21 ก.พ. 2022 เวลา 12:19 • ปรัชญา
วิธีเอาชนะความกลัว [Fear] <> เวลาอ่าน 5 นาที
ครั้งหนึ่งมีหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เมืองใหญ่ที่สุดในประเทศแห่งหนึ่ง สิ่งที่พิเศษมากเกี่ยวกับหมู่บ้านนี้คือ ชาวบ้านทุกหลังคาเรือนมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งทำให้ตอนนี้เมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้ ๆ ทาบความก้าวหน้ากับหมู่บ้านนี้ไม่ได้เลย
Step by step
หมู่บ้านนี้ ทุกอย่างเป็นอัตโนมัติเกือบทั้งหมด เช่นว่า หุ่นยนต์ เป็นต้น ที่น่ามหัศจรรย์คือผู้คนในหมู่บ้านมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือความหลงใหลในเทคโนโลยี และความกล้าที่จะนำสิ่งใหม่มาใช้ตลอดเวลา
หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านที่ผู้คนมีความสุขที่สุดในประเทศ และถึงแม้ว่าพวกเค้าแต่ละคนจะเก่งอย่างมหันต์เกี่ยวกับเทคโนโลยีก็ตาม ผู้คนที่นี้ก็ไม่ลืมที่จะมีความเอาใจใส่และคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันเสมอ
แต่มีเรื่องผิดปกติอยู่อย่างหนึ่ง มีชายหนุ่มคนหนึ่งผู้ที่ทุกคนในหมู่บ้านเรียกว่า ‘คนขี้ขลาด’ เรียกแบบนี้อาจจะดูโหดร้ายและขัดๆ ไปบ้าง จนถึงแม้ใครพยายามจะช่วยเขาเท่าไหร่ ชายหนุ่มคนนี้ก็ยังคงเป็นคนที่ขี้ขลาดเสมอต้นเสมอปลายเหมือนเดิม กลัวไปทุกสิ่ง กลัวคนแปลกหน้า กลัวการพูดคุย บลา บลา
ชาวบ้านช่วยชายหนุ่มด้วยการบำบัดและเทคนิคต่าง ๆ หลายแบบแล้ว แต่ก็ล้มเหลวทุกครั้งไป แม้แต่ปราชญ์วิญญาณของหมู่บ้านก็ไม่สามารถช่วยอะไรเขาได้ เขายังเป็นคนขี้ขลาดเช่นเดิม
จนกระทั่งวันหนึ่ง ชายหนุ่มคนนี้รู้สึกไม่ไหวกับตัวเองแล้ว จึงขอร้องปราชญ์วิญญาณว่า “ผมต้องการก้าวข้ามความกลัว ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไร แค่ช่วยผมอีกครั้งเถอะได้โปรด ผมสัญญา จะทำตามทุกอย่างที่ท่านสั่ง”
ปราชญ์วิญญาณเงียบไปพักนึงและมองไปที่ชายหนุ่ม “ข้าจะสอนเจ้าถึงวิธีก้าวข้ามความกลัว แต่ต้องอยู่ภายใน 1 เงื่อนไขนี้” ชายหนุ่มก็ตอบตกลงทันที บอกว่าเขาจะยอมทำตามทุกอย่าง
ปราชญ์พยักหน้ากล่าวต่อ “อย่าแรก เจ้าจงไปอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ใกล้ ๆ นี่เป็นเวลา 1 เดือน ในขณะที่เจ้าอยู่ที่นั่น จงบอกทุกคนที่เจ้าเจอว่าเจ้าเป็นคนขี้ขลาด” ปราชญ์เว้นจังหวะ “หากเมื่อเจ้าไปคาเฟ่ เดินเล่น หรือไปดูหนัง เจ้าจงสบตาทุกคนและพูดเสียงดังอย่างเป็นมิตรว่าเจ้าเป็นคนขี้ขลาด”
ปราชญ์กล่าวต่อ “หลังจากจบไป 1 เดือน เจ้าจงกลับมาหาข้าอีกครั้ง” ชายหนุ่มกลับบ้านไปคิดทบทวนสิ่งที่ปราชญ์ให้เขาทำ
แน่นอน เขารู้สึกกลัวและหนักใจจริง ๆ เขาคิดเรื่องนี้ต่อไปอีกสองสามวัน ในที่สุด เขาก็ตัดสินใจทำตามที่ปราชญ์บอกและเดินทางเข้าเมืองทันที
ในสองสามวันแรก เขาไม่ได้คุยกับใครเลย แม้แต่คำว่า ‘สวัสดี’ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาพยายามคุยกับใครซักคน เขาถึงกับสมองขาวโพลน มืดแปดด้าน และยืนใบ้กินอยู่อย่างนั้นเมื่อมองเข้าในที่นัยน์ตาของพวกเค้า
ผ่านไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ เขารู้สึกท้อแท้มาก แต่ความคิดที่ว่า ‘เราจะกลัวตลอดไป ถ้าไม่เริ่มเผชิญมัน’ มาขัดขวางไม่ให้เขายอมแพ้
และเขาก็กลับมาพยายามใหม่อีกครั้ง จนในที่สุด เขารวบรวมความกล้าไปพูดกับคน ๆ หนึ่งว่าเขาเป็นคนขี้ขลาด หลังจากทำแบบนั้น เขารู้สึกว่าพอละวันนี้ พอก่อน เขารู้สึกเหนื่อยมากกว่าปกติ
วันถัดมา เขาดีมากขึ้น เขาพูดเหมือนเดิมได้กับคนหลายคนแล้ว และเขาทำต่อไปเรื่อย ๆ วันแล้ววันเล่า จนเสียงของเขายิ่งมายิ่งดังมากขึ้นกว่าเดิม เขากล้าสบตาคนแล้ว รวมถึงอาการสั่นเมื่อคุยกับคนก็หายไปด้วย
ไม่นานชายหนุ่มก็ไม่กลัวการพูดกับคนแปลกหน้าอีก และยอมรับว่าตนเองเป็นคนขี้ขลาด แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังคงทำตามสัญญาที่มีกับปราชญ์ไว้ต่อไป
และแล้ว 30 วันก็ล่วงเลยผ่านไป เขารีบกลับไปหาปราชญ์ทันที และบอกปราชญ์อย่างตื่นเต้นว่าเขาไม่กลัวแล้ว เขาเปลี่ยนไปแล้ว
ชายหนุ่มบอกปราชญ์ว่า ไม่เพียงแต่เขาได้ยอมรับความขี้ขลาดของตนเองกับคนที่เขาได้พบเจอเท่านั้น
แต่เขายังได้สร้างเพื่อนใหม่ด้วย ชายหนุ่มรู้สึกตื้นตันและภูมิใจมากที่เขาสามารถก้าวข้ามพ้นความกลัวมาได้ แต่เขาก็ยังสงสัยอยู่ว่าปราชญ์รู้ได้ยังไงว่าวิธีนี้มันจะได้ผล
ปราชญ์ตอบ “ฟังนะไอ้หนุ่ม ความกลัว ความขี้ขลาดมันก็เหมือนกับนิสัยนั่นแหละ หากเจ้าอยากก้าวข้ามมัน เจ้าก็ต้องทำในสิ่งที่ทำให้เจ้ากลัว และนั่นคือสิ่งที่เจ้าทำในแต่ละวัน จนกระทั่งพบผลลัพธ์อย่างที่เจ้าหวัง
เจ้าก้าวข้ามความกลัวด้วยความกล้าหาญที่ทำเป็นนิสัย และเมื่อเจ้ารู้เคล็ดลัพธ์นี้แล้ว เจ้าสามารถใช้มันที่ไหนก็ได้ สิ่งที่เจ้าต้องทำก็แค่แทนที่ความกลัวด้วยความกล้า และทำมันเป็นขั้นเป็นตอน จนกลายเป็นนิสัย และในที่สุดความกลัวมันก็จะกลายเป็นแค่หมอกควันในยามเช้า มันเป็นได้แค่นั้น นั้นแหละความกลัว”
The End of fear...
>>> ไม่ต้องอายที่จะรู้สึกกลัว เหมือนชายหนุ่มในเรื่องราวนี้ คุณแค่ต้องทำขั้นตอนแรกเพื่อเริ่มก้าวข้ามมัน <<<
>>> คุณไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ตัวเอง หรือให้คนอื่นรู้ว่าคุณกล้าหาญเพียงไหน แค่ทำ “สิ่งเล็กๆ” และ “ก้าวทีละก้าว” แล้วเติบโตไปพร้อมกับมัน <<<
>>> คุณไม่จำเป็นต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเองเสมอไป บางครั้งการหาที่ปรึกษา และแก้ปัญหาตามคำแนะนำที่ดีเหล่านั้นก็เป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกัน อย่างเช่น ชายหนุ่มในเรื่องราว กับปราชญ์ที่เป็นผู้ให้คำแนะนำ <<<
หากท่านเป็นคนที่ชอบพัฒนาตนเองเป็นชีวิตจิตใจ และชื่นชอบบทความสร้างแรงบรรดาลใจ คำคม จิตวิทยา สามารถติดตามเราได้ที่
References
โฆษณา