10 เม.ย. 2022 เวลา 12:50 • คริปโทเคอร์เรนซี
เทรดไม่เก่ง ไม่อยากเฝ้าจอ ทำกำไรยังไง?!
ปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าหลายคนหันมาสนใจการเทรด Cryptocurrency เนื่องจากมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูง แต่ก็มีความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดเช่นกัน
ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการถือเหรียญไว้ยาวๆ หรือติดดอยแต่ไม่อยาก Cut loss สามารถนำเหรียญที่ถืออยู่มาสร้างกำไรได้ ผู้ลงทุนรายใหม่ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ Cryptocurrency และ Blockchain รวมถึงความเสี่ยงต่างๆ ก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Blockchain
สำหรับผู้ที่เทรด Cryptocurrency ใน Binance คงเห็น Function “Earn” ผ่านตากันมาบ้าง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการพักเงิน อยากถือเหรียญเก็บไว้ และยังไม่ต้องการเทรดหรือถอนออกมา
1
Earn เป็นการรวม Function ที่ให้เราเอาเหรียญที่กำหนดไปฝากไว้กับระบบ เพื่อให้ระบบไปใช้เพิ่มสภาพคล่อง โดยเราจะได้รางวัลตอบแทนมาเป็นเหรียญต่างๆตามเงื่อนไข ซึ่งถือว่าได้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง
แต่ละ Function จะได้ผลตอบแทนที่แตกต่างกันไป โดยหากความเสี่ยงสูงก็มักได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วย ดังนั้นจึงควรศึกษาความเสี่ยงให้ดี
โพสต์นี้จะอธิบายภาพรวมแต่ละ Function คร่าวๆ โดยรายละเอียดจะกล่าวในโพสต์ถัดไป
Binance Earn
  • Auto-Invest : เป็นการที่เราตั้งเวลาไว้เพื่อฝากประจำ เช่น กำหนดว่าทุก 1 เดือน จะซื้อ BNB 1 เหรียญ ดังนั้นระบบจะตัดเงินเราไปซื้ออัตโนมัติทุกๆ 1 เดือน เป็นการลงทุนแบบ DCA
  • Liquidity farming : เป็นการนำเหรียญ 2 ชนิด ที่ระบบกำหนดไปฝากไว้ เพื่อนำไปเพิ่มสภาพคล่อง และเราจะได้ค่าธรรมเนียมจากคนที่มาแลกเปลี่ยนคู่เหรียญนั้นๆ
  • Saving : เหมือนการเอาเหรียญไปฝากไว้ โดยระบบจะนำเหรียญที่เราฝากไปให้นักเทรด Margin คนอื่นๆยืม ซึ่งเราจะได้ดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทนทุกๆวัน
  • Staking : ให้เราถือเหรียญที่กำหนดไว้ในระบบ แล้วระบบจะนำไปค้ำประกันการยืนยันธุรกรรม (Proof of stake) และเราจะได้ดอกเบี้ยเมื่อฝากครบเวลาที่กำหนด
1
  • Pool : เป็น Platform การขุดเหรียญ Cryptocurrency และ Tokens ต่างๆผ่านการ Proof of work และ Proof of stake เหมาะสำหรับสายขุดเพราะสามารถนำเหรียญไปซื้อขายโดยตรงใน Binance ได้
  • ETH 2.0 : เป็นการนำ ETH ไป Staking เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยต่อปี โดยจะไม่สามารถถอนได้(ต้องฝากอย่างต่ำ 2 ปี) และจะได้เหรียญ BETH มาเป็นดอกเบี้ย
  • Dual investment : เป็นการฝากออมเงินและคาดเดาราคาเหรียญนั้นๆในอนาคต ถ้าเดาถูกก็จะได้ดอกเบี้ย
  • BNB vault : เป็นการฝากเหรียญ BNB เพื่อใช้บริการหลายๆอย่างพร้อมกัน เช่น Saving, Launch pool, DeFi โดยระบบจะแบ่งเหรียญกระจายไปลงทุนตามบริการต่างๆให้เราเอง
  • Launchpad : เป็นการนำเหรียญที่กำหนดไปฝากไว้ในระบบเพื่อจองเหรียญที่กำลังจะเปิดตัวใหม่ ซึ่งมักจะได้มาในราคาถูกกว่าปกติ
  • PolkaDOT auction : เป็นเหมือนการระดมทุน โดยฝากเหรียญ DOT ไป Stake ไว้เพื่อประมูล Project ต่างๆ บน Parachain
นอกจากนี้ การลงทุน Cryptocurrency ยังมีอีกหลายรูปแบบทั้งการเทรด (Trading) การขุด (Mining) และวิธีอื่นๆ ซึ่งมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน
วิธีการลงทุน Cryptocurrency
เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการถอนคริปโตจาก Bitkub
โฆษณา