5 เม.ย. 2022 เวลา 05:00 • ประวัติศาสตร์
ตำนานสัตว์ประหลาดลึกลับที่ถูกเชื่อว่ารูปร่างของมันคล้ายหมึกยักษ์ และถูกเรียกในชื่อ 'คราเคน' จะมีที่มาอย่างไร ลุงเบ็นจะเล่าให้ฟังครับ
ต้นกำเนิดของคราเคน (Kraken) เริ่มต้นมาจากตำนานนอร์ส โดยมีเรื่องเล่าของสัตว์ประหลาดชนิดนี้ที่มักซ่อนตัวอยู่ในน่านน้ำแถว ๆ นอร์เวย์และกรีนแลนด์ ขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ประหลาดตัวมหึมาและพร้อมที่จะทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้ามัน
ภาพประกอบ 1 : ภาพในจินตนาการของคราเคนที่กำลังโจมตีเรือ
คราเคนถือเป็นตำนานสิ่งมีชีวิตที่ลึกลับที่สุดเท่าที่เคยมีมา รูปร่างของมันที่ดูเหมือนหมึก มีหน้าตาน่ากลัว หนวดของมันสามารถล้มเรือทั้งลำด้วยการฟาดเพียงครั้งเดียว อีกทั้งมันยังชอบว่ายน้ำไปมารอบ ๆ เรือเพื่อสร้างน้ำวนและดูดเรือทั้งลำลงไปยังกันสมุทร
หากเรื่องราวนี้ยังไม่เพียงพอที่จะสร้างความน่ากลัวให้แก่นักเดินเรือ ยังมีตำนานของคราเคนที่ถูกเชื่อว่ามันเป็นสัตว์ประหลาดกินคน และสามารถกลืนลูกเรือทั้งหมดลงไปได้ภายในคำเดียว
เรื่องราวของคราเคนที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้คือปี 1180 ซึ่ง King Sverre กษัตริย์แห่งนอร์เวย์ในขณะนั้นได้กล่าวว่าคราเคนเป็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ ใหญ่ขนาดที่สามารถเข้าใจผิดได้ว่าเป็นเกาะ และมันยังเป็นเพียงหนึ่งในสัตว์ประหลาดหลาย ๆ ตัวที่อาศัยอยู่ในทะเลรอบสแกนดิเนเวียอีกด้วย
นักเขียนผู้หนึ่งนาม โคนุง สกุชชะ (Konungs Skuggsjá) ที่มีผลงานด้านประวัติศาสตร์ธรรมชาติ การเมือง และศีลธรรม ได้กล่าวถึงสัตว์ประหลาดอย่างคราเคนว่า “มันดูเหมือนแผ่นดินมากกว่าจะเป็นปลา และมันไม่ได้มีตัวเดียว แต่มีถึงสอง”
การเดินเรือในยุคนั้น ทะเลถือว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัวแม้กระทั่งสำหรับกะลาสีที่มีประสบการณ์ ทุกคนต่างมองว่าทะเลเป็นได้ทั้งมิตรและศัตรู ด้วยเรือที่ทำจากไม้และขับเคลื่อนด้วยการพายหรือใช้ใบเรือ พวกเขาจึงเปราะบางและขาดการป้องที่ดี ประกอบกับการขาดความเข้าใจเกี่ยวกับสมุทรศาสตร์สมัยใหม่และชีววิทยาทางทะเล
บ่อยครั้งที่กะลาสีพบเหตุการณ์ประหลาดหรือสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จัก พวกเขามักจะกล่าวโทษสิ่งเหนือธรรมชาติหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เสมอ ทำให้ตำนานที่เล่าต่อกันมานั้นเกินจริงไปหน่อย
ภาพประกอบ 2 : กะลาสีเรือชาวฝรั่งเศสบนเรือ Alecton กล่าวว่าเขาได้พบเห็นหมึกยักษ์ขนาดใหญ่ในปี 1861
จนเวลาผ่านมาหลายร้อยปี ตำนานของคราเคนก็ยิ่งใหญ่ขึ้น คราเคนโดนกล่าวว่ามันมีความยาวเป็นกิโลเมตร และมีขนาดใหญ่เท่ากับเกาะ แต่ต่อมาขนาดของมันก็เริ่มเล็กลงไปตามกาลเวลา จนสุดท้ายมันก็เป็นเพียงหมึกยักษ์ตัวหนึ่งไม่ใช่สัตว์ประหลาดตัวยักษ์แต่อย่างใด
คราเคนถูกกล่าวถึงในการสำรวจทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ครั้งแรกในศตวรรษที่ 18 โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดนนาม คาร์ล ลินเนียส (Carl Linnaeus)
ลินเนียสได้เขียนหนังสือที่ชื่อว่า Systema Naturea ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้ให้ชื่อทางวิทยาศาสตร์แก่คราเคนว่า ‘มิโครคอสมุส มารินุส (Microcosmus marinus)’
ในปี 1752 นักเขียนและนักประวัติศาสตร์ชาวเดนมาร์ก-นอร์เวย์ที่ชื่อว่า เบอร์เกน เอริค พอนโทพิดัน (Bergen Erik Pontoppidan) ได้เขียนถึงขนาดที่ใหญ่โตของคราเคนไว้ในหนังสือของเขา Det første Forsøg paa Norges naturlige Historie (The First Attempt at a Natural History of Norway)
เขากล่าวว่าสิ่งที่น่ากลัวของคราเคนไม่ใช่หนวดอันน่ากลัวของมัน แต่เป็นน้ำวนที่มันสร้างขึ้นเพื่อดูดเรือให้จมลงไปต่างหาก และเขายังเพิ่มเติมอีกว่าการปรากฏตัวของคราเคนนั้นเป็นดาบสองคมสำหรับชาวประมง ด้านหนึ่งคืออาจต้องจบชีวิตให้กับคราเคน หรืออีกด้านหนึ่งคืออาจได้ปลาเต็มคันเรือเพราะตำนานเล่าว่าฝูงปลาจำนวนมากจะชอบว่ายน้ำไปพร้อมกับคราเคน
แม้ว่าคราเคนจะถูกยอมรับและเล่าต่อกันมาว่าลักษณะของมันคือหมึกยักษ์ แต่บางตำนานก็กล่าวว่ามันเป็นสายพันธุ์เดียวกับกุ้ง หรือแม้กระทั่งเป็นงูทะเล
ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่จะคิดว่าตำนานของคราเคนนั้นเกินจริงไปหน่อย ซึ่งมันอาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ แต่หากพูดถึงหมึกยักษ์ในความเป็นจริงแล้วก็ยังพอมีหลักฐานให้ได้ชมบ้าง แต่คงไม่ขนาดใหญ่เท่ากับตำนานที่เล่ากันมา
ภาพประกอบ 3 : หมึกยักษ์ความยาว 25 ฟุต ที่ถูกสตาฟไว้ที่พิพิธภัณฑ์ Natural history
นอกจากคราเคนแล้ว ยังคงมีตำนานของสัตว์ประหลาดในทะเลอีกมากมาย แต่ส่วนใหญ่ชื่อเสียงของพวกมันก็หายตามกาลเวลาไป เหลือเพียงตำนานของสัตว์ทะเลไม่กี่ตัวเท่านั้นรวมถึงคราเคนที่ยังถูกเล่าต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
จบกันไปแล้วกับ 'ตำนานของคราเคน สัตว์ประหลาดลึกลับแห่งท้องทะเล' หากชอบและอยากติดตามเรื่องราวใหม่ ๆ อย่าลืมกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจให้ลุงเบ็นด้วยนะครับ
References :
โฆษณา