23 ก.พ. 2022 เวลา 13:21 • ธุรกิจ
Inclusive Leadership ภาวะผู้นำที่จะจำเป็นอย่างมากในยุคใหม่
ทีมที่ดี ต้องมีความแตกต่างกัน แต่ว่าผู้นำจะผสานความต่างนั้นได้ยังไง?
โลกยุคปัจจุบัน มีความซับซ้อนมากทำให้ องค์กรต้องการไอเดียการทำงานจากพนักงานมากกว่าเดิม
ความแตกต่างไม่ว่าจะเป็น เพศ วัย กระทั่งมุมมองและความคิด จึงเป็นพลังสำคัญที่จะทำให้ทีมงานมองได้อย่างรอบด้าน และระดมหนทางเอาชนะอุปสรรคในการทำงานออกมาได้
แต่ต้องทำอย่างไร ให้ทีมงานสามารถโอบรับความ "แตกต่าง" นั้นได้ แต่ไม่ทำให้ทีม "แตกหัก" ไปเสียก่อน เอาแค่เรื่องวัย เรื่อง Gen อย่างเดียว นี่ก็ทำเอาคนในทีมปวดกบาลมากแล้วครับ
แล้วยิ่งต่างหลายด้านขนาดนั้น แทนที่จะได้ "พลัง" ทีมคงจะ "พัง" ไปก่อนแน่แท้
คำตอบของเรื่องนี้ ก็คือ ทีมจะต้องมีผู้นำที่สามารถ "หลอมรวมใจ และผสานให้ทีมเป็นหนึ่งเดียว" ได้ หรือ ที่เรียกภาษาอังกฤษแบบเท่ๆ ว่า Inclusive Leader
ไม่ได้พูดลอยๆ เพราะงานวิจัยของ Havard Business Review (HBR) เค้าเคลมเลยนะครับว่า ทีมงานที่มีผู้นำ inclusive leader นั้น จะมีผลงานที่ดีกว่าปกติ ถึง 17%
นอกจากนี้ 20% ของกลุ่มตัวอย่างนี้ บอกว่า การตัดสินใจมีคุณภาพมากขึ้น และ อีก 29% บอกว่าเกิดการร่วมแรงร่วมใจที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ดังนั้น จึงมีการศึกษาต่อไปอีกว่า ผู้นำที่จะ "หลอมรวมใจ และผสานให้ทีมเป็นหนึ่งเดียว" ได้นั้น จะต้องมีคุณลักษณะ 6 อย่างที่เด่นๆ ก็คือ
ลักษณะผู้นำ Inclusive Leader
1. Visible commitment: หรือตั้งใจผลักดันให้เกิดความหลากหลายจริงๆ ไม่ใช่แค่พูดเอาหล่อ ๆ สวยๆ ตามสมัยนิยม
นอกจากนั้น ต้องการท้าทายสถานะเดิม ความเคยชินเดิม และผลักดันให้คนในทีมเกิดความรับผิดชอบใจเรื่องการยึดเอาความหลากหลายและผสมผสานกันเป็นเรื่องสำคัญด้วย
2. Humility ความนอบน้อม : ผู้นำที่จะทำการหลอมหัวใจได้ จะไม่โอ้อวดเรื่องความสามารถตนจนเกินไป ยอมรับความผิดพลาด และ สร้างพื้นที่ให้คนอื่นๆ อยากที่จะมีส่วนร่วมช่วยสร้างผลงาน
3. Awareness of bias ตระหนักถึงความลำเอียง : ผู้นำจะรู้ตัวถึงจุดบอดของคน (ที่พวกเขาอาจมองไม่เห็นตัวเอง) และ ช่องโหว่ในระบบ และต้องทำงานหนัก เพื่อปรับปรุงให้ไม่เกิดความลำเอียงในเรื่องความหลากหลาย และสร้างระบบที่เน้นเรื่องความสามารถของคนจริงๆ
4. Curiosity about others มีความสนใจใคร่รู้ ที่ (ไม่ใช่สอดรู้สอดเห็น แนว ส....ใส่เกือก หรือ จ้องจับผิด) ความหมายคือ ต้องแสดงให้เห็นถึงการรับฟัง (open mindset) และความสนใจใคร่รู้ในมุมคนอื่นๆ อย่างลึกซึ้ง ฟังอย่างตั้งใจ และไม่ด่วนตัดสิน เพื่อให้เกิด ความเข้าอกเข้าใจคนอื่นๆ รอบตัว (Empathy)
5. Cultural Intelligence ความฉลาดทางวัฒนธรรม : ใส่ใจเรื่องวัฒนธรรมอื่นๆ และพยาามปรับตัวตามความจำเป็น (ในมุมมองทางสังคมวิทยานั้น การเคารพวัฒนธรรม คือ การไม่ด่วนตัดสินผู้อื่น และเคารพผู้อื่นในแบบที่เขาเป็นนั่นเอง)
6. Effective collaboration ความร่วมมือร่วมใจอย่างมีประสิทธิผล : ผู้นำต้องรู้วิธีการมอบหมายงานในแบบ empower (ไม่ใช่แบบสั่งการอย่างเดียว แต่ต้องให้อิสระการตัดสินใจในงานตามสมควรด้วย เพื่อให้สมาชิกทีมฝึกการตัดสินใจและเป็นเจ้าของงานอย่างแท้จริง)
นอกจากนี้ ต้องใส่ใจเรื่องความคิดที่แตกต่างกันของทีม คือ ให้มีการโต้แย้ง โตเถียงได้ และให้พื้นที่ปลอดภัยทางจิตวิทยาด้วย
ซึ่งเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ต้องค่อยๆ สร้าง เพราะหลายครั้งหลายที่ ยังมีวัฒนธรรมการทำงานแบบ "กลัวซวย" ครอบงำอยู่ ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยหากคิดต่าง หรือ ทำผิดพลาด
หากทำได้ก็จะทำให้ทีมเคารพความคิดกันในแบบ ไม่เออออ ห่อหมกตามๆ กัน พี่ว่าดี น้องว่าใช่ เกรงใจแบบผิดๆ จนเกิดความคิดแบบ group think
แต่เป็นการเคารพ การโต้แย้ง (ที่มีเหตุผล) ก็จะช่วยทำให้งานของทีมพัฒนาไปได้ไกลกว่าครับ
หากผู้นำใส่ใจ และพัฒนาคุณลักษณะที่ว่าแล้ว ทีมงานก็จะมีความแตกต่างที่สร้างพลัง เหมือนดัง Avenger Team ได้
ไม่ใช่มีแต่คนเหมือนๆ กัน แบบเหล่าสมุน Stromtrooper แล้วมุ่งมั่นทำงานตามคำสั่ง หรือ JD (job discription) ให้จบๆไปวันต่อวัน
ในโลกยุคใหม่ ต้องใช้พลังฮีโร่แบบทีมเท่านั้นครับ จึงจะเอาชนะอุปสรรคจำนวนมหาศาลที่รอท้าทายองค์กรอยู่ได้ ขอแค่มีผู้นำที่รวมใจ รวมทีมสปิริตให้ได้ ก็เหมือนได้ชัยชนะไปครึ่งทางแล้วครับ
เรียนรู้เรื่องการใช้ความคิดให้ถูกสถานการณ์ ดูหลักสูตรพัฒนาหัวหน้า ผู้นำ และ mindset เพื่อการทำงานที่ดีขึ้นทุกๆวัน
ติดตาม Coach For Goal ได้ ที่ช่องทางเหล่านี้
.
กลุ่ม FB เพื่อการเรียนรู้พัฒนาตัวเองไปด้วยกัน: https://www.facebook.com/groups/297075389128686
#CoachForGoalArticle #CFG
สร้างทัศนคติการทำงานให้ดีขึ้นในทุกวันแบบง่ายๆ
โฆษณา