14 มี.ค. 2022 เวลา 11:34 • ปรัชญา

มัดรวมความเฟล ผิดหวังยังไงให้ไปต่อไหว

Fail คุณเฟลมาเยอะใช่มั้ย..move on กันได้รึป่าว ?
ทุกคนคงมีเหตุการณ์เฟลๆ ในชีวิตกัน เฟลมาก หรือน้อยก็เเล้วเเต่คนกันไป เเต่ผมเชื่อว่าคงมีซักหนึ่งเรื่อง หนึ่งเหตุการณ์ที่คุณร้องไห้กับมัน เศร้า เเละผิดหวังกับตัวเอง ที่ตัดสินใจ วางเเผน หรือทำอะไรลงไปเเบบไม่เต็มที่ ทั้งๆ ที่รู้ว่าถ้าตัวเองทำอย่างเต็มที่ผลลัพธ์ที่ได้คงดีกว่าตอนนี้มากๆ เเต่ก็กลับไปเเก้ไขอะไรไม่ได้เเล้ว
  • นิยามของความเฟล
..เเต่ละคนคงนิยามความเฟลเป็นเหตุการณ์ต่างๆ ที่เจอกันมา เเต่รู้มั้ยครับว่า จริงๆ มันหมายถึงอะไรกันเเน่?
..ก่อนอื่นที่เราจะก้าวข้ามช่วงเวลาที่เเย่ๆ ที่สุดจากความเฟลไปได้ เราต้องระบุได้ครับว่า "ที่เรารู้สึกตอนนี้คือ เฟลใช่มั้ย?"
เฟล (Fail) คือ ช่วงเวลาหลังจากเหตุการณ์ใดๆ ที่กระทบกับความรู้สึกของเราจนทำให้เรา เกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่มั่นใจในการวางเเผน หรืออาจจะเป็นการตัดสินใจของตัวเอง ในหลายๆ เหตุการณ์อาจจะมีปัจจัยหลายอย่างประกอบกันจนทำให้เราตัดสินใจวางเเผนพลาด เเละรู้สึกผิดหวังกับผลลัพธ์ที่ได้ตรงหน้า มันมักทำให้เกิดความคิด หรือ เสียงภายในหัว ตั้งคำถามเชิงลบต่างๆ นานา เพื่อกัดกิน เเละบั่นทอนความรู้สึกของตัวเอง จนกระทั่งท้ายที่สุดคุณก็จะตกลงไปในห้วงเเห่งความคิดลบ พลังงานเชิงลบก็จะปกคลุมคุณ
คุณอาจจะคิดว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเฟล มันต้องเป็น งาน เวลา เเละความกดดันภายนอกเเน่ๆ เเต่ที่เเท้จริงเเล้วทุกอย่างอยู่ที่ตัวคุณ สิ่งที่คุณคิดว่าเป็นสาเหตุ มันก็เป็นเเค่ปัจจัยที่ทำให้คุณรู้สึกเฟลเท่านั้น พลังงานลบที่ทำให้คุณรู้สึกเเย่ มันก็เกิดจากตัวคุณ เสียงจากตัวคุณทั้งนั้น
เหตุการณ์ของเเต่ละคนที่ประสบอาจจะเเตกต่างกัน อาจมีบางคนที่กลายเป็นซึมเศร้าอ่อนๆ เนื่องจากความผิดหวังในการตัดสินใจของตัวเอง ความรุนเเรงขึ้นอยู่กับเเต่ละคน ผมไม่อยากให้ทุกคนคิดว่าเเค่รู้สึกเฟล เเค่ผิดหวังเองไม่เห็นต้องคิดมาก เเต่ในทางกลับกันคุณควรเข้าใจความรู้สึกนี้เเทนที่ที่จะตัดสินพวกเขา
อ่านมาถึงตรงนี้ ผมอยากให้ผู้อ่านกดติดตามปุ่มฟ้าๆ
เพื่อติดตามบทความเนื้อหาดีๆ เเบบนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ 🎉
ทุกคนคงจะเข้าใจกับความเฟลไม่มากก็น้อยเเล้ว เรามาลองเลือกกันดีกว่าว่าคุณจะทำอย่างไรต่อ ถ้าตอนนี้คุณรู้สึกเเย่จนลุกขึ้นไปทำอะไรไม่ไหว ลองคิดทางที่คุณจะเดินต่อจากข้อที่ผมให้เลือกนะครับ
เนื่องจากหลายๆ ครั้งในการดำเนินชีวิตยังไงก็ต้องพบเจอ เเละโดนผลกระทบจากความเฟล ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น ที่เจอบ่อยจนกรองคร่าวๆ มาเป็น how-to ที่ไม่ได้ทางการมากนัก เเต่ก็เป็นเเต่ละข้อที่ทำให้ผมเรียนรู้จากความล้มเหลวตัวเองได้เร็ว เเละรู้สึกดีที่ตัวเองได้เรียนรู้
1). ลืมมันไปซะ ข้อดีของข้อที่หนึ่งคือ คุณสามารถ move on จากความรู้สึกเเย่ๆ นี้ได้เร็ว เเละลืมช่วงเวลาเเย่ๆไปได้ เเต่คุณต้องมั่นใจว่าจะลืมมันได้เเน่ๆ ต้องใจเเข็งในก้าวต่อเเบบไม่ต้องสนโลก ลืมมันออกไปจากสมอง ข้อเสียคือ คุณจะไม่พัฒนาจากเหตุการณ์เเย่ๆ นี้ ซึ่งอนาคตของคุณอาจจะกลับมาซ้ำรอย (ไม่เกลียดข้อนี้เอามากๆ)
2). เผชิญหน้ากับมัน เเละปรับปรุงไม่ให้เกิดซ้ำ ผมเป็นคนนึงที่คิดมากเเละเลือกลืมมันไปเเบบข้อเเรกไม่เคยได้ ถึงข้อสองอาจจะดูยุ่งยากเเต่มันได้ผล เเละทำให้คุณพัฒนาไปได้ เข้าใจเหตุผล สาเหตุ เเละทางเลี่ยงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นได้
ต่อจากนี้ มาลองดูวิธีการของข้อที่สอง ซึ่งผมใช้ประจำกันนะครับ สำหรับผมมันได้ผลมากๆ เเละรู้สึกดีขึ้นมากกว่าเดิมจริงๆ
2.1). ต้องรู้ว่าตอนนี้เราเฟลอยู่
.. ถ้าคุณไม่ยอมรับว่าคุณผิดหวังอยู่ มันเเทบจะเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะ move on ออกจากความรู้สึกนี้ได้ เพราะคุณยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณรู้สึกอย่างไรอยู่ตอนนี้
2.2). กำจัดความรู้สึกเชิงซ้อน
.. ผมว่าผมพูดไม่รู้เรื่อง(555) อาจกล่าวง่ายๆ ว่าหยุดคิดมาก ว่าจะเป็นนู่นนี่ต่อไป หยุดคิดมากไปกว่านั้น ถ้าคุณอยากก้าวออกไปเร็ว คุณไม่ควรเอาความรู้สึกเเย่ๆอื่นมาปนจนเป็นตะกอนความรู้สึกผิดที่ทับถมคุณอยู่ หยุดดูถูก ดุด่าตัวเอง หรือถมถุยตัวเองมากไปกว่านี้
2.3). ขอบคุณตัวเอง ลดความเกลียดตัวเอง
.. การเพิ่มพลังบวกให้ตัวเองมันเป็นสิ่งที่ดีมากๆ นับว่าเป็นเชื้อเพลิงในการเริ่มทำอะไรใหม่ๆ เป็นพลังที่ตรงข้ามกับการดูถูกตัวเอง ถือเป็นการเพิ่ม self esteem ที่ดีมากๆ
2.4). วิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้เกิด
.. เมื่อร่างกายเเละจิตใจคุณนิ่ง คุณจะสามารถวิเคราะห์หาอะไรหลายๆ อย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ถ้าอยู่ในห้วงความรู้สึกเเย่ๆ คุณก็จะลงมือทำมันได้ไม่ดี100% เมื่อคุณหาสาเหตุได้ ก็บันทึกลงกระดาษไม่ก็สมุดบันทึกส่วนตัว(Bujo) มีสำนวนจีนโบราณกล่าวไว้ว่า "เเม้เเต่น้ำหมึกที่จางที่สุด ก็ยังดีกว่าความจำที่เยี่ยมที่สุด"
.. จดจำมันไว้ เเละไม่ให้เกิดขึ้นอีก ทุกอย่างในอนาคตขึ้นอยู่กับคุณ ผมไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้ เมื่อคุณจำข้อผิดพลาดนี้ได้เเต่ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนเเปลงอะไร คุณก็จะพลาดซ้ำๆ ซ้ำไปซ้ำมาไม่มีสิ้นสุด
.. เเต่ถ้าคุณลุกขึ้นมาเปลี่ยนเเปลง เเม้จะเป็นความคิดเพียงชั่ววินาที ชั่ววินาทีหลังจากที่คุณคิดนั้น คุณได้พัฒนา เเละไม่กลับไปเดินซ้ำรอยเเล้ว ลุกขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลง คุณจะไม่กลับไปทำมันซ้ำอีก!
2.5). หาพลังงานบวกเข้าตัว
.. หาอะไรซักอย่างที่คุณต้องการทำ การอยู่นิ่งๆ คิดมากไม่ช่วยอะไร หาใครซักคนที่เราวางใจเขาได้ ระบายทุกอย่างออกมา ช่วงเวลาที่มีคนเข้าใจเรามันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับผม หรือไม่ก็หาอ่านหนังสือดีๆซักเล่ม ฟังเพลง นั่งสมาธิ ดูซีรีย์ฟิลกู้ดซักเรื่อง เเค่นี้เราก็ได้เติมพลังเเล้วครับ
บทส่งท้ายจากผมเอง 🍁✨
.
ที่ผมเลือกประเด็นนี้มาทำ ก็เพราะว่า ผมเจออะไรที่ดาเมจจิตใจมากๆ ทั้งๆที่เราพยายามได้มากกว่านี้เเท้ๆ เเต่เราก็พยายามไม่เต็มที่ ผลลัพธ์ที่ได้มันเเอบผิดหวัง ความรู้สึกเฟลๆ มันเลยกัดกิน ไม่ว่าจะวัยไหน อายุมากน้อย ทุกคนก็สามารถเครียด กดดันได้ ทุกความรู้สึกมันขึ้นอยู่กับตัวเราเองทั้งนั้น ถึงจะไม่มีคนเข้าใจเรา เเต่เราก็เลือกที่จะเข้าใจตัวเองได้นะครับ ขอบคุณตัวเองที่เราเป็นเเบบนี้มันก็โอเคมากๆ เเล้วครับ
การตัดสินใจมันย่อมทำได้ครั้งเดียว ถึงเเม้เราจะเลือกหรือไม่ได้เลือกก็ตาม การตัดสินใจก็เป็นเพียงหน้าปกหนังสือ เราจะตีค่าหรือกำหนดราคาหนังสือเล่มนั้นๆไม่ได้ สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือเนื้อหาในเล่มต่างหาก เส้นทางที่เราจะเลือกเดินในปัจจุบันมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการวางเเผนหรือการตัดสินใจจุดที่มีเหมือนกันซึ่งสำคัญนั่นก็คือ ความยืดหยุ่น ปรับตัวให้ได้เพียงเท่านี้ทุกอย่างจะดูง่ายขึ้นครับ
Paul voie
🔸 ฝากกดติดตาม กดไลค์ถ้าเห็นว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ เเล้วก็..ช่วยส่งบทความนี้ไปให้คนที่เรารักนะครับ 🌸🌼
🔸 สามารถแสดงความคิดเห็นในช่อง comment ได้นะครับ 😊

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา