5 เม.ย. 2022 เวลา 01:08 • หุ้น & เศรษฐกิจ
อัพเดทคาดการณ์ GDP โลก: ปรับลดทั่วกันในปีนี้
แม้จะผ่านมาแล้วหลายสัปดาห์ แต่ข่าวเรื่องสงครามรัสเซีย - ยูเครน ก็ยังคงเป็นประเด็นที่คนมากมายพูดถึง นี่คงเป็นเพราะเหตุการณ์นี้สามารถกระทบชีวิตและเศรษฐกิจทั่วโลกได้
นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าความขัดแย้งครั้งนี้จะส่งผลเป็นวงกว้างไปทั่วโลกได้จากสามช่องทางหลักๆ คือ
  • 1.
    ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น ราคาอาหาร และราคาพลังงาน
  • 2.
    การขัดข้องของห่วงโซ่อุปทานและการค้าระหว่างประเทศ
  • 3.
    และความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ลดลง
จากสถานการณ์และความเสี่ยงต่างๆ ในปัจจุบัน สำนักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจมากมายต่างก็ปรับลดคาดการณ์การฟื้นตัวของ GDP โลกของตัวเอง ยกตัวอย่าง เช่น Fitch Ratings ที่เพิ่งลดคาดการณ์การเติบโตของ GDP โลกในปี 2022 ลงจาก 4.2% เหลือ 3.5%
โดยเหตุผลหลักๆ มาจากราคาสินค้าพลังงานที่สูงขึ้นและแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาดเอาไว้ เช่นเดียวกัน Capital Economics ก็คาดว่า GDP โลกปีนี้จะฟื้นตัวช้าลงจากเศรษฐกิจรัสเซียที่ซบเซาเป็นหลัก โดยทางบริษัทได้ลดการคาดการณ์จาก 4.0% เหลือ 3.8%
OECD เองก็เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ประกาศว่าจะปรับลดการคาดการณ์ GDP โลกลงจากเดิมอีกประมาณ 1% เพราะความขัดแย้งในยูเครน
หากถามว่าประเทศไหนจะโดนผลกระทบหนักที่สุด คำตอบก็คงไม่พ้นรัสเซียและยูเครน ซึ่งถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้น นักวิชาการหลายคนก็เห็นพ้องต้องกันว่าตัวเลขการเติบโตเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศน่าจะลดลงได้ถึงสองหลักเลยทีเดียว
อย่าง GDP รัสเซียก็อาจลดลงประมาณ 8% ในปีนี้จากผลสำรวจที่ธนาคารกลางรัสเซียสอบถามเหล่านักเศรษฐศาสตร์ และเศรษฐกิจยูเครนก็อาจดิ่งลงได้มากสุดถึง 35% ตามคาดการณ์ของ IMF
รองจากรัสเซียและยูเครน ที่ที่จะโดนผลกระทบอย่างหนักก็คือ ประเทศในแถบยุโรป นี่เป็นเพราะทวีปนี้ พึ่งพาการนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียอย่างมาก ซึ่งถ้าพลังงานขาดแคลน ห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมอื่นๆ ก็จะขัดข้องไปด้วยและจะยิ่งซ้ำเติมการฟื้นตัวของธุรกิจมากมาย ในช่วงโควิดให้ช้าลงไปอีก
นอกจากนี้ประเทศในแถบตะวันออกของยุโรปก็น่าจะมีค่าใช้จ่ายภาครัฐสูงขึ้น เนื่องจากมีผู้อพยพหนีจากยูเครนมาอาศัยอยู่ในประเทศเหล่านี้มากมาย ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้บริษัท Fitch Ratings คาดว่าเศรษฐกิจยุโรปจะโตช้ากว่าที่เคยคาดไว้ประมาณ 1.5% ในปีนี้ (จาก 4.5% เหลือ 3.0%)
ถัดมาก็เป็นเหล่าประเทศในแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาที่จะได้รับผลเสียจากสงครามในยูเครน โดยสิ่งที่ประเทศพวกนี้จะได้เจอหลักๆ ก็คือ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาอาหาร นี่เป็นเพราะหลายประเทศในทวีปเหล่านี้พึ่งพาการนำเข้าอาหารจากรัสเซียและยูเครนอย่างมาก
อย่างอียิปต์เองก็นำเข้าข้าวสาลีกว่า 80% จากยูเครนและรัสเซีย นอกจากนี้สภาพคล่องทั่วโลกที่หดหายจากความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ลดลงก็น่าจะทำให้การลงทุนในพื้นที่ซบเซาไปด้วย
สำหรับแถบเอเชียและแปซิฟิก ผลกระทบโดยตรงคงมีไม่มาก เนื่องจากประเทศส่วนใหญ่ในแถบนี้ไม่ได้มีการค้ากับรัสเซียหรือยูเครนโดยตรง แต่ถ้าจะเจอผลเสีย ก็น่าจะมาจากเศรษฐกิจในประเทศคู่ค้าที่ซบเซา โดยเฉพาะพวกที่อยู่ในแถบยุโรป
ผลเสียอีกอย่างที่เป็นไปได้ก็คือ จำนวนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่อาจลดลง ในด้านราคาอาหาร หลายประเทศน่าจะควบคุมราคาได้โดยการช่วยเหลือจากรัฐบาลและการเน้นบริโภคข้าวแทนข้าวสาลี
ในระยะยาว สงครามครั้งนี้อาจเปลี่ยนแปลงระเบียบทางภูมิรัฐศาสตร์ รวมถึงการค้าและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก อันที่จริงแล้ว ในปัจจุบัน ยุโรปก็เริ่มที่จะเปลี่ยนคู่ค้า โดยการหันมานำเข้าก๊าซจากเอเชียมากขึ้น
ซึ่งนี่จะทำให้ทวีปนี้สามารถลดการพึ่งพาก๊าซจากรัสเซียได้ในอนาคต อย่างไรก็ตามหากสงครามยังไม่จบในระยะยาวหรือทวีความรุนแรงขึ้น ความเหลื่อมล้ำ โดยเฉพาะในด้านการค้าระหว่างประเทศและการพัฒนาเทคโนโลยี ก็น่าจะเพิ่มขึ้นด้วย
Bangkok Bank Post ฉบับวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2565
ผู้เขียน : บูชิตา ปิตะกาศ Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶︎ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
Reference :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา