#ไบเดนอนุมัติงบทหาร350ล้านเหรียญให้ยูเครน
#ยูเครนกับสงครามตัวแทนเต็มรูปแบบ
ประธานาธิบดี โจ ไบเดน หวังดึงเกมยาวในการยื้อเวลาแผนปฏิบัติการทหารของรัสเซีย ด้วยการอนุมัติงบด่วน 350 ล้านเหรียญ ที่จะถูกเปลี่ยนเป็นอาวุธส่งไปเสริมให้กับกองทัพของรัฐบาลยูเครนแล้วในวันนี้
งบส่วนนี้ ทาง แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐดึงจากกองทุนช่วยเหลือต่างประเทศของรัฐบาลสหรัฐ โดยทางยูเครนได้ขอให้สหรัฐช่วยส่งขีปนาวุธต่อต้านรถถัง และอากาศยานเอาไว้สอยกองกำลังรัสเซียจำนวนมาก ซึ่ง แอนโทนี บลิงเคน ก็จัดให้สมใจอยาก และยังแถมปืนและยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับหน่วยรบแถวหน้าให้ด้วย แถมยังบอกอีกว่าการส่งอาวุธจำนวนขนาดนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน
คำพูดของแอนโทนี บลิงเคน ไม่เกินจริงซะทีเดียว เพราะสหรัฐได้ทยอยส่งอาวุธให้กับยูเครนมานานหลายเดือนแล้ว ตั้งแต่ช่วงตุลาคมปีที่แล้ว ที่ปูตินเริ่มส่งสัญญาณฮึ่มๆมา ซึ่งถ้านับรวมตลอดทั้งปี 2021 ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ สหรัฐส่งอาวุธและทุนสนับสนุนกองทัพยูเครนไปแล้วไม่น้อยกว่า 1 พันล้านเหรียญ
และตอนนี้ก็ไม่ใช่แค่เฉพาะสหรัฐแล้วที่จัดส่งอาวุธไปให้ที่ยูเครน หลายชาติในยุโรปก็ได้เบิกคลังแสงตัวเองส่งไปให้ทางยูเครนแล้วเช่นกัน อย่างเนเธอร์แลนด์ เตรียมส่งจรวดต้านอากาศยานให้ 200 ลูก เบลเยียมจะส่งปืนกล 2,000 กระบอกกับเชื้อเพลิง 3,800 ตันให้ ด้านฝรั่งเศสก็จะส่งอาวุธชุดใหญ่ไปให้รัฐบาลยูเครนเร็วๆนี้
แต่นอกเหนือจากอาวุธ ยังไม่มีชาติไหนเอ่ยเต็มปากว่าจะส่งกองกำลังของตนเข้าไปช่วยรับศึกให้ในยูเครนเลยแม้แต่ชาติเดียว
เรื่องการที่สหรัฐลังเลที่จะส่งกองทหารของตัวเอง หรือแม้แต่ในนาม NATO เข้าไปช่วยยูเครนรบกับกองทัพรัสเซียที่กรุงเคียฟ เป็นเรื่องที่หลายฝ่ายผิดคาดพอสมควร และบางสื่อถึงกับออกมาฟันธงว่ายูเครนโดนเท
เนื่องจากสหรัฐ รวมถึงชาติพันธมิตรทั้ง NATO และ Five Eyes ออกมายืนยันชัดว่าจะเน้นเรื่องการคว่ำบาตรรัสเซียหนักๆมากกว่า และดูเหมือนจะเป็นเป้าหมายหลักของสหรัฐด้วยซ้ำไป ที่ต้องการล่อรัสเซียให้กระโดดเข้ามาตกหล่มที่ยูเครน เพื่อที่สหรัฐจะใช้เป็นข้ออ้างในการเหยียบย่ำรัสเซียให้จมดินด้วยอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจที่เหนือกว่า
สื่อต่างชาติได้เปรียบเทียบท่าทีของสหรัฐ ที่มีต่อกรณีของอิรัก ที่รุกรานคูเวตในปี 1990 กับ รัสเซียบุกยูเครนในปีนี้ ว่าทั้ง 2 เหตุการณ์มีความเหมือนกันอย่างมาก แต่ทำไมการตอบโต้ของสหรัฐกลับต่างกันราวฟ้ากับเหว
กับอิรักนั้นสหรัฐเล่นใหญ่มาก เพราะจัดส่งกองทัพบุกอิรักเต็มอัตราศึก ถล่มกันเป็นเรื่องเป็นราวระหว่าง ขีปนาวุธสกั๊ดกับแพทริออท เชียร์กันซะสนุก แต่ทำไมกับรัสเซีย ไม่เห็นสหรัฐจะเปิดหน้าลุยเช่นนี้ ทั้งๆที่ไบเดนก็ออกมาขู่รัสเซียออกสื่อทุกวันในช่วงก่อนวันรัสเซียบุกจริง
คำตอบที่นักวิเคราะห์แทบทุกสำนักเห็นตรงกันก็คือ ก็รัสเซียมีนิวเคลียร์ไง จำนวนมากกว่า 6,000 ลูก (ที่เปิดเผยได้) พอฟัด พอเหวี่ยงกับสหรัฐ แต่อิรักไม่มี ทำให้มันไปเข้ากฏทฤษฎี stability–instability paradox หรือ ความเสถียรภาพ = ไร้เสถียรภาพ ความเสี่ยงที่ลักลั่นย้อนแย้งกับความมั่นคง
เช่นเดียวกับสหรัฐ - รัสเซีย 2 ขั้วตรงข้ามในสงครามเย็น ผู้สะสม ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์มากที่สุดในโลก ที่เคยมีเรื่องจะเผชิญหน้าระเบิดตูมตามกันมาแล้วหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็จะพยายามหาวิธีเลี่ยงกันได้ตลอด เพราะการก่อสงครามนิวเคลียร์เป็นสิ่งที่ได้ไม่คุ้มเสีย
ดังนั้น 2 ชาติมหาอำนาจนิวเคลียร์นี้ จะไม่มีวันทำสงครามกันเองอย่างแน่นอน แต่จะเลือกทำสงครามตัวแทนกับชาติที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า ที่ไม่ได้ครอบครองนิวเคลียร์แทน ซึ่งคราวนี้ความซวยก็มาหวยลงที่ยูเครนนี่ไง
ดังนั้นที่ทั้งสหรัฐ และหลายชาติในยุโรปรีบจัด Delivery ส่งอาวุธไปให้ยูเครน ก็เพื่อให้สนามรบมันถูกจำกัดวงอยู่แค่ในยูเครน โดยให้กองทัพยูเครน-รัสเซียรับเป็นฝ่ายสูญเสียเท่านั้น
และสหรัฐก็จะพยายามที่จะยื้อการรบในยูเครนให้นานที่สุด มีอาวุธเท่าไหร่ส่งไปให้ได้ แต่ขออย่าให้รัสเซียปิดเกมไว หรือตัวผู้นำยูเครนถอดใจก่อนเท่านั้นพอ
และนี่ก็อาจเป็นเหตุผลที่โจ ไบเดน ออกแถลงการณ์ชัด ผ่านสื่ออเมริกันว่า ชาวอเมริกันไม่ต้องการสงคราม และยังไม่คิดที่จะส่งทหารของเราเข้าไปในตอนนี้ และจากผลสำรวจความเห็นของชาวอเมริกันล่าสุด มากกว่า 72% มีความเห็นว่าสหรัฐควรวางตัวอยู่ห่างๆความขัดแย้งระหว่าง ยูเครน-รัสเซีย ด้วยซ้ำไป จากสงคราม 20 ปี ในอาฟกานิสถาน อาจเตือนสติให้ชาวอเมริกันรู้ว่าภาษีของเรามีค่ามากกว่านั้น
แต่สิ่งที่น่ากลัวของทฤษฎี เสถียรภาพ = ไร้เสถียรภาพ ก็คือมันพิสูจน์ว่าการทำสงครามเย็นของชาติมหาอำนาจด้านการทหารมัน "เวิร์ค" ในแง่ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเผชิญหน้ารบกันในบ้านตัวเองจริงๆ และมันยังไปสนับสนุนเหตุผลที่ว่าทำไมเกาหลีเหนือ และ อิหร่าน ต้องกลับไปพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นมาใหม่ เพื่อรับประกันว่าจะไม่ถูกชาติมหาอำนาจกล้ายกทัพเข้ามาบุกถึงในบ้านแน่นอน
แต่กับประเทศอื่นที่ไม่ได้ครอบครองอาวุธล้างโลกนี้ ก็ต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ประเทศของเราถูกใช้เป็นสนามรบของคนอื่น เพราะสุดท้ายแล้วประเทศที่เป็นแดนรบมักจบด้วยความยับเยินเสมอ
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
และ Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
- 71
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
