ท่ามกลางการบุกยูเครนของรัสเซีย เข้าสู่วันที่ 4 ผู้หญิงและเด็กชาวยูเครนมากกว่า 150,000 คน ลี้ภัยออกนอกประเทศ ไปยังประเทศใกล้เคียงทั้งโปแลนด์ ฮังการี มอลโดวา และชาติยุโรปอื่น ๆ ขณะที่ผู้ชายจำนวนมากต้องอยู่ในยูเครน เพื่อร่วมรบ
อันนา สมู เข้าสวมกอด นาตาลิยา อบลีเยวา ทั้งที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ขอบคุณที่พาลูกชาย และลูกสาวของเธอข้ามพรมแดนยูเครน มาฮังการี
เพราะสามีของเธอ ต้องอยู่ในยูเครน ตามกฎหมายที่ให้ชายอายุ 18 ถึง 60 ปี เข้าร่วมรบ จึงจำต้องต้องฝากลูกทั้งสอง มากับคนแปลกหน้า
ด้านนาตาลิยา เองก็ต้องทิ้งลูก ๆ ที่เป็นตำรวจ และพยาบาล ไว้เบื้องหลัง เช่นเดียวกับหลายครอบครัวอย่าง วิลมา ซูคาร์ วัย 68 ปี จากยูเครน ที่ระบุว่า ลูกชายของเธอไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางมาพร้อมกัน เพราะต้องไปร่วมรบ
แต่ก็ยังมีชาวยูเครนบางคน ที่ตัดสินใจเดินทางกลับ อย่างยูเลียวัย 34 ปี ทำงานที่ปราก สาธารณรัฐเช็ก พร้อมสามี เธอตัดสินใจเดินทางกลับยูเครน เพื่อไปหาลูก ๆ ยูเลียระบุว่า เธอพร้อมจับอาวุธต่อสู้ พร้อมเรียกร้องให้นานาชาติช่วยเหลือยูเครนยุติสงคราม
แม้รัสเซียจะออกมาระบุว่าไม่ได้บพุ่งเป้าการโจมตียังพื้นที่พลเรือน แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีรายงานศูนย์บริจาคโลหิตในคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน ถูกโจมตีด้วยระเบิด
ผู้บริจาคโลหิต 3 คนบาดเจ็บ 1 คนเสียชีวิต
ชิ้นส่วนระเบิด ถูกพบบริเวณสนามเด็กเล่นในคาร์คิฟ หนึ่งในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะอยู่ติดกับรัสเซีย
ถนนในหลายเมืองของยูเครนไร้ผู้คน เจ้าหน้าที่ยูเครนเตือนประชาชนให้หาพื้นที่หลบภัย
รถไฟใต้ดิน ลานจอดรถใต้ติน โบสถ์ ถูกใช้เป็นหลุมหลบภัย หลังการโจมตียังเกิดขึ้นต่อเนื่อง คนยูเครนในประเทศต่าง ๆ ออกมาเคลื่อนไหว เรียกร้องให้นานาชาติ ให้การช่วยเหลือ
ชมคลิปเต็มได้ทาง >> www.facebook.com/ThaiPBS/videos/325777789576739/
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
