เอฟเฟ็กต์ของซุปหิน [Teamwork] <> เวลาอ่าน 5.35 นาที
เมื่อครั้งหนึ่ง มีชายชรานิสัยฉลาดคนหนึ่งเร่ร่อนอยู่ตามถนน บางครั้งเขามักจะพเนจรไปเรื่อยโดยไม่พบปะผู้คนเลย และบางครั้งก็ตรงกันข้าม
Stone Soup
ในช่วงชีวิตของเขาถือได้ว่าเจออะไรมาเยอะ แต่สิ่งที่ชายชราคนนี้ชื่นชอบมากที่สุดคือ การได้เยี่ยมชมสถานที่ใหม่ ๆ พบปะผู้คนใหม่ ๆ และพบว่าตนเองมักจะเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ต่าง ๆ หลากหลาย ทั้งหมดนี้ทำให้ชายชรามีประสบการณ์และภูมิปัญญามากมาย
วันหนึ่ง ชายชราพเนจรไปถึงหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซึ่งเขาไม่เคยมามาก่อน บริเวณจุดศูนย์กลางหมู่บ้าน มีคนกลุ่มหนึ่งยืนสนทนาอะไรบางอย่างกันอยู่ เขาเลยเข้าไปแนะนำตัวเองทันที “สวัสดี ฉันเป็นนักเดินทาง ฉันกำลังมองหาอาหารร้อน ๆ และสถานที่ปลอดภัยในการนอน”
ชาวบ้านตอบอย่างนอบน้อม “เรายินดีที่จะจัดที่นอนให้ลุงแน่นอน แต่อาหารของเรามีน้อย เพราะพืชผลปีนี้ให้ผลไม่ตามที่เราหวังไว้เลย ชาวบ้านเลยกินไม่อิ่มกัน แล้วพวกเราก็ไม่ค่อยได้กินอะไรกันมากนัก”
“ฉันเสียใจกับเรื่องนั้นด้วยจริง ๆ” ชายชราพูด “พวกเจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารของฉันหรอก เพราะฉันมีทุกอย่างที่จำเป็นแล้ว ที่จริง ฉันคิดว่าจะทำซุปหินแบ่งปันให้พวกเจ้าสักหน่อย พวกเจ้ามีหม้อใบใหญ่ ไม้ฟืน แล้วก็น้ำมั้ย ฉันขอใช้หน่อย”
“ซุปหิน? มันคืออะไรลุง เราไม่เคยได้ยินมาก่อน หรือว่าลุงจะเอาหินมาทำเป็นซุปหรืออย่างไร” ชาวบ้านรู้สึกประหลาดใจ
“โอ้ มันยอดเยี่ยมมากเลยล่ะ” ชายชราบอก “มันเป็นซุปที่ดีเยี่ยมที่สุดที่ฉันเคยลิ้มลอง หากพวกเจ้ามี 3 อย่างที่ฉันบอกไปก่อนหน้านี้ล่ะก็ พวกเจ้าจะได้รู้ว่านี่เป็นซุปที่เจ๋งสุด ๆ”
ไม่นานทุกอย่างก็พร้อมอยู่ตรงหน้าชายชรา และเมื่อไฟถูกจุด น้ำก็เริ่มเดือด ชายชราหยิบเอากระเป๋าผ้าไหมใบเล็กขึ้นมาตรงหน้า และด้วยท่าทางอันน่าเลื่อมใส เขาก็ดึงหินที่มีลักษณะกลมเรียบออกมาจากกระเป๋า
ชายชราหย่อนหินลงในหม้อต้มอย่างระมัดระวัง ชายบ้านก็จ้องอย่างจดจ่อเมื่อชายชราเริ่มกวนหม้ออย่างช้า ๆ ชายชราดมกลิ่นและเลียปากอย่างคาดหมาย “ฉันชอบมันมากจริง ๆ ซุปหินนี่” เขาบอก “แต่ซุปหินที่ใส่กะหล่ำปลีมันจะวิเศษยิ่งกว่า”
“ฉันมีกะหล่ำปลีอยู่นิดหน่อย” หนึ่งในชาวบ้านพูดขึ้น เธอรีบกลับไปที่บ้านทันที และออกมาพร้อมกะหล่ำปลีหัวหนึ่ง
“ยอดเยี่ยม!” ชายชราพูดกล่าวเมื่อใส่กะหล่ำปลีลงในหม้อต้ม “สิ่งนี้ทำให้ฉันนึกถึงวันเก่า ๆ เวลาที่ฉันกินซุปหินใส่กะหล่ำปลี พร้อมเนื้อเค็มอีกหน่อย มันรสชาติดีอย่างไม่น่าเชื่อ”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง คนขายเนื้อคนหนึ่งก็โพล่งขึ้น “ผมรู้ว่าจะหาเนื้อเค็มได้จากที่ไหน” จากนั้นเขาก็วิ่งไปที่ร้านของเขาและนำเนื้อเค็มออกมา
ตอนนี้ชายชรากำลังใส่เนื้อเค็มลงในหม้อและเริ่มกวนมันอีกครั้ง ไม่นานหลังจากผ่านไปสักพัก ทุกคนในหมู่บ้านก็เริ่มทยอยได้กลิ่นแล้ว
ชายชรายิ้มกริ่มเมื่อเห็นชาวบ้านแต่ละคนโก่งคอรอเสียงกลืนน้ำลายดังระงม ดัง เอื๊อก เอื๊อก
“ลองนึกดูสิว่ารสชาติของซุปนี้จะเป็นเช่นไร หากเรามีหัวหอมเล็กน้อย มันฝรั่งสองสามลูก และแครอทสักหัว รวมถึงเห็ด โอ้ นี่คงจะเป็นอาหารที่เหมาะกับราชวงศ์เลยทีเดียว”
และก่อนที่ชายชราจะรู้ตัว ซุปก็เต็มหม้อไปด้วยผักนานาชนิด เพราะจู่ ๆ ชาวบ้านก็นำอาหารมาแบ่งปันกันมากจนเกินพอ
แครอท มันฝรั่ง เห็ด หัวหอม ผักกาด ถั่วเขียว หัวบีท ขึ้นฉ่าย มีหมด ไม่เพียงเท่านั้น คนทำขนมปังในหมู่บ้านก็นำขนมปังและเนยสดออกมาด้วย
ขณะที่ซุปโดนเคี่ยวช้าๆ บนไฟที่โบกสะบัด กลิ่นหอมอันน่าพิศมัยก็แผ่ซ่านไปทั่วพื้นที่ ชาวบ้านรู้สึกผ่อนคลายขึ้น และเริ่มพูดคุยกันบ้าง ร้องเพลงกันบ้าง เล่าเรื่องสัพเพเหระบ้าง เรื่องตลกบ้าง บรรยากาศยามเย็นดีจริง ๆ
เมื่อซุปสุกได้ที่ ชายชราก็เริ่มบรรจงเทซุปลงในถ้วย และพวกเขาก็เริ่มบรรเลงนำซุปเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
มันมีซุปมากพอที่ชาวบ้านทุกคนในหมู่บ้านจะรู้สึกอิ่มท้องได้ ต่อมา ชาวบ้านก็ประกาศว่าซุปนี้ เป็นเมนูที่อร่อยที่สุดที่พวกเขาเคยลิ้มลอง
ผู้นำผู้บ้านดึงตัวชายชราออกไปเงียบ ๆ และเสนอเงินให้จำนวนมาก เพื่อขอซื้อหินเหล่านั้น แต่ชายชราปฏิเสธไป
ชายชราบอกเขาว่า มันเป็นความรับผิดชอบของเขาที่เป็นผู้นำหมู่บ้าน ที่จะทำซุปต่อไปโดยไม่ใช้หินกับส่วนผสมทั้งหมดที่มีในวันนี้
ชายชรายังบอกต่อผู้นำหมู่บ้านอีกว่า เขาต้องหาทางทำอย่างไรก็ได้ ให้ชาวบ้านทำงานร่วมกันเหมือนอย่างในวันนี้ หากทำได้ วันหนึ่งชายชราจะกลับมาอีกครั้งพร้อมทั้งจะยกหินวิเศษนี้ให้เขาไปฟรี ๆ
วันถัดมา ชายชราตื่นเช้าและเตรียมตัวออกเดินทางต่อ ขณะที่เขากำลังออกจากหมู่บ้าน เขาเห็นเด็ก ๆ กลุ่มหนึ่งกำลังเล่นกันอยู่อย่างสนุกสนาน
ชายชรายื่นถุงผ้าไหมที่บรรจุเต็มไปด้วนหินให้เด็กที่คาดว่าอายุน้อยที่สุด และกระซิบบอกว่า “นี่ไม่ใช่หินวิเศษหรือมีเวทมนตร์อะไร มันเป็นแค่หินธรรมดา ๆ ที่สามารถทำให้ทุกคนอยู่อย่างพร้อมเพรียงและช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้”
>>> มันไม่เกี่ยวกับตำแหน่งอะไรที่คุณมี แต่มันเกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้มันเพื่อสร้างความแตกต่าง <<<
>>> ไม่ว่าใครก็สร้างความแตกต่างได้ ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งหรืออิทธิพลอะไร ขอแค่คุณกล้าใช้มันอย่างสร้างสรรค์และแตกต่างก็พอ <<<
>>> ผู้นำที่แท้จริงจะหาหนทางที่ทำให้คนของตนร่วมมือกันได้ด้วยดี และหากเค้าทำได้ ผลลัพธ์สุดท้ายจะดีกว่าที่เคยเป็นอยู่อย่างแน่นอน <<<
>>> หากร่วมมือกันด้วยดี มุมมองก็กว้างกว่า ผลลัพทธ์ก็ย่อมจะดีกว่า หรือท่านว่าจริงไม่จริง <<<
หากท่านเป็นคนที่ชอบพัฒนาตนเองเป็นชีวิตจิตใจ และชื่นชอบบทความสร้างแรงบรรดาลใจ คำคม จิตวิทยา สามารถติดตามเราได้ที่
References
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
