18 ก.พ. 2022 เวลา 16:10 • ยานยนต์
วินัยจราจรแดนซากุระ ดูซะ! เราก็เปลี่ยนได้ (ตอนจบ)
เครดิตภาพ : https://www.goobike.com/magazine/ride/rule/1/
เมื่อพูดถึงเรื่องราวบนท้องถนน อีกสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ ผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและความเรียบร้อยอย่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งเจ้าหน้าที่ในชุดเครื่องแบบสีฟ้าที่คอยปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวกบนท้องถนน และเจ้าหน้าที่รถสายตรวจที่คอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยแล้ว ยังมีอีกหนึ่งหน่วยงานพิเศษที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเฝ้าระวังผู้กระทำผิดกฎจราจรโดยเฉพาะเรียกว่า ชิโร่ไบ (白バイ隊員) ชิโร่ (白) แปลว่า สีขาว และ ไบก็มาจากคำว่า ไบขุ (バイク) แปลว่า มอเตอร์ไซค์ นั่นก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขี่มอเตอร์ไซค์สีขาวคันใหญ่ (1,000 CC) เจ้าหน้าที่กลุ่มนี้จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยการขับมอเตอร์ไซค์คู่กายไปทุกที่ ตั้งแต่ตรอก ซอก ซอยเล็ก ๆ ไปจนถึงถนนสายหลัก ทางหลวง และทางด่วน!
2
ชิโร่ไบ เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยพิเศษ เครดิตภาพ : https://cargeek.jp/10890
เมื่อการกระทำความผิดกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก
หากเราฝ่าฝืนกฎจราจรบนถนนในญี่ปุ่น นอกจากค่าปรับแล้วแต้มในบันทึกใบขับขี่ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ค่าปรับถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือค่าปรับลหุโทษ (反則金) เมื่อกระทำผิดกฎจราจรโดยทั่วไปมีแต้มกระทำผิดไม่เกิน 6 แต้ม จะได้รับใบสั่งสีฟ้า (青切符) เช่น ไม่พกพาใบขับขี่ (ซึ่งเป็นโทษเบาที่สุด ปรับ 3,000 เยน) ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร (กรณีรถยนต์นั่งส่วนบุคคล แต้มกระทำผิด 2 แต้ม และปรับ 9,000 เยน) เป็นต้น
2
เครดิตภาพ : https://www.zurich.co.jp/car/useful/guide/cc-traffic-offense-blueticket/
และค่าปรับมหันตโทษ (罰金) เมื่อกระทำความผิดจราจรร้ายแรงโดยมีแต้มกระทำความผิดตั้งแต่ 6 แต้มขึ้นไป ใบสั่งสีแดง (赤切符) เช่น ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ตั้งแต่ 30 กม./ชม. ขึ้นไป (ตัวอย่างถนนในซอยกำหนดให้ความเร็วไม่เกิน 15 กม./ชม. แต่ขับเร็วมากกว่า 45 กม./ชม. มีแต้มกระทำผิด 6 แต้ม และปรับไม่เกินหนึ่งแสนเยน) ขับรถขณะมึนเมาและตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่า 0.15 mg% แต่ไม่เกิน 0.25 mg% มีแต้มกระทำผิด 13 แต้ม และปรับไม่เกิน ห้าแสนเยน หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี) เป็นต้น
3
ขับรถขณะมึนเมาถือเป็นความผิดร้ายแรง มีแต้มความผิดตั้งแต่ 13 - 35 แต้ม เครดิต : https://clicccar.com/2014/07/31/259138/
แต้มกระทำความผิดเองก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน
• หากมีแต้มกระทำความผิด 6-8 แต้มภายในระยะเวลา 3 ปีจะไม่สามารถขับรถได้ 30 วัน
• แต้มกระทำความผิด 9-11 แต้ม ไม่สามารถขับรถได้ 60 วัน
• แต้มกระทำความผิด 12-14 แต้ม ไม่สามารถขับรถได้ 90 วัน
ต้องเข้ารับการอบรมกฎจราจรจึงจะสามารถขับรถได้อีก และแต้มกระทำผิดตั้งแต่ 15 แต้มขึ้นไป จะถูกยกเลิกใบขับขี่
3
เครดิตภาพ : https://jico-pro.com/magazine/53/
เมื่อกระทำความผิดแล้วได้รับใบสั่งจราจร(仮納付書) ผู้กระทำความผิดมีหน้าที่ชำระค่าปรับภายใน 8 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับใบสั่ง สามารถชำระได้ที่เคาน์เตอร์ธนาคารและไปรษณีย์เท่านั้น หากเลยจากกำหนดเวลาจะได้รับใบเตือน (告知) และต้องดำเนินการชำระค่าปรับภายใน 11 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับใบเตือนโดยเดินทางไปมอบตัว ณ ศูนย์แจ้งการกระทำผิดกฎจราจร สำนักงานตำรวจประจำจังหวัด (交通反則通告センター) ในกรณีที่เพิกเฉยคำสั่งมากกว่า 1 เดือน เจ้าหน้าที่จะดำเนินการส่งฟ้องศาลในที่สุด
2
นั่งข้างแม้ไม่เมาก็ถือว่าเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำผิด ได้รับบทลงโทษเช่นกัน เครดิต : https://www.gov-online.go.jp/useful/article/201312/1.html
นอกจากผู้กระทำผิดที่เป็นผู้ขับขี่บังคับรถด้วยตัวเองแล้ว กฎหมายจราจรในญี่ปุ่นยังมีการกำหนดความผิดแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องเอาไว้ด้วย เช่น หากคุณให้เพื่อนที่มีอาการมึนเมายืมรถไปขับ คุณเองก็อาจจะได้รับบทลงโทษด้วยการถูกจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนเยน สนับสนุนให้คนขับดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือนั่งรถไปกับคนขับที่มีอาการมึนเมา จะได้รับบทลงโทษด้วยการถูกจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกินห้าแสนเยน เป็นต้น
2
การบ่มเพาะวินัยและสร้างความปลอดภัย
ความรู้ความเข้าใจในกฎจราจรและความปลอดภัย ไม่ใช่สิ่งสำคัญเฉพาะผู้ขับขี่เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคนเดินเท้าทุกช่วงวัยโดยเฉพาะในเด็กเล็กระดับอนุบาลและประถมศึกษา จากผลสำรวจอัตราผู้เสียชีวิตโดยมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุจราจรทั้งประเทศในกลุ่มผู้ที่มีอายุไม่เกิน 12 ปี ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า ในปี ค.ศ. 1990 มีมากถึง 2,778 ราย ในจำนวนนี้มีถึง 2,226 รายที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนขณะเดินทางไป-กลับบ้าน-โรงเรียน เนื่องจากสังคมญี่ปุ่นส่วนใหญ่แล้วผู้ปกครองนิยมให้บุตรหลานเรียนหนังสือในโรงเรียนใกล้บ้าน และเดินทางไปกลับด้วยตนเอง
2
ภาพบรรยากาศการเรียนรู้ความปลอดภัยทางจราจรในโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง เครดิต : https://myfuna.net/archives/townnews/20160620090033
จากการสูญเสียดังกล่าวทำให้หลายภาคส่วนแสดงความกังวลและพยายามหาทางแก้ปัญหาเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำโครงการอบรมให้ความรู้การใช้ถนนอย่างปลอดภัยสำหรับเด็กตามสถานศึกษา โดยเฉพาะในโรงเรียนอนุบาลและประถม มีการสาธิตวิธีการข้ามถนนอย่างปลอดภัยและสอนวิธีดูสัญญาณไฟจราจรโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ วิชาชีวิตประจำวันซึ่งเป็นหนึ่งในวิชาบังคับระดับประถมศึกษาจะพานักเรียนเดินสำรวจถนนรอบโรงเรียนและภายในชุมชนเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นขณะเดินทาง และการสาธิตอุบัติเหตุจากการข้ามถนนในกรณีต่าง ๆ โดยสตั๊นท์แมนมืออาชีพ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มอาสาสมัครและสมาชิกชมรมครูผู้ปกครองที่ยังคอยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาคอยดูแลความปลอดภัยให้แก่เด็กนักเรียนขณะเดินทางไปโรงเรียนอีกด้วย
2
การสาธิตอุบัติเหตุเพื่อให้นักเรียนตระหนักถึงความน่ากลัวของอุบัติเหตุ เครดิตภาพ : https://www.city.higashiosaka.lg.jp/0000014163.html
จากความพยายามดังกล่าวทำให้จำนวนเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ ตามลำดับ โดยปี ค.ศ. 2019 มีจำนวนเด็กนักเรียนอายุไม่เกิน 12 ปีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นจำนวน 238 ราย ในจำนวนนี้มี 139 รายที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะเดินทางไปโรงเรียน ปัจจุบันก็ยังมีความพยายามที่จะลดการเสียชีวิตของเด็กนักเรียนโดยมีความหวังว่าในอนาคตจำนวนผู้เสียชีวิตจะเป็นศูนย์
3
ความร่วมมือของคนในชุมชนที่คอยช่วยกันรักษาความปลอดภัยให้นักเรียน เครดิตภาพ : https://www.toyo.ac.jp/link-toyo/life/trafficaccidentprevention/
อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น และการลดความสูญเสียเป็นสิ่งที่เราทุกคนทำได้ เพียงแค่เคารพและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างจริงใจ การกวดขันวินัย บัญญัติ และบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเข้มงวดและเท่าเทียมกับผู้ฝ่าฝืนทุกคน รวมทั้งการสร้างสิทธิประโยชน์เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้ที่ปฏิบัติตามกฎอยากจะทำอย่างต่อเนื่องก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่จะช่วยสร้างสังคมที่ปลอดภัย แม้จะต้องใช้เวลามากซักหน่อย แต่เชื่อว่า “เรา” ก็เปลี่ยนได้!
2
โฆษณา