6 มี.ค. 2022 เวลา 13:37 • ไลฟ์สไตล์
“นิพพานมีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปหา
หายังไงก็ไม่เจอ หยุดหา อาจจะเจอ”
“ … เรามาสำรวจตัวเองนะ สำรวจไปเรื่อย ๆ ว่าศีลเราดี ความคิดเห็นของเราถูกต้อง เราก็ลงมือเจริญ พัฒนาสติ สมาธิ อะไรพวกนี้ พัฒนา
มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการพัฒนา
คือ สัมมาวายามะ เป็นความเพียรชอบ
ที่เราจะภาวนาต่อไปนี้ ทำไปเพื่ออะไร
เพื่อลดละอกุศลที่มีอยู่
เพื่อปิดกั้นอกุศลใหม่ไม่ให้เกิด
เพื่อทำกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิด
เพื่อทำกุศลที่เกิดแล้วให้ถึงพร้อม ให้บริบูรณ์มากขึ้น
1
เพราะฉะนั้นเวลาเราคิดจะลงมือปฏิบัติธรรม
ต้องรู้เป้าหมายที่ชัดเจน
ไม่ใช่เห็นคนอื่นเขานั่งสมาธิ ก็นั่งบ้าง
เขาเดิน ก็เดินบ้าง
เขาพุธโธ ก็พุธโธบ้าง
เขาดูท้องพองยุบ ก็ดูบ้าง
ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร
นั่นภาวนาแบบคนตาบอด
มืด ๆ บอด ๆ คลำ ๆ ไปเรื่อย ๆ
ที่จริงเราภาวนานะ เพื่อลดละกิเลส เพื่อเจริญกุศลให้ถึงพร้อม
1
ถ้าเราทำกุศลของเราถึงพร้อมแล้ว
เรียกว่าเราทำเหตุที่ดี กุศลของเราสมบูรณ์แล้ว
เหตุก็ดี ผลที่ดี คือ นิโรธ ก็จะปรากฏขึ้น
นิโรธ ไม่ได้เกิดขึ้นนะ
นิโรธ ไม่เหมือนทุกข์
ทุกข์ พอเรามีตัณหา ความทุกข์มันก็เกิด
แต่ นิโรธ มันไม่เกิด มันเป็นสภาวะซึ่งมันมีอยู่แล้ว
ตัวพระนิพพาน นี้
ที่เราทำความดีแทบเป็นแทบตาย
เจริญ ศีล สมาธิ ปัญญา จนปัญญาแก่รอบนะ
หมดความยึดถือในรูป ในนาม ได้
ก็ “เห็นแจ้ง นิโรธ”
นิโรธ ไม่ได้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น
ไม่ได้ไปเกิดขึ้นจริง ๆ หรอก
แต่การที่เราทำเหตุอย่างนี้ มันทำให้เราเข้าไปเห็นนิโรธ
เข้าไปประจักษ์นิโรธ
1
ฉะนั้น นิพพานมีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปหา
หายังไงก็ไม่เจอ หยุดหา อาจจะเจอ
2
ที่เราหา เราดิ้นรนภาวนานะ ทำด้วยอยาก
ตราบใดที่ใจยังอยากอยู่
ใจก็ต้องดิ้นรนไปเรื่อย ๆ
การที่จิตใจมันดิ้นรน เรียกว่าจิตมันสร้างภพ
ตราบใดที่มีภพ ก็มีชาติ
คือการหยิบฉวยตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ขึ้นมา
แล้วก็มีทุกข์
งั้นเราภาวนานะ ค่อย ๆ เรียนรู้มันไป … “
.
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม
6 มีนาคม 2565
Photo by : Unsplash

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา