31 มี.ค. 2022 เวลา 04:08 • ประวัติศาสตร์
• จับคนไปทำหนัง!
คิม จอง-อิล เคยสั่งให้สายลับเกาหลีเหนือลักพาตัวสามีภรรยาชาวเกาหลีใต้คู่หนึ่ง เพื่อให้ทั้งคู่มาทำภาพยนตร์ให้กับเกาหลีเหนือ
คิม จอง-อิล อดีตผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ นับได้ว่าเป็นคนที่มีความชื่นชอบในเรื่องของภาพยนตร์เป็นอย่างมาก โดยมีเรื่องเล่าว่า เขาได้เก็บสะสมภาพยนตร์จากทั่วทุกมุมโลก มากกว่า 15,000 เรื่องเลยทีเดียว
โดยในยุคของคิม อิล-ซ็อง ผู้เป็นพ่อ คิม จอง-อิล เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการแผนกภาพยนตร์ของกรมโฆษณาชวนเชื่อและการปลุกระดม (Propaganda and Agitation Department หรือ PAD) ซึ่งเป็นหน่วยงานของเกาหลีเหนือที่ทำหน้าที่สร้างโฆษณาและภาพยนตร์ชวนเชื่อ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับผู้นำสูงสุด
1
คิม จอง-อิล มีความฝันมาโดยตลอดว่า เขาอยากจะทำให้วงการภาพยนตร์ของเกาหลีเหนือมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในระดับโลกให้ได้ ซึ่งวิธีการที่คิม จอง-อิล เลือกนั้น ก็คือการลักพาตัว (ทุกคนฟังไม่ผิดหรอกครับ)
ซึ่งบุคคลเป้าหมาย ที่ คิม จอง-อิล วางแผนลักพาตัว ก็คือสองสามีภรรยาชาวเกาหลีใต้คู่หนึ่ง ที่มีชื่อว่า ชิน ซาง-อ๊ก (Shin Sang-ok) กับ ชเว อึน-ฮี (Choi Eun-hee)
ชเว อึน-ฮี กับชิน ซาง-อ๊ก
แล้วทำไมถึงต้องเป็นสองคนนี้ด้วยล่ะ?
เริ่มที่ ชิน ซาง-อ๊ก กันก่อน เขาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเกาหลีใต้ในช่วงทศวรรษ 1950 ถึง 1960 โดย ชิน ซาง-อ๊ก มีผลงานภาพยนตร์มากกว่า 300 เรื่อง และเขาก็เคยได้รับรางวัล Grand Bell Award ที่เปรียบเสมือนเป็นรางวัลออสการ์ของเกาหลีใต้อีกด้วย และด้วยความสามารถของเขา จึงทำให้ซินได้รับฉายาว่าเป็น 'เจ้าชายแห่งวงการภาพยนตร์เกาหลีใต้' (The Prince of South Korean Cinema)
1
ส่วน ชเว อึน-ฮี เธอก็เป็นนักแสดงหญิงที่โด่งดังของเกาหลีใต้ในตอนนั้น ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ คิม จอง-อิล เชื่อว่า ทั้งสองคนจะเข้ามาปฏิวัติวงการภาพยนตร์เกาหลีเหนือ แต่การจะไปขอร้องให้ทั้งคู่เดินทางมาที่เกาหลีเหนือนั้น มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นปฏิบัติการลักพาตัวจึงเกิดขึ้น
1
วันที่ 14 มกราคม 1978 ชเว อึน-ฮี ได้เดินทางมาที่ฮ่องกง เพราะเธอได้รับการติดต่อจากนักธุรกิจชาวฮ่องกงคนหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องการเปิดโรงเรียนสอนการแสดงให้กับเธอ แต่ทั้งหมดก็คือแผนลวงของเกาหลีเหนือ เพราะเมื่อเธอเดินทางมาถึงฮ่องกง เธอก็ถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัว และในอีก 6 เดือนต่อมา ชิน ซาง-อ๊ก ก็ถูกลักพาตัวเช่นเดียวกัน
1
ต่อมาทั้งคู่ก็ได้มีโอกาสพบกับคิม จอง-อิล โดยคิม จอง-อิล ก็ได้พูดถึงวัตถุประสงค์ในการลักพาตัวทั้งคู่ และเขาก็ขอร้องให้ทั้งคู่ช่วยกันสร้างภาพยนตร์ให้กับเกาหลีเหนือ ซึ่งสุดท้ายทั้งคู่ก็ยินยอม คิม จอง-อิล จึงเปิดสตูดิโอภาพยนตร์ที่มีชื่อว่า 'Choson Film Studios' และซัพพอร์ตเงินทุนให้กับทั้งคู่อย่างเต็มที่
1
ชิน ซาง-อ๊ก กับชเว อึน-ฮี ถ่ายภาพกับคิม จอง-อิล
ชิน ซาง-อ๊ก กับชเว อึน-ฮี ได้สร้างสร้างภาพยนตร์ให้กับเกาหลีเหนือในช่วงปี 1984 ถึง 1985 โดยมีภาพยนตร์ทั้งหมด 7 เรื่องด้วยกัน สำหรับภาพยนตร์ที่ถือว่าโด่งดังและประสบความสำเร็จที่สุด ก็คือภาพยนตร์เรื่อง พัลกาซารี (Pulgasari) ซึ่งเป็นภาพยนตร์แนวสัตว์ประหลาดก็อตซิลล่าเรื่องแรกและเรื่องเดียวของเกาหลีเหนือ
1
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้ทีมงานภาพยนตร์ก็อตซิลล่าจากญี่ปุ่นมาร่วมสร้างอีกด้วย แต่ประเด็นก็คือ ทีมงานจากญี่ปุ่นเหล่านี้ก็ถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัวมาเหมือนกัน
2
Pulgasari ภาพยนตร์ก็อดซิลล่าที่โด่งดังที่สุดของเกาหลีเหนือ
ทั้งคู่ต่างก็รอวันที่จะได้หนีออกจากเกาหลีเหนือ และแล้วโอกาสนั้นก็มาถึง ในเดือนมีนาคม 1986 ทั้งคู่ได้บอกกับ คิม จอง-อิล ว่า จะขอเดินทางไปที่ออสเตรีย เพื่อเจรจากับนายทุนในเรื่องการสร้างภาพยนตร์เจงกีสข่าน ซึ่ง คิม จอง-อิล ก็ไม่ได้ปฏิเสธใด ๆ และยินยอมให้ทั้งคู่เดินทางไปออสเตรียได้
2
วันที่ 12 มีนาคม 1986 ชิน ซาง-อ๊ก และ ชเว อึน-ฮึ ก็ได้หลบหนีเข้าไปในสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเวียนนาได้สำเร็จ จากนั้นทั้งคู่ก็ได้ยื่นเรื่องขอลี้ภัยไปยังสหรัฐฯ
เวลาต่อมาทั้งคู่ก็ได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่เกาหลีใต้ ชิน ซาง-อ๊ก เสียชีวิตในปี 2006 ในวัย 79 ปี ส่วนทางด้าน ชเว อึน-ฮี เสียชีวิตในปี 2018 ที่ผ่านมา ด้วยวัย 91 ปี
1
ทางด้านของเกาหลีเหนือ พวกเขาก็ได้เคยออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า ทั้ง ชิน ซาง-อ๊ก และ ชเว อึน-ฮี ทั้งคู่ได้เดินทางมาที่เกาหลีเหนือด้วยความเต็มใจ ไม่ได้ถูกลักพาตัวแต่อย่างใด และยังบอกอีกว่า สาเหตุที่ทำให้ทั้งคู่หนีออกจากเกาหลีเหนือ ก็เพราะทั้งคู่ได้แอบยักยอกเงินของ คิม จอง-อิล ต่างหาก
อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือก็ได้ถูกพูดถึงในฐานะของประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวมากที่สุดในโลก ซึ่งคาดการณ์ว่า นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ได้มีเคสของการลักพาตัวที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของเกาหลีเหนือ มากกว่าหลายพันเคส เลยทีเดียว
• อโนชา ปันจ้อย เป็นชื่อของหญิงไทยคนหนึ่งที่เชื่อว่า เธอได้ถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัว ขณะที่เธอทำงานอยู่ที่มาเก๊าในปี 1978 (พ.ศ. 2521) แม้เวลาจะผ่านไป 40 กว่าปีแล้ว แต่ครอบครัวปันจ้อยก็ยังเชื่อว่า คุณอโนชายังคงมีชีวิตอยู่ และสักวันหนึ่งเธอจะได้กลับมาหาครอบครัวของเธอที่เมืองไทยอีกครั้ง
2
อโนชา ปันจ้อย หญิงไทยที่เชื่อว่าถูกสายลับเกาหลีเหนือลักพาตัวในปี 1978
*** Reference
1
#HistofunDeluxe
โฆษณา