9 เม.ย. 2022 เวลา 06:06 • หนังสือ
ชื่อหนังสือ: แปดขุนเขา (Le otto montagne)
ผู้เขียน: Paolo Cognetti
ผู้แปล: นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ
สำนักพิมพ์: อ่านอิตาลี
“…คงจะจริงอย่างที่แม่ว่า เราแต่ละคนมีความสูงของภูเขาที่ตนโปรดปราน มีทิวทัศน์ที่คล้ายคลึงกับตัวเราและเป็นที่ที่เราอยู่แล้วรู้สึกสบายใจ…”
แปดขุนเขาเล่าเรื่องราวของครอบครัวนักปีนเขา ที่ไปพักร้อนที่หุบเขาแห่งหนึ่งเป็นประจำในฤดูร้อน ที่นั่นพวกเขาได้เช่าบ้านของครอบครัวของเด็กชายคนหนึ่ง ที่กลายมาเป็นเหมือนคนในครอบครัวอีกคน เรื่องราวมิตรภาพระหว่างชายสองคนที่ยาวนานตั้งแต่เด็กจนเติบโต ‘ปิเอโตร’ และ ‘บรูโน่’ กับเส้นทางชีวิตที่แตกต่างกันของพวกเขา ซึ่งมีทั้งการแยกจากและกลับมาบรรจบกันอีกครั้ง
หนังสือแบ่งออกเป็น 3 ภาค ในภาคแรกเล่าเรื่องระหว่างชีวิตวัยเด็กของตัวละคร ค่อยๆปูเรื่องในส่วนแรกอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งทำให้เกิดความผูกพันกับทั้งตัวละครและสถานที่ ก่อนที่ในภาคที่สองจะเล่าถึงการกลับมายังหุบเขาของปิเอโตรและการเปิดเผยถึงอดีตของครอบครัวของเขา ซึ่งยิ่งตอกย้ำถึงบุคลิกตัวตนและการกระทำของพวกเขามากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเติบโตและการเลือกเส้นทางของแต่ละตัวละคร ส่วนในภาคที่สามเป็นการบอกเล่าเรื่องราวต่อมาตามเส้นทางของตัวละคร การยอมรับและเรียนรู้ในสิ่งที่ได้ผ่านเข้ามาของชีวิตของพวกเขา
ความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การรักษา
“หลังเสร็จพิธีศพอันเรียบง่าย ผมคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับความโดดเดี่ยวของพ่อ ซึ่งเป็นคล้ายๆความขัดแย้งกันอย่างถาวรระหว่างพ่อกับโลก พ่อตายในรถยนต์ของพ่อ และไม่มีเพื่อนร่ำไห้ถึงเลยสักคน ส่วนในตัวแม่นั้นผมกลับเห็นดอกผลของการทะนุถนอมความสัมพันธ์ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน หมั่นดูแลรักษาเช่นเดียวกับดอกไม้บนระเบียง ผมนึกสงสัยว่าพรสวรรค์แบบนี้คนเราเรียนรู้กันได้ไหม หรือว่าต้องเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เกิดเท่านั้น แล้วผมจะเรียนรู้ทันไหม”
1
หลังจากความตายอย่างตลกร้ายของพ่อ การกลับมายังหุบเขาของปิเอโตรเพื่อสร้างบ้านที่พ่อทิ้งให้ไว้ด้วยกันกับบรูโน่ ทำให้พวกเขาได้ย้อนกลับสู่วันคืนที่เคยผ่านมา ความสัมพันธ์ที่เคยขาดห้วงและหลงลืมไปได้เติมเต็มช่วงเวลาในชีวิตของพวกเขาอีกครั้ง
เมื่อเติบโตขึ้นชีวิตมีสิ่งที่ต้องเลือก คนเราอาจมีที่ทางเป็นของตัวเอง
“แล้วนายเกิดมาเพื่ออะไร”
“ฉันเกิดมาเพื่อเป็นคนภูเขา”
สำหรับบรูโน่นั้น การที่เคยได้ใช้ชีวิตเหมือนดังเช่นชายหนุ่มคนอื่นๆในหุบ หรือแม้แต่การเคยไปยังเมืองใหญ่หรือการเดินทาง ทำให้เขารู้สึกได้ว่ามีสิ่งหนึ่งที่เรียกหาเขาอยู่ลึกๆ นั่นก็คือที่ๆเขาได้เติบโตมา ส่วนปิเอโตรนั้นการเดินทางคือการค้นหาส่วนที่ขาดหายไปภายในของเขา
“นายคือคนที่ไปๆมาๆส่วนฉันคือคนที่ไม่ไปไหน เหมือนตลอดเวลาที่ผ่านมาไง”
ชีวิตไม่ได้มีแต่สิ่งชวนฝันแต่มีความเป็นจริงเป็นส่วนหนึ่งในนั้น
เขาพูดว่า “คนเราต้องทำสิ่งที่ชีวิตสอนให้ทำ ตอนอายุน้อยๆ อาจยังเลือกที่จะเปลี่ยนเส้นทางได้ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งควรหยุดและบอกตัวเองว่า เอาละ สิ่งนี้เราทำได้ สิ่งนี้ทำไม่ได้ ฉันนึกสงสัยขึ้นมาว่า แล้วฉันล่ะ ฉันอยู่บนภูเขาได้ อยู่บนนี้คนเดียว เอาตัวรอดได้ มันก็ไม่น้อยแล้วนะ นายว่าไหม แต่จะเห็นได้ว่าฉันต้องอายุ 40 ก่อนถึงรู้ว่ามันก็มีคุณค่าอยู่เหมือนกัน”
เช่นทางเลือกของบรูโน่ เมื่อภาพที่วาดฝันของเขาพังลง นั่นคือเรื่องจริง คือความเจ็บปวดที่เป็นจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม หรือชีวิตของปิเอโตรที่ในท้ายที่สุดเขาก็ได้รับรู้ว่าในบางครั้งความเจ็บปวดก็ไม่สามารถทำให้ลบเลือนไปได้ มีเพียงการยอมรับมันและมีชีวิตต่อไป
1
“…ผมได้เรียนรู้จากพ่อหลังจากหยุดตามพ่อขึ้นเขาเนิ่นนานหลายปี ว่าในชีวิตของคนเราบางคนมีภูเขาที่เราไม่อาจกลับไปได้อีก…”
1
สิ่งที่แปดขุนเขาให้ในระหว่างที่อ่านคือความรู้สึกที่สงบ ภาพภูเขา ทะเลสาบ ชานบ้าน เตาผิง การบรรยายที่ละเอียดทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนราวกับได้ติดตามตัวละครเข้าไปใกล้ๆจริงๆ และทำให้เราตระหนักว่ามีสิ่งที่อยู่มาก่อนหน้าเรา ธารน้ำแข็ง หิมะ ป่า หินผา ซากปรักหักพัง บันทึกในกล่อง เราเป็นเพียงคนที่ผ่านมาในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นและแน่นอนว่าจะจากไป และสิ่งเหล่านั้นคือของจริงที่สัมผัสได้ ความคิดต่างๆต่างหากที่มนุษย์สร้างขึ้นมา
1
นอกจากนี้ยังทำให้เราได้เห็นถึงสิ่งที่ช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจที่ซ่อนอยู่ในชีวิต เช่น การเดินทางปีนเขาของพ่อหรือการทำงานเพื่อผู้อื่นของแม่ของปิเอโตร หรือการเดินทางของเขาเอง การอยู่กับสิ่งที่คุ้นเคยอย่างบรูโน่ ที่เป็นเหมือนตัวตนอีกตัวตนที่พยุงชีวิตทั้งหมดเอาไว้ การมองภาพสะท้อนของตัวตนซึ่งกันและกัน สิ่งที่ขาดหายไปจากชีวิต ไม่ว่าจะเป็นพ่อของปิเอโตรที่มองเห็นภาพอดีตตัวเขาเองจากปิเอโตรและบรูโน่ ภาพตัวแทนของลูกชาย หรือภาพตัวแทนของพ่อที่ขาดหายไป
ที่น่าสนใจที่สุดคือแปดขุนเขาไม่ได้เป็นหนังสือที่ฉายให้เห็นแต่ด้านสวยงามชวนฝัน แต่สะท้อนให้เห็นความเป็นจริงข้างในนั้นด้วย ทำให้เราได้ฉุกคิดถึงสิ่งต่างๆที่เรารับมาจากภาพการนำเสนอในสื่อต่างๆว่าภาพที่เห็นนั้นเป็นเพียงด้านเดียวหรือไม่ บ่อยครั้งที่บางทีเราอาจหลงเคลิบเคลิ้มไปกับภาพตรงหน้าที่สวยงาม จนลืมไปว่ายังมีสิ่งอื่นที่ไม่สวยงามอยู่เป็นส่วนหนึ่งของมันด้วย เช่นเดียวกับภาพที่สวยงามของหุบเขาก็ยังมีสิ่งอันตรายเป็นส่วนเดียวกัน
1
“ดังนั้นนายก็คือคนที่เดินทางท่องไปบนแปดขุนเขา ส่วนฉันคือคนที่ขึ้นยอดเขาพระสุเมรุยังงั้นเหรอ” เขาถามเมื่อผมเล่าจบ
“เหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ”
“แล้วคนไหนได้ทำอะไรดีๆไว้บ้าง”
โฆษณา