Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
A WAY OF LIFE : ทางผ่าน
•
ติดตาม
27 ก.พ. 2022 เวลา 01:12 • ไลฟ์สไตล์
“ถ้าเข้าใจโลก จะไม่หลงโลก”
“ … ส่งทอดดวงประทีปของพระสัจธรรมนี้ต่อไปให้ได้
พระศาสนามีคุณค่ามาก นานๆ ถึงจะเกิดขึ้นปรากฏขึ้นสักครั้งหนึ่ง เมื่อปรากฏขึ้นอยู่ไม่นานก็อันตรธาน เรียกอันตรธานไปไม่ใช่ดับสูญไป สัจธรรมนั้นอันตรธานไม่มีผู้ทรงเอาไว้ นี้เราก็รู้คุณค่าเราก็มาเรียนให้ดี
●
เรียนเรื่องทุกข์
●
เรียนเรื่องเหตุของทุกข์
●
เรียนเรื่องความดับสนิทแห่งทุกข์ หรือความพ้นทุกข์ในเบื้องต้น ดับสนิทแห่งทุกข์ในเบื้องปลาย
●
เรียนวิธีปฏิบัติเพื่อเข้าถึงความดับสนิทแห่งทุกข์
ถ้าเรายังเรียนสี่เรื่องนี้อยู่ เรียกว่าพระสัจธรรมยังไม่อันตรธานจริงหรอก
ในตำราชอบเขียนบอกว่า ถ้ากระทั่งศีลสักข้อหนึ่งยังจำไม่ได้ อันตรธาน ศีลมันมีก่อนพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้นศาสนาพุทธอันตรธานได้ ตั้งแต่ก่อนที่ศีลจะหมดไปด้วยซ้ำ
ศีลมันมีมาก่อนพระพุทธเจ้าเสียอีก
สมาธิก็มีมาก่อนพระพุทธเจ้า
แต่มันเป็นสมาธิแบบฤๅษี ฝึกจิตให้สงบ
แต่สมาธิชนิดตั้งมั่นพระพุทธเจ้าท่านสอนเรา
ส่วนตัวปัญญา ธรรมะแท้ๆ คือเรื่องทุกข์
เรื่องเหตุแห่งทุกข์
เรื่องความดับทุกข์
เรื่องข้อปฏิบัติเพื่อความดับทุกข์
ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้าก็ไม่มี
พระพุทธเจ้าตอนนี้ท่านปรินิพพานแล้ว
ก็เป็นหน้าที่ของสาวกที่จะทรงธรรมะ 4 ข้อนี้เอาไว้
เรียนเรื่องทุกข์ อะไรคือทุกข์
รูปนาม ขันธ์ 5 นี้เป็นทุกข์
กายใจเรานี้ตัวทุกข์
หน้าที่ต่อทุกข์ คือ รู้มัน
อะไรเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ความอยาก
ความอยากทำให้เราต้องมาเกิด
ผลักดันให้เราต้องมาเกิด
พอเกิดแล้ว
ความอยากก็ผลักดันให้จิตของเราเป็นทุกข์ไป
แต่ละขณะๆ นี้ อาศัยความอยากนั่นล่ะผลักดันมา
หน้าที่ต่อความอยากคือละมันให้ได้
ทำอย่างไรจะทำลายสมุทัย ความอยากได้
ก็ต้องดูรากของความอยากคืออะไร
รากเหง้าที่ทำให้เกิดความอยาก คือ อวิชชา
มีอวิชชาก็มีตัณหา มีอุปาทาน
อวิชชา คือ การไม่รู้ทุกข์ ไม่รู้สมุทัย ไม่รู้นิโรธ ไม่รู้มรรค
ถ้ารู้ทุกข์อันเดียวก็จะรู้สมุทัย นิโรธ มรรคด้วย
เรียนแค่จุดเดียวเท่านั้น ก็จะรู้อริยสัจทั้งหมดเลย
เรียนเรื่องทุกข์อันเดียวล่ะ
รู้ทุกข์อย่างที่มันเป็นแล้ว
กายนี้มันทุกข์ ใจนี้มันทุกข์
รู้อย่างนี้ล่ะถึงจุดที่รู้ทุกข์อย่างแจ่มแจ้ง
สมุทัยจะถูกละอัตโนมัติเลย
เพราะมันรู้ความจริงแล้วกายนี้คือตัวทุกข์
ใจนี้คือตัวทุกข์ ความอยากจะไม่เกิดขึ้น
อยากให้กายเป็นสุข ไม่มีหรอก
เพราะมันรู้แล้วกายนี้คือทุกข์
อยากให้กายไม่ทุกข์ ไม่มี
เพราะมันรู้ว่ากายคือทุกข์
อยากให้จิตเป็นสุข ไม่มีหรอก
เพราะมันรู้ว่าจิตคือตัวทุกข์
อยากให้จิตไม่ทุกข์ก็ไม่มี
เพราะมันคือตัวทุกข์
เห็นไหมคำตอบมันมีอันเดียว เพราะมันคือตัวทุกข์
เพราะฉะนั้นถ้าเรารู้ทุกข์แจ่มแจ้ง
ตัวสมุทัยถูกละอัตโนมัติเลย
ทันทีที่สมุทัยถูกละ จิตจะพ้นความดิ้นรนปรุงแต่ง
มันพ้นจากตัณหา
พอพ้นจากตัณหา มันก็พ้นจากภพ
คือการดิ้นรนปรุงแต่งของจิต
จิตก็เป็นอิสระขึ้นมา
จิตก็เข้าถึงนิพพาน ถึงนิโรธ
นิพพาน คืออะไร
นิพพาน คือ สภาวะที่สิ้นตัณหา
นิพพาน คือ สภาวะที่สงบสันติ
อาศัยรู้ทุกข์นี่ล่ะ แล้วละสมุทัยก็แจ้งนิโรธขึ้นมาเลย
การที่เรารู้ทุกข์จนละสมุทัยแจ้งนิโรธได้
เรียกว่าการเจริญมรรค
ฉะนั้นรู้ทุกข์เอาไว้ รู้สึกตัวขึ้นมา
รู้กายอย่างที่กายเป็น รู้ใจอย่างที่ใจเป็น
แล้วเราจะเข้าใจอริยสัจ
ตราบใดที่อริยสัจยังดำรงอยู่
พระสัจธรรมยังไม่ได้อันตรธานไป
ถ้าอริยสัจไม่มี ก็คือ ไม่ได้มีศาสนาพุทธแล้ว
เพราะฉะนั้นการที่หลวงพ่อพร่ำสอนพวกเราว่า
รู้สึกตัวไว้ ดูกายไว้ ดูใจไว้
เพื่อให้เราเข้าใจอริยสัจในวันหนึ่งข้างหน้า
ก็เพื่อให้พวกเราช่วยกันดำรงรักษาพระสัจธรรมอันนี้เอาไว้ ไม่ให้สูญหาย
หลวงพ่อพูดอยู่เรื่อยๆ เลยว่าหลวงพ่อตั้งใจไว้เลยว่า จะไม่ยอมให้ดวงประทีปของพระสัจธรรมนี้มันดับลงในมือเรา อย่างไรๆ ต้องส่งทอดต่อไปให้ได้ พวกเราก็ต้องส่งทอดต่อไป
ฉะนั้นเราลงมือปฏิบัติ รู้สึกตัวขึ้นมา ดูกายอย่างที่กายเป็น ดูใจอย่างที่ใจเป็น ถึงจุดหนึ่งเราจะเข้าใจพระสัจธรรมขึ้นมา เข้าใจอริยสัจ
แล้วเราก็จะส่งมอบของวิเศษอันนี้ ให้ลูกให้หลานของเราสืบๆ ไป ดีกว่าให้มรดกอย่างอื่น ให้มรดกไปไม่นานมันก็ทำฉิบหายหมด ยิ่งมันได้ง่ายมันยิ่งไม่เห็นคุณค่า
อย่างคนซึ่งภาวนา โอ๊ย ต่อสู้มากมายกว่าจะเข้าใจธรรมะ จะเห็นคุณค่าของธรรมะมากเลย ถึงกล้าเอาชีวิตเข้าแลกกัน ถ้ายังเห็นคุณค่าของโลก ไม่ได้เห็นคุณค่าของธรรมะ มันก็ไม่ได้ธรรมะ มันก็ได้โลกไป
เพราะฉะนั้นเราเห็นพวกอลัชชีพวกอะไร เรารู้ว่ามันไม่ถูกแต่ไม่ต้องไปเกลียดมันหรอก เกลียดมันใจเราไม่เป็นกลาง ใจเป็นทุกข์ พวกนั้นก็สัตว์โลกมันทุกข์ มันทุกข์อยู่แล้วล่ะ แล้วก็หาทุกข์ให้ตัวเองเพราะความโง่ความเขลา
เราได้ยินได้ฟังธรรมะแล้ว เราลงมือปฏิบัติไป
เราเข้าใจโลกแต่เราไม่หลงโลก
พวกที่เขาหลงโลกเพราะเขาไม่เข้าใจโลก
ถ้าเข้าใจโลกแล้วจะรู้ว่าโลกหลงไม่ลงเลย
ของที่หลงไม่ลง มันมีแต่ทุกข์ ไปหลงมันทำไม
เรียนเรื่องอริยสัจเท่านี้เอง
รู้ทุกข์เมื่อไรก็ละสมุทัยเมื่อนั้น
ละสมุทัยเมื่อไรก็แจ้งนิโรธเมื่อนั้น
แจ้งนิโรธตรงไหน ตรงนั้นล่ะอริยมรรคเกิด
ฉะนั้นทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
เป็นกิจที่เราต้องทำ 4 อย่าง
รู้ทุกข์ ละสมุทัย แจ้งนิโรธ เจริญมรรค
ทำเสร็จในขณะจิตเดียว
ขณะจิตที่รู้ทุกข์นั่นล่ะ
ที่เหลือนั้นมันเกิดอัตโนมัติเลย. …”
.
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
19 กุมภาพันธ์ 2565
อ่านธรรมบรรยายฉบับเต็มได้ที่ :
เยี่ยมชม
dhamma.com
เรียนรู้ความจริงของโลก
เรียนรู้ความจริงของร่างกาย ของจิตใจไป วันหนึ่งก็จะรู้ว่าในโลกนี้อะไรมีคุณค่าบ้าง ในโลกมีแต่ของชั่วคราว สิ่งที่มีคุณค่าคือธรรมะ
Photo by : Unsplash
5 บันทึก
19
16
9
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ธรรมะเพื่อความพ้นทุกข์
5
19
16
9
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย