เคยไหม?? ปวดหัวเพราะไม่ได้ดื่มกาแฟ เป็นเพราะอะไร!?
แม้ว่าจะมีการวิจัยจำนวนมากที่พิสูจน์ให้เห็นว่าการดื่มกาแฟเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่ามันมีสารเสพติดที่ทำให้ผู้คนติดกาแฟกันได้ง่ายๆ
หากคุณดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวันและพยายามที่จะเลิกดื่มอาจพบว่ามันยากที่จะเลิกคิดถึงรสชาติดีๆของกาแฟ แต่ที่มากกว่านั้นคือจะรู้สึกเหนื่อยมากกว่าปกติและมีอาการปวดศีรษะอีกด้วย
นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมการเลิกกาแฟจึงเป็นเรื่องท้าทาย:
คาเฟอีนจะติดอยู่กับตัวรับในสมองโดยยึดพื้นที่ในสารสื่อประสาทซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำหน้าที่สื่อสารระหว่าง synapses ในสมองที่เรียกว่าอะดีโนซีน(adenosine)
ซึ่งโดยทั่วไปจะทำให้คุณรู้สึกสงบและเยือกเย็นแต่เราก็จะเห็นว่าคาเฟอีนคือสิ่งที่ตรงกันข้าม สมองที่สับสนด้วยฤทธิ์ของกาแฟจะพยายามชดเชยด้วยการสร้าง adenosine ออกมามากขึ้น
จึงอธิบายได้ว่าหลังจากดื่มกาแฟมาตลอดเป็นปีๆและตัดสินใจที่จะเลิกดื่มมัน ร่างกายจะรู้สึกอ่อนล้ามากกว่าเดิมที่เคยเป็นมาตามธรรมชาติ เพราะ adenosine ที่มากขึ้นจะทำให้ร่างกายต้องการนอนหลับมากขึ้นกว่าเดิมและมีอาการติดกาแฟ (coffee addicts)ที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ
ในแต่ละวันไม่ควรดื่มกาแฟเกิน 4 แก้วต่อวัน(ปริมาณ 240 มิลลิลิตร ต่อ 1 แก้ว) หากไม่มีเหตุผลทางด้านสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์อย่างอื่น (เช่น นอนไม่หลับ) ก็ไม่จำเป็นต้องเลิกดื่มกาแฟ
เพราะจริงๆแล้วการดื่มกาแฟในปริมาณที่เหมาะสมในตอนเช้าก็เป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีได้ แต่หากคุณมีเหตุผลอื่นที่จะเลิกดื่มกาแฟก็ควรค่อยๆลดปริมาณลงไม่ใช่การหยุดดื่มในทันที
หากรู้สึกกังวลเกี่ยวกับความต้องการคาเฟอีนของร่างกาย ให้ระลึกไว้ว่า การดื่มกาแฟเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกดีตราบเท่าที่ดื่มในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ
Reference
6. Why Skipping Coffee Gives You a Headache, According to Science
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
