13 ก.พ. 2022 เวลา 16:29 • คริปโทเคอร์เรนซี
เบิกเนตร จักรวาลบล็อกเชนและคริปโตเคอเรนซี่ EP 1
เมื่อคุณหลุดเข้ามาในโลกของบล็อกเชน มุมมองต่อเหรียญคริปโตฯของคุณจะเปลี่ยนไปตลอดกาล
หลายๆคนยังไม่เข้าใจว่าคริปโตเคอเรนซี่และบล็อคเชนคืออะไร และมันทำอะไรได้บ้าง ทำให้เราไม่กล้าที่จะลงทุนในระยะยาวกับมัน
และเพราะเหตุนี้ คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาลงทุนคริปโตฯถึงออกจากฝั่งไปได้ไกลสุดไม่พ้น Exchange Platform เสียที
บทความนี้แอดอยากจะแสดงให้เห็นความต่างระหว่างการ “เทรด”คริปโตฯ กับการ “เล่น” คริปโตฯหรือเชนต่างๆ และวิธีมูฟออนสู่จักรวาลคริปโตฯจริงๆ ว่าเขาคิดกันอย่างไร ทำกันอย่างไร และเป็นการเปิดมุมมองต่อคนที่ไม่กล้าเข้ามาลงทุน
แอดขอแบ่งกลุ่มนักลงทุนในจักรวาลบล็อกเชนออกเป็น 2 ประเภท “กลุ่มเทรดเดอร์ทั่วไป” และ “กลุ่มนักลงทุนคริปโตฯ”
ถ้าหากว่าคุณคิดหรือมีพฤติกรรมดังต่อไปนี้ แสดงว่าคุณเข้าข่ายเป็นคนกลุ่มเทรดเดอร์ทั่วไป
ใน EP นี้ แอดอยากจะนำเสนออีกมุมมองนึงของคนที่เข้ามาลงทุนในโลกคริปโตฯว่าคิดกันยังไง อะไรคือสิ่งที่ทำให้คนเหล่านี้พูดได้เต็มปากว่า “ถ้าเราเชื่อในพื้นฐานของเหรียญ เราจะกล้าลงทุนในความรู้ของเรา” อะไรคือความเชื่อเหล่านั้น
1. มองว่าคริปโตฯเป็นสิ่งที่ยากต่อการเข้าใจ และไม่สามารถหามูลค่าที่แท้จริงได้ จริงหรือ?
ตอบ คริปโตฯไม่ใช่สิ่งที่ยากต่อความเข้าใจ หากแต่เป็นเพียงสิ่งใหม่ต่อโลก เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลา ทำให้ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้
การวัดหามูลค่าแท้จริงไม่ใช่ทำไม่ได้เสียทีเดียว เพียงแต่ทำได้ยากและไม่มีใครเขาทำกัน
หากคุณเป็นคนที่ไม่มั่นใจในการลงทุนหากไม่รู้มูลค่าที่แท้จริงของมัน แอดขอบอกเลยว่า คุณกำลังยึดติดกับการลงทุนในตลาดหุ้นมากเกินไป
หุ้นสามัญคือสิทธิความเป็นเจ้าของธุรกิจ ถ้าเรารู้และเข้าใจในธุรกิจนั้นๆ ตลาดการแข่งขัน โอกาสการเติบโต ความเสี่ยงต่างๆ เราอาจจะสามารถประเมินมูลค่าของหุ้นเหล่านั้นได้ แต่ถ้าให้เราประเมินว่าทำไมค่าเงินบาทถึงมีมูลค่าเท่ากับที่มันมีในปัจจุบัน? อะไรทำให้มันคงมูลค่าของมันแบบนี้ต่อไป? หรือแม้แต่อะไรทำให้มูลค่า 34 บาท เท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ? ปัจจัยที่ส่งผลต่อมูลค่าของสกุลเงิน เป็นปัจจัยเดียวกันกับปัจจัยที่ส่งผลต่อมูลค่าของเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจะไม่วัดหามูลค่าแท้จริงของมันจากปัจจัยพื้นฐาน สิ่งที่เราจะโฟกัสเพื่อหาปัจจัยบวกหรือลบต่อราคาคือการไหลของเม็ดเงิน ( Money Flow) และ เหตุของการไหลนั้นๆ
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คงคิดว่าแอดก็คงเป็นอีกคนที่คิดว่าคริปโตฯจะมาแทนที่สกุลเงินจริงๆได้แน่ๆ
สำหรับแอด แอดมองว่า เงินคือสิ่งที่ใช้เป็นตัวกลางแสดงมูลค่าในการซื้อขายแลกเปลี่ยน และคริปโตเคอเรนซี่ก็ทำหน้าที่อย่างที่กล่าวมา มันจึงถือว่าเป็นเงินดิจิทัล แต่ไม่มีความจำเป็นจะต้องมาแทนที่เงินกระดาษ ด้วยเหตุผลคล้ายๆกันกับที่เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเงินบาทไปใช้เงินดอลลาร์ เพราะเราสามารถใช้เงินบาทแลกเปลี่ยนของที่จำเป็นได้มากเพียงพอต่อการดำรงชีวิต
2. มองว่าคริปโตฯมีการแกว่งของราคาค่อนข้างสูง ไม่ควรค่าแก่การเข้าสะสมหรือลงทุนในระยะยาว แต่เหมาะกับการเล่นเก็งกำไรเท่านั้นจริงหรือ?
ตอบ ราคาของบิทคอยน์และคริปโตเคอเรนซี่ มีความผันผวนสูงจริง และอะไรก็ตามที่มีความผันผวนของราคาสูงย่อมดึงดูดนักเก็งกำไรเป็นธรรมดา แต่จะให้สรุปเลยว่าไม่เหมาะแก่การเข้าสะสมจริงหรือ
ในมุมมองของแอด แอดอยากให้ทุกคนมองว่าเรากำลังลงทุนกับเทคโนโลยี และเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มีพัฒนาการอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะพัฒนาเพื่อเพิ่มจุดแข็งหรือกลบจุดอ่อน ถ้าเราสามารถย้อนเวลากลับไปจ่ายเงินเพื่อเป็นเจ้าของอินเทอเน็ตได้ แอดเชื่อว่าเราจะต้องยอมจ่ายแน่ถ้าได้เห็นว่าวันนี้อินเทอเน็ตทำอะไรได้บ้าง สิ่งที่แอดอยากจะสื่อก็คือ การลงทุนกับสิ่งที่สามารถพัฒนาอย่างต่อเนื่องและก้าวกระโดดได้ แม้จะยังไม่เห็นว่ามันทำอะไรได้บ้าง ก็เป็นสิ่งที่คุ้มค่า แอดพนันว่าคนส่วนใหญ่ที่ลงทุนซื้อคริปโตเคอเรนซี่ตั้งแต่ปี 2017 นักลงทุนเหล่านั้นต่างเห็นโอกาส แต่ไม่เห็นภาพชัดเจนด้วยซ้ำว่าในปี 2022 มันจะสามารถเอามาทำอะไรแบบที่ปัจจุบันทำได้ และนี่เป็นตัวอย่างของการลงทุนกับเทคโนโลยีที่เห็นภาพที่สุด
เช่นเดียวกันกับคนที่ซื้อคริปโตเคอเรนซี่ในปัจจุบัน เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในปี 2030 มันจะเอาไปทำอะไรได้บ้างแล้ว หรืออาจจะหายไปจากโลกนี้ แต่เราเลือกลงทุนในพัฒนาการของเทคโนโลยี นี่ต่างหากเป็นหัวใจสำคัญ
3. มองว่าการจะร่ำรวยจากคริปโตฯ ส่วนใหญ่มาจากการซื้อขายเก็งกำไร ทั้งจาก future และ spot จริงหรือ?
ตอบ ราคาของบิตคอยน์และคริปโตเคอเรนซี่เติบโตอย่างก้าวกระโดด คนที่ซื้อไว้ตั้งแต่ปี 2017 คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคนเหล่านี้ได้เกษียณตัวเองจากการทำงานประจำไปหมดแล้ว แต่กลุ่มคนที่เข้าลงทุนในปี 2020 แล้วเกษียณตัวเองได้หละ คิดว่าคนเหล่านี้เทรดเหรียญจนได้กำไรเป็น 10 เด้ง 100 เด้งจริงหรือ หรือว่าเขาเอาไปทำอะไรกันแน่? (มาหาคำตอบการในบทความถัดไป)
4. มองว่าบิทคอยน์เป็นแชร์ลูกโซ่ และไม่สามารถเข้ามาแทนที่เงินจริงๆได้ จริงหรือ?
ตอบ คำถามนี้ผิดตั้งแต่ต้น เพราะคำนิยามของ “เงิน” ที่ไม่เหมือนกัน
คำนิยามของ “เงิน” นอกจากจะสามารถใช้เป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนได้แล้ว ยังมีความสามารถในการกักเก็บมูลค่าได้ (Store Of Value Asset) แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่าง เงินกระดาษกำลังถูกอัตราเงินเฟ้อโจมตี แอดยกตัวอย่าง เงินเดือน 18,000 บาท ของเด็กจบใหม่อาจจะไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตอีกต่อไป ทั้งค่าที่พักอาศัย ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ และรายจ่ายอื่นๆ ยังไม่รวมถึงค่าเครื่องนุ่งห่ม และค่ารักษาพยาบาล เงินเดือน 18,000 บาท ที่เคยได้เมื่อ 10 ปีก่อนกลับดูมีค่าลดลงทั้งๆที่มันมีมูลค่าเท่าเดิม นั่นจึงเป็นเหตุผลที่คนส่วนใหญ่มักย้ายเงินออมไปเก็บในรูปแบบของทองคำแทน แล้วถ้าแอดบอกว่า ทองคำมีข้อจำกัดในเรื่องการขนย้ายหละ คุณไม่สามารถขนย้ายเงินออมของคุณไปไหนมาไหนกับคุณได้ งั้นเราควรออมในรูปแบบไหนดีหละ?
ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง บิตคอยน์ไม่อาจเข้ามาแทนที่เงินกระดาษได้ แต่บิตคอยน์มีองค์ประกอบของการเป็นสินทรัพย์ที่กักเก็บมูลค่าได้ อยู่หลายประการเช่นเดียวกันกับทองคำ สกุลเงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ (เรียนรู้เพิ่มเติมได้จาก Youtube : Bitcoin Talk by อาจารย์พิริยะ “อาจารย์ตั๊ม” ChalokeDotCom)
บิตคอยน์เป็นแชร์ลูกโซ่หรือไม่ ต้องตอบว่าในปัจจุบัน บิตคอยน์เป็นแชร์ลูกโซ่จริงๆ แต่อยากให้ทุกคนลองคิดถึงจุดเริ่มต้นของการซื้อขายทองคำ จุดเริ่มต้นของตลาดหุ้น ตลาด Forex หรือแม้แต่ตลาดพระเครื่องในบ้านเรา เรามักกลัวสิ่งที่เราไม่สามารถเข้าใจมันได้ และเกิดการเก็งกำไรสูงจนกลายเป็นฟองสบู่ที่พร้อมจะแตกได้ทุกเมื่อ แต่สิ่งที่จะพิสูจน์ว่าบิตคอยน์และคริปโตเคอเรนซี่เป็นแชร์ลูกโซ่หรือไม่คือปัจจัยทางเวลา นักลงทุนคริปโตฯในปัจจุบันเชื่อว่า บิตคอยน์และคริปโตฯได้อยู่รอดมานานพอที่จะหลุดจากคำนิยามของแชร์ลูกโซ่แล้ว แล้วคุณหละ เริ่มเชื่อเหมือนพวกเราหรือยัง?
โปรดติดตามตามตอนต่อไป "つづく"
Reference
  • Why is Bitcoin considered a Store of Value? - by Jazmin M (substack.com)
  • ChalokeDotCom - YouTube
ติดตามบทความดีๆแบบนี้ได้ที่
Cryptonaut TH Facebook : https://www.facebook.com/cryptonautth
Cryptonaut TH Medium : https://cryptonaut-th.medium.com/
โฆษณา