16 มี.ค. 2022 เวลา 07:32
บทวิเคราะห์ : กลยุทธ์ของ"ยูเครน"ในการรับมือ"รัสเซีย"
ก่อนหน้าปฎิบัติการแทรกแซงทางทหารในยูเครนมีการคาดการณ์ว่า ยูเครนคงไม่สามารถรับมือรัสเซียได้ แต่ผ่านไป 20 วัน รัสเซียยังทำไม่สำเร็จ เพราะอะไร จะเล่าให้ฟังค่ะ
1
ล่าสุด!! เหตุที่กองทัพยูเครนสามารถรับมือสกัดกั้นกองทัพรัสเซีย ให้อยู่ห่างกรุงเคียฟได้ เป็นเพราะยูเครนใช้ยุทธวิธีแบบ "สงครามกองโจร" นั่นเอง
1
อย่างน้อย หากนับจนถึงนาทีที่เขียนบทความ
แม้ว่ากองทัพรัสเซียโจมตีเคียฟอย่างหนัก แต่นั่นก็เป็นเพียงการระดมยิงด้วยปืนใหญ่ ด้วยขีปนาวุธ ด้วยศักยภาพของกำลังรบทางอากาศที่เหนือกว่า
แต่ด้านภาคพื้นดิน ยังปรากฎว่า
กองทัพยูเครนยังสามารถต้านทานการรุกคืบของรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3
ตรงนี้ขอปรบมือให้ค่ะ
สาเหตุสำคัญที่ทำให้กองทัพยูเครนสามารถสกัดกั้นกองทหารรัสเซียนอกเมืองเคียฟได้ ก็เพราะการใช้ประโยชน์จากความชำนาญด้านภูมิประเทศและใช้ประโยชน์จากความผิดพลาดของศัตรู
2
ทหารยูเครนนั่งอยู่บนยานเกราะบนถนนในเขตโดเนตสค์ ทางตะวันออกของยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2022 📷 AP
ย้อนกลับไปเมื่อหลายวันก่อน
เมื่อครั้งที่กองกำลังรัสเซีย สามารถเข้าควบคุมสนามบินทหารในฮอสโตเมล ใกล้เมืองเออร์พิน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตชานเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของเคียฟ ตั้งแต่วันแรกๆของการสู้รบ
ผู้สังเกตการณ์ทางทหารหลายคน วิเคราะห์กันว่า
"กองทัพรัสเซียสามารถเข้าสู่"เคียฟ"
เมืองหลวงของยูเครนได้ภายในไม่กี่วัน
2
เรียกว่าปฎิบัติการทางทหารของรัสเซียคงสำเร็จแบบม้วนเดียวจบ ไม่ต้องฉายหนังตัวอย่างกันนาน ว่างั้น!!
แต่เอาเข้าจริง หนึ่งวัน สามวัน ห้าวัน สัปดาห์ สองสัปดาห์ก็แล้ว แม้ว่ารัสเซียจะมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าก็ตาม
แต่แนวรับของยูเครนในเออร์พินก็ยังคงเหนียวแน่นจนสามารถยันกองทัพรัสเซีย
แม่ทัพนายกองชาวยูเครน ถึงกับออกมาคุยโวว่า "รัสเซียพยายามโจมตีเรา
แต่พวกเขาไม่คิดว่า..ชาวยูเครนรอเขาอยู่"
3
เอาที่สบายใจค่ะ ยูเครน
5
ทหารยูเครนหลายคนกล่าวว่า..
พวกเขาใช้ประโยชน์จากข้อบกพร่องของ
กองทัพรัสเซีย เช่น การใช้กลยุทธ์ที่คาดเดาได้ หรือการขาดความเข้าใจในภูมิประเทศ
1
ข้อมูลที่ปรากฏบนโซเชียลเน็ตเวิร์กและการแพร่กระจายในสนามรบแสดงให้เห็นว่า
ทหารรัสเซียจำนวนมากถึงกับขาดแคลนอาหาร น้ำ และเชื้อเพลิง จนทหารบางส่วนยอมมอบตัวหลังจากหลงทางหรือตกใจ
รวมถึงขบวนรถทหารรัสเซียจำนวนหนึ่งต้องชะลอหรือหยุดเนื่องจากเจออุปสรรคหรือสิ่งกีดขวางที่ทางยูเครนจัดไว้รอต้อนรับ
3
แต่เหตุผลที่นอกเหนือจากความชำนาญในภูมิประเทศ และจิตวิญญาณนักรบที่เข็มแข็ง
และเพื่อปกป้องมาตุภูมิแล้วนั้น
1
ส่วนประกอบอื่นๆที่สำคัญก็คือ "อาวุธ"
ซึ่งจะว่าไปแล้ว เป็นสิ่งที่นักรบขาดไม่ได้
ตรงนี้นักรบยูเครนค่อนข้างสบายใจได้ว่าสหรัฐอเมริกาและอีก 20 ประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกNATO และสหภาพยุโรป (EU)
ได้ให้คำมั่นที่จะขนส่งอาวุธสำคัญๆ ให้กับกองกำลังยูเครน มีตั้งแต่ขีปนาวุธต่อต้านรถถัง มี Javelin, มี Stinger มีขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานปืนกล และปืนไรเฟิล แถมใจดีส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปฝึกฝนให้อีกต่างหาก
3
ยังไม่ชัดเจนว่าอาวุธเพิ่มเติมเหล่านี้ส่งถึงกองกำลังยูเครนในเคียฟไปมากน้อยเท่าไหร่แล้ว
ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ กล่าวว่า
กองทัพรัสเซียไม่พร้อม
สำหรับความขัดแย้ง ที่ไม่ใช่แบบดั่งเดิม
พวกเขาไม่พร้อมสำหรับยุทธวิธีใหม่
ไม่แน่ใจว่าจะรับมือกับสถานการณ์
การต่อต้านอย่างไร
ในเมื่อยูเครนใช้การต่อสู้ในรูปแบบกองโจร"
3
แต่นักวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่กองทัพตะวันตกส่วนใหญ่ยังคงให้เครดิตรัสเซียว่า
"ในที่สุดกองทหารรัสเซียจะล้อมเมืองเคียฟและบุกเข้าไปในเมืองหลวงของยูเครน
โดยใช้ความช่วยเหลือจากการโจมตีทางอากาศ"
2
สำหรับกองกำลังของยูเครน
การชะลอการรุกคืบของทหารรัสเซียนอกกรุงเคียฟ จะทำให้ยูเครนมีเวลามากขึ้น
สำหรับลดความเสียเปรียบในการเจรจา
ซึ่งสิ่งนี้จำเป็นต้องทำควบคู่กันไปทั้งในสนามรบและบนโต๊ะเจรจา
1
ทหารยูเครนทำลายสะพานที่ Irpin เพื่อต้านการบุกรุกของรัสเซีย 📷 เอพี
อีกยุทธศาสตร์ของกองกำลังยูเครนทั่วประเทศ คือ การถอยรับไปตั้งหลักในเมืองต่างๆ
โดยปฏิเสธที่จะสู้รบแบบท้าชนกับกองกำลังรัสเซียในชนบทหรือพื้นที่เปิดโล่ง
1
ดังนั้นแม้ว่ารัสเซียจะเข้าควบคุมเมืองทางใต้
เช่น Kherson และ Melitopol ได้
แต่รัสเซียก็ยังเจอปัญหาในการเข้าสู่เมือง ต่างๆ เช่น Mariupol ที่อยู่ใกล้เคียงหรือเมืองศูนย์กลางที่สำคัญอื่นๆ เช่น Kharkov, Chernihiv หรือ Sumy
1
ตัวอย่างเช่น
ในเมือง Mykolaiv ทางตอนใต้ของประเทศยูเครน ซึ่งรัสเซียต้องใช้เวลานานกว่าหนึ่งสัปดาห์กว่าจะบรรลุวัตถุประสงค์
1
เนื่องจากกองกำลังของยูเครนขัดขวางการรุก
ของรัสเซียไปทางทิศตะวันตกเพื่อเข้าควบคุมท่าเรือยุทธศาสตร์ของโอเดสซา
1
ในเคียฟ ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของหน่วยงานรัฐบาลยูเครน การต่อสู้มีความรุนแรง จนถึงปัจจุบัน
1
แต่กองกำลังป้องกันของยูเครนได้ป้องกันกองทหารรัสเซียจากการล้อมและควบคุมเมืองหลวง ได้ค่อนข้างดี
3
มีการยิงเฮลิคอปเตอร์ของรัสเซียตกหลายลำและหยุดกองกำลังหุ้มเกราะหลักของรัสเซียไม่ให้เข้าเมือง
1
ในขณะเดียวกัน ระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ได้รับการเสริมกำลังจากนาโต ได้ถูกนำมาใช้เพื่อตอบโต้การโจมตีทางอากาศและการโจมตีด้วยขีปนาวุธ
1
“ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือ
รัสเซียไม่ได้จัดปฏิบัติการทางทหารอย่างเหมาะสม พวกเขาเชื่อว่าสามารถขับรถเข้าเมืองหลวงโดยไม่มีการต่อต้านมากนัก
สิ่งนี้นำไปสู่ความล้มเหลวมากมาย"
- ผู้เชี่ยวชาญกล่าว
2
อีกตัวอย่าง
จากเมืองเออร์พิน อีกฟากหนึ่งของเคียฟ
กองกำลังรัสเซียกำลังพยายามเข้าเมืองหลวงของยูเครนจากทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ขบวนรถถังรัสเซียได้เคลื่อนตัวไปตามทางหลวงสายหลักไปยังเมืองโบรวารี
ซึ่งเมื่อพวกเขาผ่านบ้านเรือน กองกำลังยูเครนก็มองเห็นโอกาสนี้
1
กองทัพรัสเซียเลยถูกจัดชุดใหญ่ ทหารยูเครนโจมตีขบวนรถด้วยกระสุนปืนใหญ่และขีปนาวุธต่อต้านรถถัง ทำลายหรือหยุดการใช้งานรถถังและยานเกราะหลายคัน
1
ทหารรัสเซียต้องทิ้งรถและวิ่งเข้าไปในป่า ตามวิดีโอที่โพสต์โดยกองทัพยูเครน
แต่วิดีโอนี้ไม่สามารถตรวจสอบได้โดยอิสระ
1
นักวิเคราะห์ทางทหารกล่าวว่า
"การซุ่มโจมตีแสดงให้เห็นว่ารัสเซียใช้ยุทธวิธีที่ไม่มีประสิทธิภาพและบางครั้งก็อธิบายไม่ถูก"
2
การที่รถถังและยานพาหนะทางทหารอื่นๆ เคลื่อนตัวช้าๆ บนทางหลวงสายหลัก
ทำให้เป็นเป้าหมายได้ง่าย
เมื่อมีการรวมกลุ่มเข้าด้วยกัน ทำให้เป็นไปได้สำหรับการโจมตีครั้งเดียว ก็เพียงพอที่จะหยุดยานเกราะหลายคันในคราวเดียว
6
และรวมถึงการที่ทหารราบไม่ได้เคลื่อนที่ขนานกันในป่าหรือตามขบวนรถเพื่อตรวจหาการซุ่มโจมตี
1
อีกหนึ่งยุทธศาสตร์ที่ทหารยูเครนนำมาใช้คือ
การชะลอการรุกของรัสเซีย โดยการทำลายโครงสร้างพื้นฐานซะเอง เช่น สะพานเชื่อม Irpin กับเมืองหลวงถูกทำลายโดยกองทัพยูเครนเพื่อป้องกันไม่ให้ยานเกราะรัสเซียข้าม
1
และตรงนี้ นอกจากทำลายสะพานแล้ว
ถนนที่ไปยังกรุงเคียฟ จะถูกบล็อกทุกๆ 100 เมตร โดยใช้บล็อกคอนกรีตขนาดใหญ่ ยางรถยนต์ หรือกระสอบทราย หรือวัสดุขนาดใหญ่เท่าที่พอหาได้
3
สิ่งกีดขวางบนถนนซึ่งตั้งโดยกองทัพยูเครนที่ถนนที่มุ่งสู่ใจกลาง Kyiv เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 📷 เอมิลิโอ โมเรเน็ตติ/AP
แถมในพื้นที่ที่สูงกว่า กลุ่มอาสาสมัครชาวยูเครนจะติดอาวุธ ขุดสนามเพลาะบนเนินเขาที่มีตำแหน่งเหมาะสมเพื่อโจมตีกองกำลังรัสเซียหรือใช้เป็นจุดซุ่มโจมตีทหารรัสเซีย
1
ทหารยูเครนบางส่วนยังใช้ชุดพรางตัวซ่อนอยู่หลังต้นไม้ หรือซ่อนตัวอยู่ในอาคาร และเฝ้าสังเกตถนนตลอดเวลา ที่กองกำลังรัสเซียต้องใช้เพื่อผ่านเข้าสู่เมืองเคียฟ
3
และประเด็นที่สำคัญคือ
กองทัพยูเครนเลือกที่จะไม่ตอบโต้ในบางสถานการณ์
ยกตัวอย่างเช่น การที่กองกำลังรัสเซียเร่งโจมตี รถถังเมื่อวันที่ 11 มีนาคม โดยยิงกระสุน 20-25 นัดทำลายบ้านเรือน ที่อยู่ใกล้ฐานทัพยูเครน
แต่ทหารยูเครนไม่ยิงตอบโต้กลับไป
2
ซึ่งตรงนี้ถือเป็นกลวิธีอันชาญฉลาด
เรื่องจากกองทัพยูเครนรู้ดีว่าไม่สามารถแข่งขันเรื่องอาวุธกับรัสเซียได้ และจำเป็นต้องประหยัดทรัพยากรทางอาวุธไว้ มากกว่าที่จะเสียไปในการตอบโต้
2
และเหนืออื่นใดนอกจากที่กล่าวมาทั้งหมด
คือ.. ยูเครนมีเป้าหมายเดียวที่ชัดเจน
คือ "การปกป้องตำแหน่ง ไม่ใช่เพื่อโต้กลับ"
 
และความชัดเจนด้านยุทธวิธีตรงนี้เอง
ทำให้กองทัพยูเครนสามารถรับมือการรุกของรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1
แต่หากถามว่า
จะรับมือการรุกของรัสเซียได้นานแค่ไหน?
เพราะกองทัพรัสเซียก็มีแม่ทัพนายกองมากฝีมือ
ที่สามารถปรับเปลี่ยนยุทธวิธีได้เช่นกัน
ตรงนี้..คงตอบไม่ได้ค่ะ
1
References
ข้อมูล BBC/ CNN /Tass /Pravda /Al Jazeera
1
เรียบเรียงโดย
สาระอัปเดต
16 มีนาคม 2565
โฆษณา