Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หุ้นพอร์ทระเบิด
•
ติดตาม
24 ก.พ. 2022 เวลา 01:09 • หุ้น & เศรษฐกิจ
รู้จัก “ หุ้นโรงแรม ” วิเคราะห์หาปัจจัยกระทบการเติบโต
อยากลงทุนในหุ้นกลุ่มโรงแรม ควรเริ่มจากอะไร❓
📌มูลค่าการตลาดของกลุ่มท่องเที่ยวคิดเป็น1%ของตลาดโดยรวม เป็นตลาดที่ไม่ใหญ่มาก แต่มีgrowthเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจในการลงทุนของต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนหุ้นในประเทศไทย
📌หุ้นที่ทำธุรกิจโรงแรม
▶️ กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ AWC
▶️ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ MINT
▶️ กลุ่มท่องเที่ยวและสันทนาการ ได้แก่ ASIA, CENTRAL, CSR, DUSIT, ERW, GRAND, LRH, MANRIN, OHTL, ROH, SHANG, SHR, SRANDA
🌟ซึ่งถ้ารวมMarket Capของทั้ง3กลุ่มเข้าด้วยกันMarket Capก็ถือว่าไม่ได้เล็ก
📌ภาพรวมนักท่องเที่ยวรายประเทศ
- เอเชีย 47%
- จีน 28%
- ยุโรป 17%
- อื่นๆ 8%
🌟ซึ่งปัจจุบันอินเดียมีทิศทางโต น่าจับตามอง🇮🇳
1
📌เปรียบเทียบvaluationของโรงแรมในแต่ละทวีป
🌟ส่วนมากจะดูที่ PE และ EV/EBITDA
Thai ▶️ PE = 26.7%, EV/EBITDA = 15.6%
Asia ▶️ PE = 23.1%, EV/EBITDA = 13%
Europe ▶️ PE = 20.7%, EV/EBITDA = 11.7%
U.S. ▶️ PE = 20.5%, EV/EBITDA = 12.3%
ซึ่งไทยอยู่สูงกว่าทวีปอื่นๆ เนื่องจากประเทศไทยให้growthได้ค่อนข้างโดดเด่นกว่า ทำให้หุ้นกลุ่มโรงแรมถึงแม้ไม่ได้ตลาดใหญ่ แต่ก็ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงทั้งไทยและต่างชาติ เนื่องจากจับต้องง่ายและมีการเติบโตต่อเนื่องในช่วง10ปีที่ผ่านมา
📌การแบ่งกลุ่มโรงแรม
▶️ Segment (ตามราคาค่าห้อง)
* Economy and Budget
* Midscale เช่น Novotel
* Upscale เช่น Centara
* Luxury เช่น Athenee
▶️ Target Market (วัตถุประสงค์ของโรงแรม)
* ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
* อยู่ในพื้นที่หรือบริเวณโดยรอบสนามบิน
* มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าระดับสูงกว่า Commercial
* เน้นกลุ่มลูกค้าที่เข้าพักระยะยาว
* อยู่ในเมืองท่องเที่ยวเหมาะกับการพักผ่อน
* โรงแรมขนาดเล็ก ราคาย่อมเยา
* ผสมผสานระหว่างห้องชุดกับโรงแรม
* ใช้รองรับกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาเล่นการพนัน
* มีขนาดใหญ่เน้นการจัดประชุมสัมมนา
▶️ แบ่งตามการบริหาร
* บริหารเอง ไม่มีค่าfee กำหนดราคาได้เอง
* ให้ผู้เชี่ยวชาญมาบริหาร
📌โครงสร้างรายได้โรงแรม
รายได้โรงแรม = รายได้ห้องพัก+รายได้อื่นๆ
รายได้ห้องพัก = RevPar (รายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืน) x Number of rooms x Number of operating day
รายได้อื่นๆ = รายได้จากห้องอาหาร, รายได้จากงานจัดเลี้ยง, รายได้อื่นๆ
ประเทศไทยปกติอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 70% แต่ในช่วงล็อกดาวน์Q2ตกไปอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 10% แล้วค่อยๆฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่10%กว่าในQ3 และมาอยู่ที่ 20% ได้ในQ4 ของปี2020
ตัวเลขอัตราการเข้าพัก ที่เราคาดการณ์ว่าหุ้นโรงแรมจะกลับมาดี อาจจะอยู่ในช่วง 35%-40% เป็นจุดที่EBITDAจะturnedกลับมาเป็นpositiveได้ หมายความว่า cash inflow มากกว่า cash outflow
ส่วนnet profits ในภาวะปกติจะอยู่ราวๆ60% แต่โรงแรมก็จะมีการทำcost cutting มาตลอดทาง ตอนนี้คาดว่า net profits 45-50% จะสามารถทำbreak evenได้
🌟🌟ดังนั้น trigger point อาจจะไม่ต้องทำถึงnet profits ดูแค่EBITDAก็พอ ถ้าcash flowเป็นpositive หุ้นโรงแรมจะมีความน่าสนใจค่อนข้างสูง🌟🌟
📌โครงสร้างต้นทุนธุรกิจโรงแรม
- Fixed Cost 59% เช่น ค่าจ้างพนักงาน, ค่าเสื่อมราคา
- Variable Cost 41% เช่น การขายอาหาร, ค่าน้ำค่าไฟ, ค่าfee
📌ความสามารถในการทำกำไรของโรงแรม
ยิ่งmarginสูง ถือว่าทำกำไรได้สูง ซึ่งส่วนมากโรงแรมจะทำmarginได้ใกล้เคียงกัน
AWC ▶️ เป็นเจ้าของอาคารเองแต่จะเลือกแบรนด์อื่นมาบริหาร
CENTEL ▶️ เป็นเจ้าของอาคารและมีแบรนด์ของตัวเอง คือ Centara
ERW ▶️ ถ้าเป็นแบรนด์ Luxury, Midscale, Economy ก็อาจจะเป็นเจ้าของตึกเองหรือเช่าบ้าง แล้วเอาแบรนด์ต่างๆมาลง
ส่วนHop Inn ที่ERWเป็นเจ้าของเอง ตัวรายได้ไม่ต้องแบ่งกับใคร มีmarginที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากมีราคาห้องที่ค่อนข้างถูก แต่ข้อเสีย คือต้องขยายให้มากที่สุด ส่วนกลุ่มที่เป็นเจ้าของอาคารเองแต่ไปเอาแบรนด์มาบริหารmarginจะต่ำกว่า เพราะมีfixed cost ที่ต้องจ่าย
MINT ▶️ เป็นเจ้าของเองเกือบทั้งหมดหรือมีให้เช่าตึกบ้าง
📌สรุปลักษณะหุ้นกลุ่มโรงแรม
มองว่าเป็นgrowth stock มากกว่าหุ้นปันผล
▶️ ผลประกอบการอิงภาวะเศรษฐกิจ
▶️ พึ่งพิงนักท่องเที่ยวต่างชาติสูง
▶️ มีMultipleสูง
▶️ มีอัตราทำกำไรสูง
▶️ ส่วนใหญ่เป็น Capital intensive เพราะfixed cost สูง
▶️ ต้องลงทุนอยู่ตลอดเวลา
▶️ อัตราเงินปันผลต่ำ
📌กรณีศึกษา หุ้นERW : บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
1
ในช่วงไตรมาส3-4 ปี64 ที่ผ่านมา วอลุ่มของการซื้อขายหุ้นERWเริ่มหนาแน่นขึ้น เป็นผลมาจากมาตรการการคลายล็อกดาวน์ รวมไปถึงการเปิดประเทศ ทำให้เกิดการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากทั้งคนไทยและต่างชาติ แต่ภาพรวมผลดำเนินการยังถือว่าขาดทุนอยู่ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์Covid-19ที่ต่อเนื่องมาถึง2ปี แต่จากคาดการณ์ของหลายๆหลักทรัพย์คาดว่าในไตรมาสที่4นี้ ผลดำเนินการมีแนวโน้มฟื้นตัวจากการคลายล็อกดาวน์ การฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นและการเปิดประเทศ
โดยมีปัจจัยหนุนจากโรงแรมHop inn ในฟิลิปปินส์ ที่ฟื้นตัว โดยมีผู้เข้าพักเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และในช่วงปลายเดือนก.พ.65 นี้ ทางERWได้มีการอนุมัติจัดตั้งบริษัทลูกอย่าง “ บริษัท เอราวัณ บัดเจ็ท โฮเต็ล จำกัด ” เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในบริษัทย่อยและเพื่อสนับสนุนการขยายงานโรงแรมในระดับBudgetในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งจะมีแผนเปิดโรงแรม Hop inn เพิ่มขึ้นอีก10แห่งในปี65นี้ โดยERWถือหุ้นถึง99%และแหล่งเงินทุนมาจากการที่ERWชำระค่าหุ้นด้วยหุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ในบริษัท เอราวัณ ฮ็อปอินน์ จำกัด
แม้ว่าผลดำเนินการในระยะสั้นอาจจะยังขาดทุนอยู่ แต่ถ้าหากมองในระยะยาวจากสถานการณ์Covid-19 ที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นและจากการเปิดประเทศ จะทำให้ธุรกิจโรงแรมกลับมาฟื้นตัว เกิดSentimentเชิงบวก ERWก็ถือว่าเป็นหุ้นกลุ่มโรงแรมที่น่าสนใจ
ผู้สนับสนุน
1
สนใจเปิดบัญชี ค่าคอมหุ้น 0.05%
TFEX สัญญาละ 18-20
กับโบรคเกอร์
แนะนำหุ้นโดยที่ผู้แนะนำการลงทุนที่มีใบอนุญาต
แจ้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรทาง INBOX ได้เลยครับ
m.me/prberd
18 บันทึก
18
8
18
18
8
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย