21 มี.ค. 2022 เวลา 05:58 • ปรัชญา
เรื่องราวที่เราทุกข์กันมันก็ล้วนเป็นเรื่องราวของอารมณ์ความรู้สึกนึกคิด อารมณ์พาจิตนำกายไปเจอะเจอ คนนั้นคนนี้ เพื่อนคนนั้นคนนี้ คบหาสมาคมกัน ก็มีการกระทบกระทั่งกัน มีอารมณ์พอใจ ไม่ชอบใจ ถกเถียงเรื่องคนนั้นคนนี้ เรื่องนั้นเรื่องนี้ อารมณ์ที่ให้ทิฐิความคิดไม่เหมือนกัน ก็เกิดมีความขัดแย้ง ขัดข้องหมองใจกัน มันเกิดเป็นอารมณ์ปฏิเสธ ฉันเบื่อแกแล้วน่ะ ไม่อยากพูด อยากคุยด้วย เจอะเจอกันยังไม่ทันได้เจอเลย ก็เริ่มใจคอไม่สบาย หงุดหงิด ฟุ้งซ่าน กับอารมณ์เก่าที่ที่ค้างคาใจ มันฟุ้งซ่านขึ้นมา พออารมณ์พวกนี้มันเกิดบ่อยๆ สะสมมีกำลังมากขึ้น อารมณ์นางมารร้ายมันก็เข้ามายุยงส่งเสริม คิดเรื่องราวร้าย มันก็เป็นอารมณ์ความคิดร้ายที่เกิดขึ้นในตัวตนของเรา
เราก็ได้ดูละครไทย นางมารร้าย มันเป็นอย่างไร มันจะมีกิริยาอย่างไร อิจฉาตาร้อน พูดจาเชือดเฉือน เค้าก็แสดงเป็นแบบอย่างให้เราดู เราก็มาเปรียบเทียบกับตัวเราเอง เราจะเป็นเหมือนนางมารร้าย ที่มีแต่เรื่องร้ายในตัวตน เมื่อเรารู้ว่าอารมณ์ความขึ้นแบบนร้มันเกิดขึ้น เราก็ฝืนอารมณ์ ไปทำเรื่องราวดีให้แก่จิตของเรา ที่อาศัยเรือนกายที่พ่อแม่ให้มา นำไปทำบุญ สวดมนต์ไว้พระ (ส่วนมากคนที่ไม่ เคยทำพอพูดเรื่องสวดมนต์ไหว้พระ ก็ง่วงเหงาหาวนอน) และเราก็ทำบุญทำทานของเราไป ให้กับคนที่เค้ามาคล้องกรรมกับเรา ให้เค้ามีความสุข สุขกายสุขใจ จิตจิตเรามันก็จะได้ระบายเรื่องราวที่ไม่ดีนั้นออกไป มันเป็นอารมณ์ที่เป็นกรรม
โฆษณา