การควบคุมความคิด จึงสามารถทําได้โดย
1. บังคับให้จิตอยู่แต่ในภวังค์ ไม่ออกมารับอารมณ์ โดยใช้สมาธิภาวนา ( สมถะภาวนา ) โดยมีวิตก วิจารณ์ ให้จิตอยู่ในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งตลอด เช่น ใช้ลมหายใจเข้าออก, ภาวนาพุทโธ, เดินจงกลม จนจิตเกิดเป็นสมาธิและเข้าสู้ความสงบในฌาณ เป็นการบังคับไม่ให้ความคิดก่อตัว
2. ถ้าความคิดเกิดขึ้นแล้ว การเจริญสติและความรู้สึกตัว จะช่วยหยุดให้เจตสิกประกอบจิตตัวอื่นหยุดการทำงาน หรือหยุดปรุงแต่ง เหลือเฉพาะส่วนที่เป็นวิญญาณ, เวทนา, สติสัมปชัญญะเจตสิก นั่นคือรับรู้เฉยๆโดยที่ไม่ปรุงแต่ง เห็นก็สักว่าเห็น, ชอบก็รู้ว่าชอบ ไม่ชอบก็รู้ว่าไม่ชอบ ตัวสติสัมปชัญญะ เมื่อมันมีมากและตั้งมั่นเป็นสมาธิ จะหยุดการปรุงแต่งต่อของจิต หรือติดเบรคให้กับความคิด จิตที่เกิดจะเป็นกิริยาจิต ( ไม่มีกุศล, อกุศล, วิบากจิตเกิดร่วม )