13 ก.พ. 2022 เวลา 11:31 • ปรัชญา
60 ให้นับปี 70 ให้นับเดือน 80 ให้นับวัน
2
  • วันนี้มีโอกาสได้ไปกินมื้อกลางวันกับเพื่อน 3 คน
  • เพื่อนคนแรก เป็นเพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกัน อายุจึงเท่าๆ กัน คือเลยวัย 50
  • เพื่อนคนที่สอง เป็นเพื่อนที่รู้จักกันที่ฟิตเนสเซ็นเตอร์เมื่อราว 10 ปีก่อน คนนี้วัย 40 ต้นๆ
  • ส่วนเพื่อนอีกคน เป็นเพื่อนรุ่นน้องของเพื่อนคนที่ 2 อีกที ซึ่งอายุก็ลดลงไปอีกหน่อย คือวัย 30 กลางๆ
  • แต่ที่พวกเราสนิทกันได้ ก็เพราะมีนิสัยรักการท่องเที่ยวเหมือนกัน และเราก็อยู่ในกรุ๊ปไลน์ที่ตั้งขึ้นกันเองว่าเป็นกลุ่มชอบเที่ยว แล้วก็พยายามจัดทริปกันทุกปี ไม่ว่าจะเที่ยวไทยหรือเที่ยวต่างประเทศ ถ้าใครในกลุ่มสะดวกก็จัดกันอย่างรวดเร็วฉับไวประสาคนคอเดียวกัน มื้อนี้ก็จึงเป็นมื้อหนึ่งที่เมื่อเจอกันแล้วก็ต้องมีการแพลนแผนเที่ยวกัน
2
#naturenickname
  • พอคุยถึงแพลนเที่ยว ก็เลยไปถึงสถานที่เที่ยวสาย "มูเตลู" ที่คนนิยมไปกัน แต่กลุ่มเราไม่ค่อยถนัดเที่ยวแบบนั้นนัก
  • คุยเรื่องมูเตลูกันไปมา ก็ไปโผล่ที่เรื่องของการดูหมอ และการทำนายอายุ ว่าใครจะอายุสั้นอายุยืนสักเท่าไหร่ ซึ่งเท่าที่สรุปได้ การดูหมอก็ใช่ว่าจะเป็นการเชื่อแบบงมงายหรือต้องไปเสียเงินเสียทองเพื่อสะเดาะเคราะห์ แต่เป็นการดูเพื่อเป็นแนวทางประกอบการใช้ชีวิตในแต่ละช่วงซะมากกว่า
  • พอพูดถึงการทำนายอายุจากหมอดู ผมก็เลยนึกถึงสุภาษิต หรือคำสอนของคนจีนโบราณขึ้นมาได้ว่า...
60 ให้นับปี
70 ให้นับเดือน
80 ให้นับวัน
#สุภาษิตจีนโบราณ ไม่ทราบที่มา
1
  • ครั้งแรกที่ได้ยินคำกล่าวนี้ ผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจลึกซึ้งนัก จนมาได้ฟังคำอธิบายจากเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งแจงรายละเอียดให้เป็นข้อๆ ว่า....
  • 60 ให้นับปี ก็หมายถึง พออายุ 60 เข้าวัยเกษียณเมื่อไหร่ ก็ให้ลองคำนวณต้นทุนสุขภาพดู ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกสักกี่ปี คือยังคิดเป็นหลักปีได้ ถ้ากะว่าจะตายตอนอายุสัก 80 ก็เหลือเวลาอีกแค่ 20 ปี คือใช้ชีวิตมา 3 ใน 4 ของเวลาที่มีแล้ว จะทำอะไรก็รีบทำซะ
1
  • พออายุเข้า 70 ปี เมื่อไหร่ คราวนี้ไม่ต้องนับหลักปีแล้ว ให้เปลี่ยนมานับเดือน อันนี้ก็ไม่ใช่ว่าให้ไปนอนนับเดือนนับดาวว่ามีกี่ดวง แต่ตระหนักได้แล้วว่า หลักปีนั้นไม่ใช่อีกต่อไป เพราะอาจจะตายเดือนไหนในปีนี้ก็เป็นได้
1
  • ถ้าโชคดี อยู่ได้ถึง 80 ปีเมื่อไหร่ คราวนี้ก็นับวันรอได้เลย ไม่พรุ่งนี้ มะรืนนี้ ก็เร็วๆ นี้แหละ แต่วันไหนไม่รู้ เพราะคนส่วนใหญ่ที่จะมีอายุอยู่ถึง 90 ปีนั้น เรียกว่านับหัวได้เลย... ไม่น่ารอด
1
  • ก็อย่างที่ทุกคนรู้ ร่างกายย่อมเสื่อมไปตามอายุ การจะทำ จะกิน จะเที่ยว จะเล่นสนุกอะไรอย่างไร ก็ให้ทำเสียในตอนที่ยังมีแรง คือยังเป็นหนุ่มเป็นสาวกันอยู่ โดยเฉพาะถ้าได้สร้างฐานะที่มั่นคงพอเพียงถึงระดับหนึ่งแล้ว ก็อย่ามัวเอาแต่สะสมเพิ่ม ให้ใช้เงิน ใช้ชีวิตบ้าง เพราะหากร่างกายร่วงโรยหรือเจ็บป่วยเรื้อรังเมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นมีเงินมากแค่ไหน จะกินอะไรก็ไม่อร่อย จะเที่ยวไหนก็เดินไม่ไหว เห็นอะไรแปลกใหม่ก็ไม่รู้สึกสนุกแล้ว...
2
  • ย้อนกลับมาที่ตัวเอง ก่อนปิดบทสนทนากับเพื่อนทั้ง 3 ในวันนี้ ก็คิดไปได้ว่า...
  • ถ้าเราอายุสัก 60 หรือ 70 ไปแล้ว เรี่ยวแรงก็คงถดถอย ลูกก็ไม่มีแน่ๆ แล้ว ส่วนหลาน หากเขาไม่มีเวลามาเยี่ยมเยียน เราก็ว่าอะไรเขาไม่ได้ ก็คงต้องอาศัยเพื่อนต่างวัยที่ยังเป็นหนุ่มเป็นสาว หรือยังไม่โรยชรานักนี่แหละ ที่น่าจะมาเคาะห้อง ช่วยเอาน้ำเอายามาให้กันได้ หรืออย่างน้อยปิดฉากสุดท้าย... โทร.เรียกรถมาเก็บศพก็ยังดี
1
  • บทสรุปจากการสนทนาในวันนี้ จึงอยู่ที่... การใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทแต่คุ้มค่าที่เกิดมาเป็นคน คบเพื่อนต่างวัยเอาไว้บ้าง การมีเพื่อนสูงวัยกว่า.. เราก็จะได้เรียนรู้ประสบการณ์จากเขา การมีเพื่อนวัยน้อยกว่า.. เราจะได้ขอเรี่ยวแรงกันยามฉุกเฉิน
1
  • แต่วันนี้อิ่มกันแล้ว เตรียมแพลนเที่ยวกันได้แล้ว ก็ขอแยกย้ายสลายตัวกลับไปพักผ่อน แล้วช่วยกันเชียร์อัปให้พากันออกกำลังกายบ่อยๆ จะได้มีแรงไปกินไปเที่ยว ไปสู้ชีวิตกันต่อ ใช้ชีวิตกันไป จนกว่าจะต้องการความช่วยเหลือ เพราะเราก็จะคบกันไปจนกว่าจะ “จำหน้ากันไม่ได้” นั่นแหละ!
1
  • ตอนนี้คุณนับปี เดือน วัน หรือนับอะไร ช่วยคอมเม้นต์หน่อย
  • #naturenickname
  • #งานเขียนเชิงทดลองหากกลั่นกรองจากความรู้สึก
  • #แล้วจะมาเล่าต่อ
โฆษณา