26 มี.ค. 2022 เวลา 07:07 • ธุรกิจ
#สรุปเนื้อหา Growth Hacker Marketing การตลาดแบบไม่ต้องทำตลาด
.
ถ้าทำธุรกิจ ยังต้องพึ่งการยิง Ads การโฆษณา จ้างอินฟลูฯ จัดงานอีเวนท์ อยู่แล้วยังไม่ได้ผล ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูค่ะ
.
หนังสือเล่มนี้จะบอกเทคนิคการทำตลาดแบบยุคใหม่ ที่ช่วยดึงความสนใจคนได้ในเวลาสั้นๆ และยังเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการตลาดแบบเดิมเป็นพันเท่า
1
.
หลักในการทำการตลาดแบบ Growth Hacker จะเน้นไปที่การใช้เงินต้นทุนต่ำ เน้นการใช้ความคิดสร้างสรรค์
การแชร์ในโลกออนไลน์ การบอกต่อ เป็นช่องทางที่ฟรี
แล้วเราจะทำยังไงให้สินค้าหรือบริการเราเป็นกระแสได้โดยใช้เงินทุนต่ำที่สุด
ถ้าเราเข้าใจหลักการก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ
.
สรุป 4 ขั้นตอน จากในหนังสือ
.
ขั้นที่ 1 : เริ่มต้นด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตลาด
ต้องสร้างสิ่งที่คนอยากได้ ข้อนี้สำคัญสุด ถ้าเราทำในสิ่งที่คนไม่อยากได้ ต่อให้คุณทำการตลาด ลด แลก แจก แถม คนก็ไม่เอาอยู่ดี
การตลาดแบบเดิมจะเน้นในเรื่องของการโฆษณา ประชาสัมพันธ์มากเกินไป
แต่การตลาดแบบใหม่จะให้ความสำคัญของผลิตภัณฑ์ก่อน
ถ้ายังไม่แน่ใจในผลิตภัณฑ์ อย่าเพิ่งทำการตลาด ให้ทดลองกับคนกลุ่มเล็กๆก่อน แก้ไข ปรับปรุงไปเรื่อยๆ
ตัวอย่างเช่น นักเขียนอยากจะออกหนังสือ ควรเริ่มจากการเขียน Blog ดูกระแสตอบรับจากคนอ่านก่อน พิจารณาจากหัวข้อที่เขียน รวมไปถึงจำนวนการแชร์บทความนั้นๆ นำชื่อหนังสือและหน้าปกมาถามความคิดเห็นจากคนที่ตามอ่าน Blog รวมถึงดูว่ามีเรื่องไหนที่กำลังเป็นกระแสในหมู่นักเขียนชื่อดัง
ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตลาด ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาจากข้อมูลที่ได้มาจาก การเสาะหา การทดลอง การฟังความคิดเห็น
.
ขั้นที่ 2 : หากลยุทธ์การเติบโตของคุณ
#ไม่ใช่ทุกคนแต่เฉพาะคนที่ใช่
การทำตลาดแบบเดิมจะพยายามผลักดัน มีเป้าหมายให้สินค้าหรือบริการไปอยู่ในทุกๆที่ แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะซื้อสินค้าหรือใช้บริการเรา
การทำตลาดแบบ Growth Hacker จะนำสินค้าหรือบริการ เจาะเข้าไปในกลุ่มผู้ใช้กลุ่มแรกๆก่อน ทำให้ผู้คนคลั่งใคล่ในสินค้าหรือบริการ จากนั้นผู้ใช้จะเป็นคนบอกต่อ แชร์ ให้คนอื่นๆรู้จักสินค้าเรามากขึ้น และหน้าที่เราคือการเติบโตไปกับพวกเขา โดยอาศัยพลังของพวกเขานั้นเอง (การแชร์,การบอกต่อ)
ตัวอย่างเช่น Facebook เดิมที ทำขึ้นมาให้ใช้แค่กลุ่มนักศึกษาในฮาร์วาร์ด ก่อนจะค่อยๆขยายไปมหาลัยอื่น จนปัจจุบันมีผู้ใช้งานอยู่ทั่วโลก
.
ขั้นที่ 3 : สร้างกระแสให้คนบอกต่อ
จาก 1 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4 จาก 4 เป็น 16 ทวีคูณไปเรื่อยๆ
กระแสไม่ได้เกิดจากโชค และไม่ใช่ความบังเอิญ มันมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้คน บอกต่อและส่งข้อมูลกัน
ทุกคนล้วนอยากได้กระแส อยากให้คนพูดถึงสินค้ากันเยอะ
ย้อนกลับไปที่ขั้นที่ 1 เราได้ทำให้การพูดถึงสินค้านั้นง่ายกับลูกค้าหรือยัง และ แล้วตัวสินค้านั้นน่าพูดถึงหรือเปล่า
.
ขั้นที่ 4 : การรักษาลูกค้าและใช้ลูกค้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด
มีคำกล่าวที่ว่า การขายของให้กับลูกค้าเก่าง่ายกว่าการขายของให้ลูกค้าใหม่เสมอ
ในการทำธุรกิจ การปรับเปลี่ยนแก้ไขและพัฒนาตัวเอง เพื่อให้ผู้ใช้พึงพอใจในระดับที่พวกเขาหยุดใช้บริการนั้นไม่ได้ สิ่งการทำสิ่งนี้อาจไม่ต้องใช้เทคโนโลยีมากมาย เพียงแค่ใช้ความจริงใจ โปร่งใส และพูดคุยโดยตรงกับผู้ใช้
.
ในหนังสือมีเคสตัวอย่างของหลายๆธุรกิจ แนะนำอีกเยอะ
ที่ชอบสุดตรงท้ายเล่ม ผู้เขียนได้ยกเอาตัวอย่างของการทำหนังสือเล่มนี้โดยใช้วิธี Growth Hacker Marketing มาเป็นเคสตัวอย่างที่ทำได้จริง
.
สรุป
เป็นหนังสือที่คุ้มค่า เล่มไม่หนา ราคาไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับความรู้และไอเดียจากหนังสือ
เบียร์ชอบแนวคิดที่ว่า เราจะทำตลาดได้ลูกค้ามา 1 คนได้ยังไงโดยใช้ต้นทุนต่ำที่สุด
ด้วยความที่เนื้อหาทันสมัย หลายคนอาจคิดว่าจะเหมาะกับแค่ธุรกิจด้านเทคโนโลยี หรือ สตาร์ทอัพ อย่างเดียวเลยหรือเปล่า ไม่ใช่เลย ทุกธุรกิจสามารถนำไปต่อยอดได้เลย
.
หนังสือนี้เหมาะกับ
คนที่ไม่เคยทำการตลาดมาก่อน
คนที่เริ่มต้นทำการตลาด
คนที่ทำธุรกิจมาสักพักแล้วแต่ธุรกิจยังไม่เติบโตสักที
คนที่ทำการตลาด ชอบเรียนรู้หาไอเดียใหม่ๆ แนะนำเลยค่ะ
📖 Growth Hacker Marketing การตลาดแบบไม่ต้องทำตลาด
ผู้เขียน : RYAN HOLIDAY
ผู้แปล : วิญญู กิ่งหิรัญวัฒนา
สำนักพิมพ์ : สำนักพิมพ์วีเลิร์น
โฆษณา