เมื่อหมอกควันปืนเริ่มจาง 2: เกิดอะไรชึ้นกับ VDV ในวันแรกของสงคราม
13 มีนาคม 2022 พันเอกเซอร์เก้ วลาดิมิโรวิช ซูคาเรฟ ผู้บัญชาการกรมทหารพลร่มที่ 331 เสียชีวิตระห่างการรบในปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครน ร่างของเขาถูกนำกลับมายังรัสเซีย ได้รับการจัดพิธีศพโดยกองทัพ โดยมีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้กล่าวไว้อาลัย
"เขาอุทิศชีวิตเพื่ออนาคต อนาคตของประชาชนของเรา อนาคตที่ปราศจากพวกคลั่งชาติพันธุ์หัวรุนแรง"
กรมทหารพลร่มที่ 331 ถือเป็นหน่วยหัวกะทิที่สุดในบรรดาหน่วยพลจู่โจมทางอาการ (VDV) เช่นเดียวกับหน่วยพลร่มหรือกองกำลังจู่โจมทางอากาศทั้งหมดของรัสเซีย หน่วยเหล่านี้เป็นทหารประจำการ เป็นตัวอย่างของการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย เป็นหน้าเป็นตาของกองทัพรัสเซียในการสวนสนาม เป็นภาพประชาสัมพันธ์เชิญชวนคนหนุ่มสมัครเข้ากองทัพ
กรมทหารพลร่มที่ 331 เข้าร่วมปฏิบัติตั้งแต่เชเชน ซีเรีย ดอนบาส ไปจนถึงการช่วยรักษาความสงบในคาซัตสถานเมื่อช่วงต้นปี
พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมการซ้อมรบฤดูหนาวกับเบลลารุสเช่นเดียวกับทหารพลร่มอื่นๆ ของรัสเซีย ซึ่งถูกเรียกรวมมาในช่วงไม่กี่วันก่อนสงครามเปิดฉาก และเป็นหน่วยแรกที่เข้าสู่สงตราม
ในตอนที่แล้ว สงครามมาถึงเมืองบูชาในวันที่ 1 มีนาคม แต่สงครามได้เริ่มตั้งแต่ 4 วันก่อนหน้านั้น ที่สนามบินแอนโตนอฟ เมืองโฮสโตเมล ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 10 กิโลเมตร
24 กุมภาพันธ์ 2022 เวลา 05.30 นาฬิกา ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน กองทัพรัสเซียและเบลารุสที่ตั้งทัพรออยู่รอบพรมแดนยูเครนตั้งแต่เหนือ ตะวันตออก จรดไครเมียทางใต้ เริ่มเคลื่อนพลพร้อมกัน
กองกำลังจู่โจมทางอากาศส่วนหนึ่งเคลื่อนพลโดยยานเกราะล่วงหน้าเข้าไปก่อน ยานเกราะเหล่านั้นพ่นสัญลักษณ์ V เป็นเครื่องหมายบ่งบอกถึงความสำคัญแยกจากหน่วยอื่นๆ ที่พ่นสัญลักษณ์ Z
8.00 นาฬิกา กลุ่มเฮลิคอปเตอร์กว่า 30 ลำ มาถึงสนามบินนานาชาติแอนโตนอฟ สนามบินใหญ่ที่อยู่ใกล้เมืองหลวงที่สุด
ผมไม่ได้เชี่ยวชาญการทหารขนาดที่จะรู้แน่ชัดว่าภารกิจของพวกเขาคืออะไร แต่การใช้กองกำลังจู่โจมทางอากาศ นั่นหมายถึงการยึดพื้นที่ส่วนหน้า ปกป้องแนวรบจนกว่ากองกำลังหลักจะมาถึง
หากเทียบกับการยึดสนามบินนานาชาติแบกแดดในสงครามอิรักปี 2003 ครั้งนั้นเป็นยุทธศาสตร์สำคัญอย่างมากของสหรัฐ เมื่อยึดสนามบินได้อย่างแทบไร้ความเสียหายแม้จะโดนต่อต้านอย่างหนัก เครื่องบินบรรทุกทหารและอุปกรณ์ผลัดกันลงจอด ขนทหารและยุทโธปกรณ์เข้าจัดตั้งเขตยึดครองในแบกแดดอย่างรวดเร็ว
เมื่อดูทิศทางการเคลื่อนพลของรัสเซียทางตะวันออกเฉียงเหนือที่ยอมกระทั่งอ้อมเมืองที่ป้องกันอย่างดี แผนการของรัสเซียน่าจะเป็นการเข้าตียึดเคียฟอย่างรวดเร็ว หรือล้อมปิดเส้นทางกำลังบำรุงจนยอมแพ้
โดยเริ่มจากสนามบินแอนโตนอฟ ที่กองกำลังจู่โจมทางอากาศจะยึดสนามบิน รอรับการลงจอดของเครื่องบินลำเลียงทหารและหน่วยยานเกราะเคลื่อนที่เร็ว ขยายแนวหน้าให้อยู่นอกระยะทำการของปืนใหญ่ยูเครน เชื่อมกำลังเข้ากับกองคาราวานยาว 40 ไมล์ตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้าที่สนามบินแอนโตนอฟและเมืองโฮสโตเมล เพื่อใช้ในการยึดครองเคียฟ
หากแผนการเป็นเช่นนั้นแล้วล่ะก็
"ไม่มีแผนการใดในสงครามที่อยู่รอดพ้นการปะทะครั้งแรก"
ฝูงเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง Mi-8s และเฮลิคอปเตอร์จู่โจม Ka-52 บินต่ำเลียบแม่น้ำดเนียปร์ ถูกตรวจพบและบันทึกได้โดยพลเรือนยูเครน ก่อนจะถึงสนามบิน มีเฮลิคอปเตอร์จู่โจมหนึ่งลำถูกยิงตก
เมื่อถึงสนามบิน เฮลิคอปเตอร์จู่โจมเริ่มยิงกดหน่วยบังคับปืนต่อสู้อากาศยานของยูเครนเพื่อให้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงเริ่มนำกำลังพล VDV ลงเพื่อยึดสนามบินได้สำเร็จอย่างง่ายดาย
เครื่องบินลำเลียงพล Ilyushin Il-76 จำนวน 18 ลำ บินขึ้นจากรัสเซีย เพื่อลำเลียงพล VDV ลงที่สนามบินแอนโตนอฟ เพื่อชยายแนวรบออกไป
แต่ก่อนที่เครื่องบินลำเลียงจะมาถึง ในช่วงที่เฮลิคอปเตอร์ถอนกลับไปเติมเชื้อเพลิงและกระสุน กองกำลังของยูเครนก็ออกจากเมืองโฮสโตเมลเข้าตีกลับ
ย้อนกลับไปเดือนมกราคม เมื่อรัสเซียไม่ถอนกำลังกลับจากการซ้อมรบของเบลลารุส และอังกฤษได้รับข่าวกรองชัดเจนว่าการรุกรานเพื่อยึดครองจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนแล้ว
ระหว่างวันที่ 18 ถึง 19 มกราคม เที่ยวบินจำนวนมากจากฐานทัพอังกฤษบินเข้ายูเครน เพื่อส่งมอบยุทโธปกรณ์สำคัญชุดแรก รวมทั้งเริ่มส่งข่าวกรองให้อย่างต่อเนื่อง
ยูเครนจึงวางกองกำลังไว้ใกล้สนามบิน โดยประกอบไปด้วยหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ฝึกร่วมกับนาโต้ กองกำลังจู่โจมทางอากาศของยูเครนที่มีต้นกำเนิดร่วมกันโดยโซเวียต และทหารอาสาจากประเทศจอร์เจีย
การโจมตีอย่างรวดเร็วก่อนที่ VDV จากกองพันที่ 11 และ 31 จะลงจอดได้หมด ทำให้ และปราศจากยานเกราะคุ้มกัน ทำให้ VDV เสียเปรียบ เที่ยวบินจู่โจมถูกเปลี่ยนเส้นทางมายังสนามบินเพื่อช่วยสนับสุนทางอากาศ แต่นั่นไม่เพียงพอจะทำให้กองทัพยูเครนล่าถอย ยูเครนปิดล้อมสนามบิน บีบให้ทหาร VDV ต้องหลบหนีเข้าไปในป่าใกล้เคียงสนามบิน
เครื่องบินลำเลียงทั้ง 18 ลำ หันหัวกลับเข้าเขตแดนรัสเซีย
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ทัพยานเกราะของรัสเซียปะทะกับกองกำลังยูเครนที่ป้อนกันเมืองอิวานเคียฟ ยูเครนทำลายสะพานเพื่อไม่ให้กองทัพรัสเซียผ่านไปโดยง่าย ทว่ายานเกราะส่วนหนึ่งก็ตีฝ่ามุ่งสู่สนามบินแอนโตนอฟ รวมทั้งยานเกราะ VDV
ระหว่างทาง แม้จะถูกซุ่มโจมตีเป็นระยะ แต่กองพันผสมชองรัสเซียก็เข้าถึงสนามบิน ตราวนี้เฮลิคอปเตอร์รัสเซียข้ามแดนมากว่า 200 ลำ
หน่วยรบพิเศษยูเครน หน่วยรักษาดินแดน และกองทหารอาสาจอร์เจีย สูญเสียประมาณ 200 นาย ก่อนล่าถอยเข้าไปกลับไปยังเคียฟ
แต่เวลา 1 คืน ที่ VDV ไม่สามารถรักษาสนามบินได้ พอที่จะทำให้ยูเครนเคลื่อนเครื่องบินขนาดใหญ่มาขวางรันเวย์ในระยะลงจอดของเครื่องบินลำเลียง และลากปืนใหญ่เข้าใกล้ พอที่จะยิงทำลายสนามบินไม่ให้อยู่ในสภาพใช้การได้เป็นระยะเวลานาน
เครื่องบินลำเลียงที่บินขึ้นอีกครั้งในเช้าวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ถูกเครื่องบินขับไล่ของยูเครนยิงตกสองลำ ก่อนจะหันหัวกลับเช่นเดิม
นับจากวันนั้น VDV เป็นหัวหอกในการโจมตีบริเวณโดยรอบเคียฟ ร่วมด้วยยานเกราะเบาและรถถังส่วนหนึ่งที่ตีฝ่าเช้ามาได้ แนวป้องกันยูเครนค่อยๆ ถูกทำลายหรือล่าถอยเข้าไปยังเมืองโดยรอบเช่นบูชาและเออร์พิน
แต่กองคาราวานลำเลียงยุทโธปกรณ์มาไม่ถึงตามกำหนดด้วยการซุ่มโจมตีจากกองกำลังพิเศษยูเครน และเมื่อไม่มีการส่งกำลังทางอากาศ ทำให้ขาดแคลนกำลังที่จะมุ่งเข้าตีเผด็จศึกโดยไว ยูเครนถ่วงเวลาพอตั้งแนวป้องกันไว้ได้สำเร็จ
กองกำลัง VDV ที่มียานเกราะเบาแบบ BTD และBTR-D (ยานเกราะบรรทุกพลขนาดเบา สามารถลำเลียงโดยเครื่องบินได้) เป็นพาหนะหลัก ถูกทำลายโดยยุทโธปกรณ์สำคัญจากอังกฤษ NLAW จำนวน 2,000 ชุด
ระหว่างการสู้รบสองสัปดาห์แรก ยานเกราะของ VDV ถูกทำลายจำนวนมาก ภาพยานเกราะพ่นสัญลักษณ์ V ถูกเผาไหม้ปรากฎทั่วตอนเหนือของเคียฟ
36 วันหลังจากนั้น ธงชาติยูเครนยังคงปลิวสไวอยู่เหนือกรุงเคียฟ ขณะที่รัสเซียประกาศลดกิจกรรมทางทหาร ถอนกำลังออกไปจากแคว้นเคียฟในวันที่ 1 เมษายน
==========
รัสเซีย เมืองเมืองคอสโตรว่า อันเป็นสถานที่ตั้งฐานทัพของกองพลร่มที่ 331 นั้น ครอบครัวของเราทหารต่างรอข่าวยืนยันสถานะของคนในครอบครัวอย่างเป็นกังวล
ในบรรดาผู้เสียชีวิตของ กรมทหารพลร่มที่ 331 นั้นมีตั้งแต่พันเอกเซอร์เก้ ซูคาเรฟ ผู้บัญชาการ ไปจนถึงนายทหารชั้นประทวน เซอร์เก้ โลบาเชฟ
บน VK ของโลบาเชฟ ภรรยาของเขาเขียนข้อความรำลึก
"เซอโรซ่า ผู้เป็นที่พึ่งพาเสมอมา ที่รักและสามีของฉัน บัดนี้คุณอยู่บนสวรรค์และจะปกป้องพวกเราจากบนนั้น คุณจะอยู่ในใจฉัน และเป็นวีรบุรุษของฉันตลอดไป"
ข้อความเช่นนี้ปรากฎบนหน้า VK มากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน ตามการประกาศเสียชีวิตอย่างเป็นทางการที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่เพียงข้อความเสียใจ รัก และรำลึก ชาวยูเครนที่เข้าถึง VK ได้ก็พากันเข้าไปโพสสาปส่งพวกเขา
สำหรับชาวยูเครน วีรบุรุษแห่งสมาพันธรัฐและผู้เป็นที่รักตลอดไปของกองพลร่มที่ 331 นั้น
พันเอกเซอร์เก้ ซูคาเรฟ เป็นที่รู้จักในนามเพชฆาตแห่งอิโลไวส์ ผู้คิดแผนการการปิดล้อมสังหารหมู่ทหารยูเครนหนึ่งพันนายที่เจรจาตกลงถอนกำลังออกจากการปิดล้อมเมืองในอิโลไวส์แคว้นดอนบาสตามเส้นทางที่ฝ่ายแยกดินแดนและรัสเซียเปิดให้
วันที่ 7 สิงหาคม 2014 เส้นทางถูกปิดเมื่อทหารทั้งหมดเคลื่อนขบวนเข้าไปในแนวยิงของรัสเซียและฝ่ายแบ่งแยกดินแดน จากทหารหนึ่งพันนาย มีประมาณหกร้อยนายที่ตีฝ่าออกไปได้สำเร็จ รวมทั้งสามารถจับกุมพลทหารของกรมทหารพลร่มที่ 331 ได้จึงรู้เบื้องหลัง
สำหรับชาวยูเครนแล้ว การตายของวีรบุรุษรัสเซีย คือการล้างแค้นที่ไม่สายเกินไป
ปฏิบัติการล้มเหลวในช่วงต้นสงคราม ไปจนถึงจุดอ่อนของ VDV ที่ถูกเปิดเผยในการรบเต็มรูปแบบในสงครามสมัยใหม่ครั้งแรก
VDV ไม่ได้เป็นกองกำลังที่เป็นที่หวั่นเกรงของคู่ขัดแย้งของรัสเซียอีกต่อไป
แต่สงครามยังไม่จบลง รัสเซียถอนกำลังออกไปเพื่อรวมกลุ่มใหม่
จุดอ่อนอาจถูกปรับปรุง ยุทธวิธีอาจจะเปลี่ยนไป ในการเปิดฉากบุกครั้งต่อไป
ขณะที่เช้าวันนี้ ธงชาติยูเครนยังถูกชักขึ้นในเคียฟ
[ยานเกราะสัญลักษณ์ V ที่ถูกทำลายบนถนนในยูเครน]
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
