15 มี.ค. 2022 เวลา 01:36 • หนังสือ
หนังสือขึ้นหิ้ง ปี 2022 เล่มที่ 1
ร้านเครื่องเขียนนั้นใต้ต้นสึบากิ
นิยายอบอุ่นหัวใจ..ที่ถูกโหวตโดยร้านหนังสือทั่วประเทศญี่ปุ่น
โอกาวะ อิโตะ เขียน
ฉัตรขวัญ อดิศัย แปล
สำนักพิมพ์ น้ำพุ
บางคน..มีทักษะในการพูด
ก็เลยสามารถสื่อสารต่อหน้าได้อย่างดี มีชั้นเชิง
บางคน..มีทักษะในการเขียน
ก็เลยสื่อสิ่งที่คิดจะพูด แทนด้วยตัวอักษร และปลายปากกา ปลายนิ้วเคาะจรดแป้นพิมพ์
หลายคนมีครบทั้งทักษะการพูด และ เขียน ส่งเสริมให้ชีวิตราบรื่น ก้าวหน้า ความสัมพันธ์รุ่งเรือง ยืนยาว
หลายคนขาดทักษะการพูด ทว่างานเขียนเป็นเลิศ ก็ใช้ปลายปากกาแทนใจ สร้างมิตรภาพผ่านหน้ากระดาษ หรือหน้าจอมือถือ
ยังมีอีกหลายคน อาจมีทักษะการพูดอยู่บ้าง แต่หากต้องเขียนจดหมาย สร้างความสัมพันธ์ คงมิตรภาพให้ยืนยาว สร้างเกราะกำบังความขัดแย้ง ผ่านตัวอักษร คนเหล่านั้นกลับต้องการตัวแทน...ที่จะช่วยพวกเขาคิด ช่วยพวกเขาเขียน ผ่านโจทย์ในรูปแบบจดหมายที่จะส่งไปยังปลายทาง
หากมีใคร ผู้สามารถสื่อแทนใจ ใช้ภาษารื่นรมย์ ละมุนละม่อม ตรงกาลเทศะ ไม่ว่าจะเป็น
จดหมายถึง ‘คนรักเก่า’
จดหมาย ‘ตัดเยื่อใย’ หรือแม้กระทั่งจดหมายแฟนตาซีในจินตนาการเพื่อตอบสนองความต้องการผู้รับ ‘จากสวรรค์’
คนผู้นั้น คงมีความสำคัญ มีคุณค่า และเป็นที่ต้องการของผู้บกพร่องความสามารถด้านการเขียนจดหมายเพื่อให้เป็นไปตามจุดประสงค์อันแตกต่าง เป็นความสำคัญที่หาค่าไม่ได้
หรือ อาจจะตีค่าเป็น ‘เงินตรา’
 
เป็นการเลี้ยงชีพ..ด้วย ‘วิชาเขียนจดหมาย’ เฉกเช่น ‘ป๊บโปะจัง’ ตัวเอกของนิยายแปลญี่ปุ่นเล่มนี้อย่างปราศจากข้อกังขา
ในความอบอุ่น โทน feel good คล้าย ‘ร้านชำคุณนามิยะฯ’ Version โลกแห่งความเป็นจริง ไม่มีแฟนตาซีเข้มข้น ก็มีความหน่วงหนักทึบเทาซ่อนอยู่
นิยายเล่มนี้ ยังสะท้อนให้เห็นว่าความสามารถเลี้ยงชีพผ่านการเขียนจดหมายของตัวเอก เป็นเหรียญสองด้าน ดาบสองคม
ในด้านดีที่เป็นประโยชน์ อาจทำให้สร้างมิตรภาพ ผูกพันเพื่อนทางจดหมาย ที่ไม่ค่อยได้พบเจอกันในชีวิตจริง
ด้วยความไม่เจอกันซึ่งหน้า ไม่สนิทแนบถึงชีวิตประจำวัน สามารถเพิ่มพูนความกล้าที่จะเปิดเผยเรื่องราว ความรู้สึกนึกคิด หลากสิ่งอัดอั้นตันใจ ระบายอารมณ์ที่เก็บกับ เป็นผู้ฟังที่ดีของกันและกัน เพราะไม่ต้องเผชิญหน้า ก้าวผ่านเส้นกั้นบอบบางของเลือดเนื้อเชื้อไข ญาติพี่น้อง แม่ลูก หรือยายหลาน น้ำอาจข้นกว่าเลือด
เมื่อสามารถเปิดเผยทุกมุมมอง ความรู้สึกนึกคิด ตัวตนแท้จริงของกันและกัน ให้แก่คนที่ไม่ได้เจอหน้า ไม่ได้ใช้ชีวิตจริงร่วมกัน
อาจทำให้คนต่างเพศ ต่างวัย ที่แม้ได้เจอกันในชีวิตจริงเป็นครั้งคราว แต่สื่อสารกันผ่านจดหมายและตัวอักษรเป็นหลัก รู้สึกผูกผันแน่นแฟ้น ยิ่งรู้จัก(ผ่านจดหมาย) ยิ่งอยากเอื้ออาทรต่อการ เพราะไม่ต้องผจญด้านดีเลว สุขทุกข์ร่วมกัน ทุกวินาทีแห่งชีวิต
อาจช่วยให้ผู้รับปลายทาง ที่ได้อ่านจดหมายรู้สึกดีต่อผู้ส่ง แม้จะเคยเกลียดกัน มีเรื่องติดค้างกันหลายสิบปีที่อยากบอกแต่บอกไม่ได้ หรือการตัดเยื่อใยที่เด็ดขาดแต่ละมุนละม่อมผ่านตัวอักษรแทนคำพูด
ไม่ว่าจะเป็นคุณลุงที่มาขอให้ป๊บโปะจังเขียนจดหมายปฏิเสธการขอยืมเงิน ที่ยกหนี้บุญคุณมาอ้าง
หนุ่มที่อยากเติมเต็มสิ่งค้างคาในช่องว่างระหว่างคนรักเก่า ซึ่งต่างก็มีปัจจุบันไปคนละทาง มีชีวิตคู่ของตัวเอง ทั้งที่เมื่อก่อนอาจเคยรักกัน แต่ขาดทักษะด้านการแสดงออกต่อหน้ากันและกัน ทำให้พลาดช่วงเวลาที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเช่นคนรัก แต่ก็ไม่อยากให้คู่ปัจจุบันของตัวเองต้องมัวหมอง รู้สึกผิดศีลธรรม เพียงแค่ต้องการไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบผ่านจดหมาย และบอกให้เจ้าตัวรู้..ว่าเขาก็เคยรับรู้ ความสัมพันธ์ในสายลมที่มีอยู่จริงในอดีต ซึ่ง ป๊บโปะจัง ก็เป็นตัวแทนแห่งช่องว่างความกระอักกระอ่วนนี้ได้ดีทีเดียว
การตัดเยื่อใย ในสัมพันธ์ต้องห้าม ที่บางคนไม่สามารถสื่อผ่านคำพูดต่อหน้า แสดงท่าทีให้เด็ดขาดเมื่อเผชิญความจริง ป๊บโปะจังก็ใช้พลังให้ตัวอักษร ช่วยคนเหล่านั้น ให้ขาดออกจากกันไปตลอดกัน ชนิดตัดบัวไม่เหลือใย แต่ก็ปราศจากความแค้นเคืองต่อกันไปตลอดกาล
การเติมเต็มความฝันสุดท้าย ของหญิงความจำเสื่อมคนหนึ่ง ที่เคยได้รับจดหมายจากคนรักเมื่อต้องอยู่ไกลกัน ตลอดชีวิตช่วงที่ความทรงจำยังดี โดยไม่รู้ว่าคนรักของตนได้ตายไปในที่สุด ป๊บโปะจัง ก็เติมเต็มจินตนาการด้วยจดหมายจากสวรรค์ ของคนบนฟ้า ที่ฝากความคิดถึงผ่านตัวอักษร จนกระทั่ง หญิงคนนั้นได้นอนตายตาหลับสมความตั้งใจของลูกในที่สุด
มาดูในด้านร้าย ที่เกิดจากการ มุ่งมั่นผ่านตัวอักษร อาจทำให้ละเลยในการเผชิญโลกแห่งความเป็นจริง การพูดต่อหน้ากันและกัน ทำให้ป๊บโปะจัง เรียกยายแท้ๆ ว่า ‘รุ่นก่อน’ เกือบตลอดทั้งเรื่อง ยายที่มีความลับเกี่ยวกับกิจการ ‘ร้านเครื่องเขียนสึบากิ’ การสื่อสารแบบอ้อมค้อมเมื่ออยู่กับหลาน ทั้งที่อาจมีความปรารถนาดีอย่างเต็มเปี่ยม อยากให้หลานมีวิชาชีพเลี้ยงตัว เมื่อต้องเผชิญโลกนี้เพียงลำพัง จึงสร้างเรื่องราวบางอย่าง ให้หลานจดจำฝังใจ เพื่อเป็นทายาทสืบต่อกิจการเขียนจดหมาย เขียนสิ่งต่างๆ ในรูปแบบ รับจ้างเขียนสารพัดอย่าง
เกิดความขัดแย้งระหว่าง คนรุ่นเก่า และคนรุ่นใหม่
ยุค Babyboom กับ Gen Y
ตัวเอกที่ต้องการอิสระในโลกเสรี และไขว่คว้าชีวิตวัยเด็กที่ไม่ได้เที่ยวเล่นอย่างที่อยากทำเหมือนเพื่อนวัยเดียวกัน ไม่ได้กินอย่างที่อยากกิน ไม่ได้คิดอย่างที่อยากขึ้น เพราะต้องมัวแต่ฝึกฝนคัดลายมือ สืบทอดงานเขียนตั้งแต่อายุขวบกว่า
การขบถในท่าที และการทำตัวนอกกรอบ เพื่อต่อต้าน คนรุ่นเก่า เมื่อขีดความอดทนถึงคำว่าสิ้นสุด ป๊บโปะจัง ขาดมิตรภาพในวัยรุ่นที่ญี่ปุ่น และต้องบินเร่ร่อนไปใช้ชีวิตผู้ใหญ่อยู่หลายปีในซีกโลกตะวันตก เพราะอยากหาตัวตน อยากมีอิสระ
สุดท้ายก็ต้องกลับมาถิ่นกำเนิด ที่เมืองคามาคุระ เมืองแห่งภูเขาและทะเล เมืองที่มีคุณค่าในตัวเอง บอกเล่าเรื่องราวแหล่งท่องเที่ยว ถ่ายทอดวัฒนธรรม โดยเฉพาะอาหารการกิน ผ่านสี่ฤดูกาล ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิ ป๊บโปะจังต้องกลับมาสานต่อกิจการ ‘รุ่นก่อน’ ในวัยยี่สิบปลาย เมื่อยายในสายเลือดได้ตายจากไป
และเธอก็เพิ่งมาค้นพบคุณค่าในตัวเอง ผ่านงานเขียนจดหมาย เพื่อทำให้ชีวิต ความสัมพันธ์ของผู้อื่นราบรื่น นอกเหนือจากการเลี้ยงชีพเดียวที่เธอจะไปได้รอด ทั้งยังมีมิตรภาพจากเพื่อนบ้านที่อยู่รายล้อม เมื่อเธอได้สื่อสารด้วยการเผชิญหน้ากับคนใกล้ตัวผ่านชีวิตประจำวันเรียบง่าย มิตรภาพนั้นก็ยิ่งถักทอและสวยงามไม่มีที่สิ้นสุด
ยายของเธอนั้น เมื่อมีชีวิต ก็แทบไม่เคยสื่อความต้องการ ความรู้สึกนึกคิด แม้กระทั่งความรักสุดหัวใจ กับหลานเพียงคนเดียว ที่แม่แท้ๆ ทิ้งไปตั้งแต่เล็ก (แม่ที่เคยเป็นลูกของคุณยายเอง ก็มีความขัดแย้งอย่างรุนแรงต่อคุณยาย ด้วยการสื่อสารที่ไม่เปิดเผยของคุณยาย)
ในขณะที่มีชีวิต คุณยายก็ได้มีเพื่อนทางจดหมายกับคนแดนไกล และป๊บโปะจังก็เพิ่งมาค้นพบที่หลังว่า จดหมายหลายฉบับ กับเพื่อนต่างวัยและต่างแดนคนนั้น มักมีเรื่องราวของเธอ ความเป็นห่วง ความรักล้นเอ่อเต็มหน้ากระดาษ โดยเฉพาะช่วงที่เธอเป็นนกที่บินหนีไปจากรังของยาย ไปใช้ชีวิตคนเดียวที่ต่างประเทศ ก่อนจะกลับมาตายรังในบั้นปลาย เธอเพิ่งมาค้นพบว่า ยาย ที่เธอเรียกว่า ‘คนรุ่นก่อน’ ตลอดมานั้น มีความลับอะไรปกปิดเธอบ้าง และเป็นห่วงเธอมากกว่าที่เคยคิดไว้
ความอบอุ่น ที่ไล่เรียงความหน่วงให้เข้มข้นขึ้นเมื่อใกล้ถึงหน้าสุดท้ายของนิยายเล่มนี้ ทำให้ฉันเห็นเหรียญสองด้านของทักษะการเขียน ที่ขาดความกล้าในการพูดคุยซึ่งหน้า มันเป็นความอบอุ่นเมื่อได้อ่าน แต่ก็แฝงข้อคิดที่กัดกินหัวใจไม่ใช่เล่นในโลกแห่งความเป็นจริง
จึงยกให้เป็นหนังสือขึ้นหิ้งเล่มแรก ประจำปี 2022 มา ณ ที่นี้
โปรยปกหลัง..
ที่นี่รับจ้างเขียนข้อความทุกประเภท
จดหมายตัดเยื่อใย จดหมายถึงคนรักเก่า
หรือ “จดหมายจากสวรรค์”
ไม่ว่าเนื้อหาจะซับซ้อนหรือประหลาดเพียงใด
ร้านเครื่องเขียนแห่งนี้ก็พูดแทนใจผู้คนเสมอ
ทว่าภายใต้ข้อความที่กินใจเหล่านั้น
ส่วนลึกในใจของ อาเมมิยะ ฮาโตโกะ กลับว่างเปล่า
หลังคุณยายจากไปเมื่อสามปีก่อน
เธอก็ตัดสินใจทิ้งร้านและย้ายไปอยู่เมืองอื่น
การได้กลับมาที่นี่...ได้พบเจอผู้คนจากอดีตอีกครั้ง
ทำให้เธอพบ “คำ” ที่เติมเต็มช่องว่างในใจได้ในที่สุด
ณ ร้านเครื่องเขียนเล็กๆ เชิงเขาในเมืองคามาคุระ...
ร้านเครื่องเขียนนั้นใต้ต้นสึบากิ
ร้านเครื่องเขียนนั้นใต้ต้นสึบากิ
#ร้านเครื่องเขียนนั้นใต้ต้นสึบากิ #น้ำพุสำนักพิมพ์ #โอกาวะอิโตะ #รีวิวหนังสือ #นิยายแปลญี่ปุ่น
โฆษณา