่จำกัดฟีเจอร์ ออกแบบได้อิสระในแบบที่ตอบโจทย์ธุรกิจคุณมากที่สุด
🚀 3. Choices of Reward - ลูกค้าปฏิสัมพันธ์ได้หลากหลาย จบครบในที่เดียว ที่ Loyalty Hub
🚀 4. Consumption Based - จ่ายตามการใช้งาน ถ้าคุณ(ยัง)ไม่มีลูกค้าเลย ก็ไม่ต้องเสียเงินซักบาท…
รีบลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์เข้าร่วมทดลองใช้ (จำนวนจำกัด) และรับแพกเกจราคาพิเศษก่อนใคร!! ได้ที่นี่ >>>
bit.ly/35xt39w
#RocketLoyaltyHub #LoyaltyHub #LoyaltyProgram #CRM #BrandLoyalty
ติดตาม #RocketDigital ได้ที่
📍Facebook -
facebook.com/rocketdigitalth
📍Instagram - @rocket.thailand
📍LINE -
lin.ee/2H1hfKJ
📍LinkedIn -
linkedin.com/company/rocket-digital-thailand
อ้างอิง
https://www.nielsen.com/eu/en/press-releases/2019/consumer-disloyalty-is-the-new-normal/
https://nielseniq.com/global/en/insights/analysis/2019/battle-of-the-brands-consumer-disloyalty-is-sweeping-the-globe/
https://www.nielsen.com/wp-content/uploads/sites/3/2019/06/disloyalty-infographic-report-europe.pdf
https://www.cnbc.com/2021/08/10/the-environment-is-gen-zs-no-1-concern-but-beware-of-greenwashing.html#:~:text=Gen%20Z%20shops%20green&text=1%20concern%20for%20Gen%20Z,to%20a%20recent%20Deloitte%20survey.&text=According%20to%20a%202020%20report,more%20than%20every%20other%20generation
.
https://www.warc.com/newsandopinion/news/asia-pacific-consumers-show-most-brand-disloyalty/en-gb/42269
การตลาด
เทคโนโลยี
ธุรกิจ
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย