25 มี.ค. 2022 เวลา 05:23 • หนังสือ
#30 CWG. 4️⃣ — บทที่ 9 (ตอนที่ 1) : “เจตนา” คือต้นทางของทุกสิ่ง
ผู้แปล : คุณซิม จากเพจ Books for Life
ผู้เรียบเรียง : แอดมิน (ซึ่งผมอาจแก้ไข เพิ่มคำแปล และ เรียบเรียงประโยคใหม่บางส่วน)
Q : I’ll be the first to acknowledge that remembering all that I know, and all the messages I have received from all the wonderful sources of wisdom in my life, has not been my high card; not my most highly developed attribute. It is with me as my father used to say: “So old so soon, so smart so late.”★
นีล : ผมจะเป็นคนแรกที่ยอมรับว่า ผมไม่ถนัดเอาซะเลยกับการจดจำสิ่งที่ผมได้รู้และสารทั้งหมดที่ผมได้รับจากแหล่งกำเนิดของทุกภูมิปัญญาอันน่าอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของผม ความสามารถในการจดจำของผมไม่ได้ถูกพัฒนาไปสักเท่าไหร่ คงเหมือนกับที่พ่อเคยพูดไว้ว่า “หากเราโตเร็วเกินไป นอกจากจะแก่เร็วแล้ว ยังทำให้ฉลาดช้าอีกด้วย”★ กระมังครับ
1
★ผมคิดว่านีลน่าจะต้องการสื่อความหมายอะไรประมาณนี้ครับ — ซึ่งสุภาษิตนี้มีที่มาจากสุภาษิตของชาวดัช ที่แปลออกมาเป็นอังกฤษได้ว่า “We grow too soon old and too late smart.”
สุภาษิตนี้แนะนำให้เราต้องตระหนักว่าขณะที่เราเติบโตขึ้นมานั้น อย่าเพิ่งทำตัวแก่เร็วโดยไม่ได้มีโอกาสเรียนรู้ เวลาเรียนก็สนใจเรียนแต่ตามตำรา ตามชั้นเรียนกำหนด ไม่ได้มีโอกาสเที่ยวเล่น ไม่ได้มีเพื่อน เวลาทำงานก็ทำงานอย่างไม่ได้สนใจใช้ชีวิตที่หลากหลาย ไม่ได้ใช้เวลาสนใจดูโลกกว้าง ซึ่งการศึกษาไม่ได้เกิดขึ้นเพียงในชั้นเรียน และในช่วงวัยที่เราอยู่ในโรงเรียนหรือสถานศึกษาเท่านั้น เราต้องเรียนรู้หลายมิติของชีวิต และเรียนรู้ไปตลอดชีวิต
คนเรามีชีวิตหมกมุ่นกับมิติของการทำงาน หรือเป็นผู้ใหญ่เร็วมากเกินไป พยายามสร้างตัวสร้างฐานะ แต่ไม่ได้มีโอกาสแสวงหาความรู้ ประสบการณ์ และชีวิตในมิติอื่นๆร่วมไปด้วย ยามเมื่อแก่ตัว เราต้องมาหาความหมายของชีวิต และยามที่เราเป็นคนมีมิติการคิดแบบคับแคบ การจะมองอะไรที่กว้างขวาง คิดอะไรที่ไม่ติดกรอบ และใช้ชีวิตอย่างท้าทาย เปลี่ยนแปลง และสนุกสนานยามสูงวัยนั้นก็จะทำได้ยาก
ดังนั้น อย่าจำกัดชีวิตของเราแบบคับแคบ ยามเป็นเด็ก ก็ให้สนุกสนาน ยามโตขึ้นมาก็ให้ท่องเที่ยวออกไปเห็นโลกกว้าง นี่เป็นสิ่งที่พึงกระทำ ยามเมื่อสูงอายุ เราจะได้มีวิสัยทัศน์ที่กว้างขวาง ตื่นตัวและสนใจที่จะเรียนรู้อยู่ตลอดชีวิต
— แอดมิน —
That said, I want to offer whatever energy I can to the global effort to awaken our species. So I’m so very happy to have been stimulated to enter into this present conversation.
แต่กระนั้น ผมก็อยากใช้พลังทั้งหมดเท่าที่ผมมีให้กับการปลุกมนุษยชาติทั่วทั้งโลกให้ตื่นขึ้น ผมจึงมีความสุขมาก ๆ ที่ได้รับการกระตุ้นให้เข้าสู่การสนทนากับพระองค์ในครั้งนี้
But you know what? I like to think that I’ve added to that global effort already in my life. Many people have, just by the way they interact with others. So maybe I don’t have to accept the Third Invitation. Maybe I already did so. Long ago.
แต่พระองค์รู้อะไรไหมครับ❓ ผมชอบที่จะคิดว่า การปลุกมนุษยชาติทั่วทั้งโลกให้ตื่นขึ้นนั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผมไปแล้ว และก็มีหลายคนที่ทำแบบเดียวกันกับผม ด้วยวิธีการที่พวกเขามีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น บางทีผมคงไม่ต้องตอบรับคำเชิญครั้งที่ 3 นี้ก็ได้ เพราะผมอาจจะเคยตอบรับไปแล้ว เมื่อนานมาแล้ว
A : Many of you have done, yes, some of the things that a person who has received and accepted and acted on this invitation might do, but most of you have not done so intentionally.
พระเจ้า : มันก็ใช่ ที่พวกเธอหลายคนทำอย่างนั้น พวกเธอได้ทำบางสิ่งที่คนที่ได้รับและตอบรับและปฏิบัติตามคำเชิญนี้อาจทำ แต่พวกเธอส่วนใหญ่ทำแบบนั้นไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
1
You’ve all done them graciously and generously and genuinely, but not with a specific intention behind them. And intention is everything. It sets the energetic signature for events that follow.
พวกเธอทำทั้งหมดนั้น ด้วยความมีเมตตา ด้วยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และด้วยความมีน้ำใจ (เพราะพวกเธอเป็นคนมีนิสัยแบบนั้น) แต่พวกเธอไม่ได้มีความตั้งใจหรือเจตนาที่จำเพาะเจาะจงอยู่เบื้องหลังพฤติกรรมดังกล่าว #ซึ่งเจตนานั้นคือทุกสิ่งทุกอย่าง★ เจตนาเป็นตัวกำหนดเส้นทางของพลังงานที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ที่จะเกิดตามมาในภายหลัง
★ ตรงนี้ทำให้ผมนึกถึงคำสอนข้อหนึ่งของพุทธเลยครับ 🤔 คำสอนที่ว่า กรรม คือ เจตนา เรามีเจตนาอย่างไร มันก็จะเป็นไปตามนั้น ดีหรือชั่ว หรือ ไม่ดีไม่ชั่ว ทั้งหมดอยู่ที่เจตนาของเรา
ซึ่งทุกๆสิ่งที่เราทำนั้นมีเจตนาหมด ไม่ใช่ไม่มี เพียงแต่เจตนานั้นจะเป็นไปในทางใดเท่านั้นเอง ซึ่งในทีนี้พระองค์บอกเราให้มีเจตนาที่จะปลุกมนุษยชาติให้ตื่นขึ้น ไม่ใช่เจตนาทำไปเพราะสงสาร เมตตา หรือเพราะตนเป็นคนดี ฯลฯ เป็นต้น พระองค์ชี้ว่า ไหนๆจะมีเจตนาแล้ว ก็มีให้มันยิ่งใหญ่สุดๆไปเลย (ไม่ต้องเจียมตัวในเรื่องนี้) พราะตัวตน (ที่แท้จริง) ของพวกเราเองก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่น้อยไปกว่านั้น ก็เพราะพวกเราทุกคนคือพระเจ้า นั่นเอง
— แอดมิน —
You can get in your car and drive down the road and be doing everything that a good driver would do, but if you haven’t set your intention about where you're going, you’ll find yourself getting nowhere.
เธอสามารถเข้าไปนั่งในรถ ขับออกไปที่ถนน และทำทุกอย่างที่คนขับรถที่ดีพึงกระทำ แต่ถ้าเธอไม่มีเจตนาว่าจะเดินทางไปที่ใด เธอก็จะพบว่าตัวเองยังคงอยู่ที่เดิม ไม่ได้ไปที่ไหนเลย
1
.
Q: I’ve had the experience.
นีล : ผมก็เคยมีประสบการณ์แบบนั้นครับ
1
A : But now, if you're saying that from this day forward your intention in everything you think, say, and do is to awaken your species—all as part of a self-expression that moves you forward on your own evolutionary journey—then you're going to see a different level of outcome.
พระเจ้า : แต่ถ้าเธอตั้งใจว่า นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทุกๆความคิด ทุกๆคำพูด และ ทุกๆการกระทำของเธอ มี “เจตนา” ที่จะปลุกเผ่าพันธุ์ของเธอให้ตื่นขึ้นอยู่เบื้องหลัง —ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสำแดงตัวตนของเธอออกมาเพื่อช่วยขับเคลื่อนเธอไปข้างหน้าบนเส้นทางแห่งการวิวัฒนาการส่วนตัวของเธอ— แล้วเธอจะได้เห็นผลลัพธ์ที่ตามมาในระดับที่ต่างออกไป (ต่างออกไปจากการไม่มีเจตนาแบบนั้น)★
★หากทุกความคิด ทุกคำพูด และ ทุกการกระทำ ของเราเปี่ยมไปด้วยเจตนาที่จะปลุกมนุษยชาติให้ตื่นขึ้น เราก็จะวิวัฒน์ตัวเองได้เร็วขึ้น เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กว่าการไม่ตั้งเจตนาแบบนั้น อย่างที่พระองค์เคยบอกไว้ว่า "วิธีที่เร็วที่สุดที่จะทำให้เราตื่นได้เร็วขึ้น คือ การทำให้คนอื่นตื่นได้เร็วขึ้น"
— แอดมิน —
This is what the Third Invitation is all about, and it is extended to everyone, not just to you. The conversation we are now having is for everyone who “accidentally” finds their way to it. You know who you are, because here you are.
นี่คือทั้งหมดที่เกี่ยวกับคำเชิญครั้งที่ 3 และมันจะแผ่ขยายไปสู่ทุกๆคน ไม่ใช่แค่เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น พวกเธอทุกคนที่ผ่านมาพบการสนทนาที่เรากำลังมีอยู่นี้ “โดยบังเอิญ” หรือ "โดยไม่ตั้งใจ" ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม พวกเธอรู้ว่าตนเองคือใคร ก็เพราะพวกเธอได้มาอยู่ตรงนี้แล้ว (ไม่อย่างนั้นพวกเธอคงไม่ผ่านมาเจอ)
The awakening of others will not happen by chance, or as a nice-but-not-specifically-focused-on result, but as an intended effect of the personal evolution of all those who self-select to accept the invitation that has been extended here.
ซึ่งการตื่นขึ้นของบุคคลใดก็ตาม ไม่ได้เกิดขึ้นจากความบังเอิญ หรือจากโชคชะตา หรือเป็นผลมาจากความโชคดีที่เกิดขึ้นแบบสุ่มหรอกนะ แต่คือผลลัพธ์ที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ที่เกิดจากการวิวัฒนาการส่วนบุคคล ที่คนเหล่านั้นได้เลือกที่จะตอบรับคำเชิญที่ถูกส่งออกไป
A part of how you will all do this is by allowing your personal growth—and your struggles to achieve it—to be on display, to be modeled, publicly.
หนึ่งในวิธีที่เธอจะทำทั้งหมดนี้ได้ก็คือ การยอมให้การเติบโตส่วนบุคคลของเธอ—และการต่อสู้เพื่อที่จะได้มันมา—เปิดเผยออกไป เพื่อเป็นแบบอย่าง ให้แก่สาธารณชน
.
Q : That’s a big one. That’s a huge thing to even contemplate.
นีล : นี่มันชักจะเป็นเรื่องใหญ่แล้วนะครับ ใหญ่เกินกว่าจะนึกถึง
A : Yet should you agree within to do it, you will have expanded the evolutionary impact of your day-to-day journey and moment-to-moment choices from Little You to Big You, from Local You to Universal You, from the Singular You to the Collective You.
พระเจ้า : แต่หากเธอได้ตกลงใจที่จะทำมันแล้วล่ะก็ ผลกระทบจากการวิวัฒน์ส่วนตัวของเธอจะขยายเข้าไปในการใช้ชีวิตประจำวัน ในทางเลือกแต่ละขณะที่เกิดขึ้นในชีวิต ขยายจากตัวตนที่เล็กกว่าของเธอ ไปหาตัวตนที่ใหญ่กว่าของเธอ ขยายจากตัวตนเฉพาะที่ของเธอ ไปจนถึงตัวตนในระดับจักรวาลของเธอ ขยายจากตัวตนแบบปัจเจกของเธอ ไปสู่ตัวตนรวมทั้งหมดของเธอ
1
By all of you allowing your personal evolutionary process to be observed by others, it can become a means by which the evolutionary process of all humanity is advanced.
การที่ตัวตนทั้งหมดของเธอ ได้ยินยอมเปิดเผยกระบวนการวิวัฒน์ของตนเองให้แก่ผู้อื่นร่วมรับรู้ด้วย ก็จะกลายเป็นแบบอย่างในกระบวนการวิวัฒน์ของมนุษยชาติทั้งมวลให้ก้าวหน้าต่อไป
1
And what a Perfect Time for Advancement this is.
และช่วงเวลานี้ ช่างเป็นช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับการเติบโตอะไรเช่นนี้★
★ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ หรือ หลังจากนี้ แม้สักนิด ก็ไม่ทางสมบูรณ์แบบสำหรับการเติบโตได้เท่าตอนนี้
— แอดมิน —
(มีต่อ)

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา