กับประเด็นขัดแย้งทางศาสนานี้อยากฝากให้ทุกคนได้หันมาคิดกับเรื่องนึงที่ถูกบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลครับ
"หลังจากนั้นก็ถึงเทศกาลของพวกยิว และพระเยซูก็เสด็จขึ้นไปที่กรุงเยรูซาเล็ม ที่ริมประตูแกะในกรุงเยรูซาเล็มมีสระน้ำ ภาษาฮีบรูเรียกสระนั้นว่า เบธซาธา ที่นั่นมีศาลาห้าหลัง ในศาลาเหล่านั้นมีคนป่วยจำนวนมาก มีทั้งคนตาบอด คนง่อย และคนเป็นอัมพาตนอนอยู่ ที่นั่นมีชายคนหนึ่งป่วยมาสามสิบแปดปีแล้ว เมื่อพระเยซูทอดพระเนตรเห็นคนนั้นนอนอยู่ และทรงทราบว่าเขาป่วยอยู่อย่างนั้นนานแล้ว พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “ท่านอยากจะหายเป็นปกติหรือเปล่า?” คนป่วยคนนั้นทูลตอบพระองค์ว่า “ท่านเจ้าข้า เมื่อน้ำกำลังกระเพื่อมนั้น ไม่มีใครเอาตัวข้าพเจ้าลงไปในสระ แล้วพอจะลงไปเอง คนอื่นก็ลงไปก่อนแล้ว” พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ลุกขึ้นเถิด จงยกแคร่ของท่านเดินไป” ทันใดนั้นเขาก็หายเป็นปกติและยกแคร่ของเขาเดินไป แต่วันนั้นเป็นวันสะบาโต"
ยอห์น 5:1-3, 5-9 THSV11
สำเนานี้จะไม่มีข้อ4
เพราะมีทูตสวรรค์องค์หนึ่งของพระเจ้ามากวนน้ำเป็นครั้งคราว และเมื่อน้ำกระเพื่อมใครก้าวลงไปในน้ำก่อนก็จะหายจากโรคที่เป็นอยู่นั้น
พระคำกำลังอธิบายถึงการทำงานของมารซาตาน(ทูตสวรรค์ในข้อที่4)คือการหลอกให้ผู้คนมีความหวังกับทางอื่นที่นอกเหนือจากพระเยซูน่ะครับ เหมือนที่หลอกให้คนป่วยในที่นี้เชื่อว่าสระนี้รักษาโรคอะไรก็ได้ ถ้าสามารถก้าวลงไปได้เป็นคนแรกตอนที่น้ำกำลังกระเพื่อม มันเป็นแค่ข่าวลือ เป็นเรื่องโกหกที่มารซาตานสร้างขึ้น สุดท้ายไม่มีใครสักคนเดียวที่คอยรอบสระได้หายโรค ยกเว้นชายป่วย38ปี เพราะเขาออกมาจากตรงนั้นแล้ว เพราะหมดหวังแล้วกับวิธีนั้น ก็เลยได้เจอกับพระเยซูครับ
ความจริงพระเจ้าก็กำลังพยายามจะบอกกับมนุษย์ทุกคนทุกเชื้อชาติศาสนาอยู่นะครับว่ามารซาตานกำลังทำงานแบบนี้ครับ คือพยายามทำให้ผู้คนเชื่อว่าด้วยกำลังความสามารถของตัวเองนั้นสามารถที่จะช่วยให้บรรลุความต้องการได้ ถ้าพยายามอย่างจริงจัง แต่นี้คือการล่อลวงเป็นเรื่องโกหกของมารซาตานครับ เพราะความจริงแล้วชีวิตคนเราจะอยู่หรือตายจะร้ายหรือดีเรากำหนดเองไม่ได้ครับ เพราะตอนนี้มนุษย์คือคนที่ตายไปแล้วเพราะบาปที่อาดัมได้ทำตั้งแต่เริ่มปฐมกาลนู่นเลยครับ ตั้งแต่ตอนที่พระเจ้าสร้างมนุษย์สองคนแรกนู่นเลย อาดัมกับเอวา ผู้เริ่มต้นนำความบาปเข้ามาสู่โลก
ดังนั้นตั้งแต่วันที่เราได้เกิดขึ้นมาบนโลกนี้จะชาติศาสนาไหนก็แล้วแต่ ต่างล้วนเป็นคนที่ตายแล้ว คนตายก็คือคนที่ทำอะไรไม่ได้แล้วครับจะทำดีทำเลวอะไรไม่ได้ขึ้นกับตัวเองกำหนดแล้ว กับการที่เราเห็นว่าร่างเรากำลังทำสิ่งต่างๆอยู่ขณะนี้แท้จริงมาจากการทำงานของพระเจ้าหรือไม่ก็มารซาตานครับ
พระเยซูจึงบอกกับนิโคเดมัสว่าต้องบังเกิดใหม่จึงจะสามารถรอดจากมารซาตานผู้ซึ่งกำลังพาผู้คนไปนรกครับ บังเกิดใหม่ก็คือการได้มารับรู้ความจริงเหล่านี้ จึงสามารถหันกลับมาสู่พระเจ้ากลับเข้าแผ่นดินสวรรค์ได้แบบนี้ครับ เพราะพระคัมภีร์ไบเบิ้ลและคริสตจักรก็จะช่วยให้สามารถแยกแยะได้ครับระหว่างเสียงที่เข้ามาในความคิดว่าเสียงไหนจากพระเจ้า และเสียงไหนจากมารซาตาน
เรื่องจากพระธรรมยอห์น5 นี้พระเจ้าก็กำลังบอกให้มนุษย์เราทุกคนได้รู้ครับว่ามารซาตานกำลังหลอกคนแบบนี้ เพื่อไม่ให้หันมาหาพระเยซูผู้เป็นมาจากพระเจ้าเพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าถึงพระองค์ได้ พระคัมภีร์ไบเบิ้ลเปิดเผยความจริง เปิดเผยจิตใจของพระเจ้าผ่านเรื่องราวมากมายตั้งแต่เริ่มต้นวันสร้างจักรวาลนี้ขึ้นมา จนถึงวันอวสานของสิ่งที่เห็น และสำคัญที่สุดคือบอกถึงหนทางรอดที่พระเจ้าให้มาผ่านทางพระเยซูยังไง พระเจ้าทำงานผ่านพระเยซูแบบไหน
การเชื่อพระเจ้าจึงจำเป็นต้องผ่านพระเยซูเพราะเป็นวิถีทางที่พระเจ้าเลือก ไม่ใช่วิธีอื่นๆ สารพัดที่มารซาตานคอยให้ในความคิด ภาพของคนเหล่านั้นที่รอคอยรอบสระ พวกเขาก็เหมือนกับคนมากมายที่กำลังพยายามจะเอาตัวรอดด้วยวิถีทางอื่น ไม่ว่าจะด้วยความดีความสามารถใดๆ จะช่วยให้รอดออกจากการล่อลวงของมารซาตานไม่ได้ครับ เขากำลังพยายามพาผู้คนไปสู่นรก รีบหันกลับมาหาพระเยซูในขณะที่ยังมีโอกาส นี้คือทางเดียวเท่านั้นที่จะช่วยให้รอดได้ เราเลือกเกิดชาติศาสนาไหนไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกเกิดใหม่ครั้งที่สองได้ครับ เลือกกลับมาหาพระเยซู แล้วเราจะพาทั้งครอบครัวให้รอดได้ครับ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
