22 มี.ค. 2022 เวลา 10:09 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
"บอลลูน" ต้นกำเนิดและหลักการ
มนุษย์มีความฝันที่อยากขึ้นไปบินบนท้องฟ้าเหมือนสัตว์ปีกมานานแสนนาน มีการประดิษฐ์สิ่งประดิษฐ์มากมายที่จะช่วยเติมเต็มฝันเหล่านั้นซึ่งมีทั้งสำเร็จและล้มเหลว หนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ที่ถูกสร้างมานานและเรายังสามารถเห็นได้นั่นคือ "บอลลูน"
โดยต้นกำเนิดบอลลูนนั้นมีจุดประกายเริ่มมาจากพี่น้องชาวฝรั่งเศสตระกูลมองต์โกลฟิเยร์ สังเกตุเห็นว่าควันไฟที่ร้อนมักจะลอยตัวสูงขึ้น จนกระทั่งในปี พ.ศ.2325 พวกเขาได้นำกระดาษมาประดิษฐ์เป็นถุงใส่ควันเข้า และเมื่อปล่อยไปปรากฏว่าถุงกระดาษนั้นสามารถลอยขึ้นบนอากาศได้ ต่อมาในปี พ.ศ.2326 พวกเขาได้ประสบความสำเร็จในการสร้างบอลลูนขนาด 2230 ลูกบาศก์เมตร โดยวัสดุจากตัวบอลลูนทำมาจากผ้าลินินตัดต่อกันเป็นวงกลมด้วยกระดุม ซึ่งบอลลูนนั้นสามารถลอยได้ถึง 2,000 เมตร และลอยไปไกลประมาณ 2,000 เมตรเช่นกันก่อนจะตกลงสู่พื้นดิน ซึ่งในปีเดียวกันนั้นพวกเขาได้ทดลองอีกครั้งโดยนำเป็ดไก่และแกะอย่างละตัวไปด้วยโดยครั้งนั้นพวกเขาได้แสดงต่อหน้าพระที่นั่งพระเจ้าหลุยส์ ที่พระราชวังแวร์ซายส์ ซึ่งบอลลูนนั้นลอยได้ประมาณ 8 นาที ก่อนจะตกลงมาโดยสัตว์ทุกตัวปลอดภัย จากนั้นหนึ่งเดือนให้หลังเกิดการทดลองอีกครั้งโดยครั้งนี้มีมนุษย์สองคนขึ้นไปด้วย
ในเวลาต่อมาชาวฝรั่งเศสนามว่า M. Charles ได้แก้ไขปัญหาหนึ่งอย่างของบอลลูนของสองพี่น้องตระกูลมองต์โกลฟิเยร์ นั่นคือบอลลูนที่ทั้งสองประดิษฐ์นั้นวัสดุทำมาจากผ้าลินินและกระดาษซึ่งความร้อนที่ทำให้บอลลูนลอยตัวได้นั้นสามารถไหลซึมออกทางผิวของบอลลูนได้ตลอดเวลาจึงเป็นสาเหตุทำให้บอลลูนไม่สามารถลอยตัวได้นานนัก โดย M. Charles ได้ใช้ก๊าซไฮโดรเจนแทนความร้อนจากการเผาไหม้ ซึ่งผลที่ได้นั้นคือบอลลูนสามารถลอยได้นานและสูงกว่าเดิม เป็นเพราะก๊าซไฮโดรเจนนั้นมีความหนาแน่นน้อยกว่าอากาศทำให้แรงยกแรงลอยตัวมีมากกว่า หากพูดเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายขึ้นเปรียบเทียบก๊าซไฮโดรเจนกับอากาศเป็นน้ำกับน้ำมันได้ โดยที่น้ำมันจะลอยตัวอยู่บนน้ำเพราะน้ำมันมีความหนาแน่นต่ำกว่าน้ำและก๊าซไฮโดรเจนลอยตัวบนอากาศเพียงแค่เรามองไม่เห็นมันเท่านั้น ทว่าต่อมามีการใช้ก๊าซฮีเลียมแทนไฮโดรเจนเนื่องจากไฮโดรเจนนั้นเป็นก๊าซที่สามารถติดไฟและระเบิดได้ง่าย
น้ำและน้ำมัน
และในปัจจุบันมนุษย์ได้เปลี่ยนจากการใช้บอลลูนมาเป็นพาหนะอากาศยานอื่นแทน เนื่องจากบอลลูนนั้นมีการควบคุมทิศทางที่ยากส่วนมากมันจะลอยไปตามกระแสลมโดยปัจจุบันเราจะเห็นบอลลูนได้ที่สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งอย่างประเทศไทยสามารถพบได้ทางภาคเหนือ ซึ่งบอลลูนถูกมาใช้เป็นอากาศยานสำหรับชมบรรยากาศจากมุมสูงหรือใช้ประกวดแข่งขันความสวยงามอีกด้วย
แหล่งอ้างอิงข้อมูล
-สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนเล่มที่ 1
-เว็บไซต์ Britannica หัวข้อ Balloon
รูปภาพจาก Pixabay และ Wikimedia Commons
โฆษณา