14 ก.พ. 2022 เวลา 12:50 • ท่องเที่ยว
ปิดตำนานโรงแรมนารายณ์ ทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่ หลังเปิดมานาน 54 ปี
โรงแรมนารายณ์โรงแรมระดับตำนานของกรุงเทพฯย่านถนนสีลมเตรียมพลิกโฉมธุรกิจครั้งใหญ่สู่การเป็น "An Oasis" แลนด์มาร์กใหม่ เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตคนสีลมอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้แนวคิด Be Part of Everyone Community
โรงแรมนารายณ์ สีลม
นายนที นิธิวาสิน กรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ โฮเต็ล จำกัด ทายาทรุ่นที่ 3 เปิดเผยว่า โรงแรมนารายณ์โรงแรมระดับตำนานของกรุงเทพฯย่านถนนสีลมเตรียมพลิกโฉมธุรกิจครั้งใหญ่สู่การเป็น "An Oasis" แลนด์มาร์กแห่งใหม่ เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตคนสีลมอย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้แนวคิด Be Part of Everyone Community โดยเมื่อ 52 ปีก่อนโรงแรมนารายณ์ เริ่มบุกเบิกย่านสีลม สู่ถนนสายธุรกิจ โดยโรงแรมฯ ได้ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2511 ซึ่งชื่อของโรงแรมฯ ถูกริเริ่มมาจากแนวคิดของทีมผู้บริหารและผู้ถือหุ้นทุกคน
ที่นำเอาความยิ่งใหญ่ทั้ง 2 ประการมารวมเข้าด้วยกันคือ ความยิ่งใหญ่และพระปรีชาสามารถอันเป็นที่เลื่องลือของ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่มีความเก่งกาจในด้านการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การค้าและการทูตกับประเทศต่าง ๆ จนรุ่งเรือง และพระนามของพระนารายณ์ มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งแห่งศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ซึ่งเป็นพระผู้สร้างความเจริญให้แก่ทุกสรรพสิ่ง นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อ “โรงแรม นารายณ์” สืบมาจนถึงปัจจุบัน
นายนที กล่าวว่า ตนเองกว่าจะเข้ามารับช่วงต่อจากคุณพ่อ ก็มาในช่วงปี พ.ศ. 2551 แล้วส่วนตัวคือวิ่งเล่นอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด เห็นความเป็นมาเป็นไปมาโดยตลอด คุณพ่อผมเล่าว่าโรงแรมนารายณ์ เกิดขึ้นเพราะคุณปู่และผู้ถือหุ้นทุกท่าน เห็นโอกาสในการเติบโตด้านความต้องการห้องพักและโรงแรมขนาดใหญ่ เนื่องจากช่วงนั้นประเทศไทยเป็นเจ้าภาพงานระดับนานาชาติอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งเดิมเรามีโรงแรมวิกตอรี่ ขนาด 125 ห้องอยู่แล้ว
แต่การมองเห็นโอกาสทางธุรกิจในอนาคต จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เริ่มขยายกิจการ โดยผู้ถือหุ้นท่านอื่น ๆ ในสมัยนั้นก็เห็นตรงกันว่า ถนนสีลมนั้นมีศักยภาพสูงมากในการที่จะเป็นถนนสายธุรกิจได้ “โรงแรมนารายณ์” จึงดำเนินกิจการเรื่อยมา เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติทราบว่า ย่านสีลมมีโรงแรมขนาดใหญ่ ชื่อของ “โรงแรมนารายณ์” จึงเป็นที่นิยมมาก โดยในสมัยนั้นเรามี 5 จุดเด่นสำคัญที่เป็นแม่เหล็กในการดึงคนเข้ามาคือ 1. เรามีห้องพักถึง 500 ห้องซึ่งในยุคนั้นยังไม่มีโรงแรมแห่งใดมีจำนวนห้องได้เท่าเรา 2. ภัตตาคารหมุน 360 องศาที่แรกในเมืองไทย ที่ ทำให้นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจ
3. ร้านนารายณ์พิซเซอเรีย (Narai Pizzeria) ที่มีพิซซ่าต้นตำหรับของเมืองไทยที่ขึ้นชื่อและเรียกได้ว่าเราเป็นร้านอาหารอิตาเลียนร้านแรก ๆ ของไทยโดยได้รับการตอบรับที่ดีมาอย่างยาวนาน 4. ห้องอาหารระเบียงทองเราเป็นเจ้าแรก ๆ ที่ทำห้องอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ และในยุคนั้นเรายังเสิร์ฟ “ปลาแซลมอลซาซิมิ” ในไลน์อาหารบุฟเฟ่ต์ เป็นเจ้าแรกในเมืองไทยอีกด้วย 5. เราเป็น Wedding Destination ของคู่รักในยุคนั้น เพราะเรามีห้องนารายณ์ บอลรูมที่มีขนาดใหญ่สามารถรองรับแขกได้ถึง 1,000 คน สามารถรับงานสำคัญ ๆ ของประเทศหลาย ๆ งานมาแล้ว และทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นจุดเด่นสำคัญที่ทำให้โรงแรมฯ คึกคักติดตลาดมาอย่างยาวนาน ผลักดันให้ถนนสีลมเป็นย่านเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ อีกทั้งในยุคนั้นด้วยความที่เราเป็นโรงแรมของคนไทยบริหารงานโดยทีมผู้บริหารคนไทยทั้งหมด เลยทำให้การจัดการง่ายปรับตัวได้รวดเร็ว และเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้หลากหลาย
ทั้งนี้ ตลอด 52 ปีที่ผ่านมา เราได้ให้บริการห้องพักมาทั้งหมดกว่า 7,590,000 ห้อง โดยมีจำนวนผู้เข้าพักมากกว่า 15,180,000 คน และห้องอาหารระเบียงทองที่ขึ้นชื่อ มีแขกเข้ามารับประทานอาหารราว 30 ล้านคน หากมาดูที่ ร้านนารายณ์พิซเซอเรีย (Narai Pizzeria) เราจำหน่ายพิซซ่าได้มากกว่า 3,550,000 ถาด และใช้ชีสคิดเป็นปริมาณกว่า 1,600,000 กิโลกรัม รวมถึงเรามีคู่รักแต่งงานที่จัดงาน แต่งงานกับโรงแรมของเรามามากกว่า 5,200 คู่รัก ซึ่งอย่างที่บอกไว้ตอนต้น การทำธุรกิจด้านการให้บริการ กว่าจะเดินทางมาได้ยาวนานขนาดนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ บางอย่างควบคุมได้บางอย่างก็เหนือการควบคุม อย่างความท้าทายในยุคโควิด-19 ที่ทำให้เราต้องหันกลับมาทบทวนกันอีกครั้งว่าถึงเวลาที่ต้อง “ปรับเปลี่ยน” แล้วหรือยัง
ยุคสมัยหนึ่งเราเป็น One of The Best of Bangkok แต่กาลเวลามันเปลี่ยนไป เทรนด์ของตลาดโรงแรมก็เปลี่ยนไปด้วย ดังนั้นถ้าจากนี้จะทำให้ธุรกิจให้ยืนยาวได้ตลาดลักชัวรี่ ที่จะเข้ามาในอนาคตจึงน่าจับตามอง นี่ถือเป็นความท้าทายที่เราต้องเริ่มเปลี่ยนสู่ยุคใหม่ เพื่อให้กลับขึ้นมาทันกระแส และคงความเป็น One of The Best of Bangkok อีกครั้ง
#Travel #TheHotelier #thailand #News #breakingnews #Bangkok
โฆษณา