Tesla เลิกแถมสายชาร์จรถ แต่เปลี่ยนมาขายแทน ในราคา 13,500 บาท
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เรียกว่าเป็นข่าวฮือฮาครั้งใหญ่ หลัง Apple ประกาศไม่แถมหัวชาร์จและหูฟังแบบสายอีกต่อไป โดยระบุว่า จะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้มากขึ้น ทั้งเรื่องขยะที่น้อยลง และการขนส่งที่ใช้กล่องขนาดเล็กลง ซึ่งก็เกิดเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า นี่เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ Apple ใช้เพื่อลดต้นทุนลงมากกว่า
ล่าสุด Tesla ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลก เป็นอีกบริษัทที่ใช้แนวทางนี้เช่นกัน
โดยมีผู้ใช้งานทวิตเตอร์รายหนึ่ง พบว่า Tesla จะไม่แถมสายชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า NEMA 14-50 ซึ่งเป็นสายชาร์จไฟบ้านแบบ 4 ขา ให้กับรถยนต์ที่เพิ่งออกใหม่อีกต่อไป
และจะหันมาขายแทนในราคา 400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 13,500 บาท)
แต่ Tesla จะแถมแค่สายชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า NEMA 5-15 ซึ่งเป็นสายชาร์จไฟบ้านแบบ 3 ขาเท่านั้น จากเดิมที่ Tesla เคยแถมทั้งคู่
ซึ่งสายชาร์จ NEMA 5-15 สามารถชาร์จเพิ่มระยะได้เพียง 2-3 ไมล์ต่อชั่วโมง (ราว 3-5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) เท่านั้น ซึ่งนับว่าน้อย และเหมาะกับการชาร์จแบบข้ามคืนเท่านั้น
หลังจากที่มีรายงานดังกล่าว อีลอน มัสก์ CEO ของ Tesla ออกมาบอกถึงสาเหตุที่ไม่แถมให้ฟรี ก็เพราะว่า
“สายชาร์จดังกล่าว มีสถิติการใช้งานต่ำมาก และดูเหมือนเป็นการสิ้นเปลืองด้วย”
อย่างไรก็ดี หลังจากที่มีฟีดแบ็กเรื่องราคาที่หลายคนมองว่าสูงเกินไป
อีลอน มัสก์ ก็ได้ประกาศลดราคาจาก 400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 13,500 บาท) เหลือ 200 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,750 บาท)
พร้อมกับให้คำแนะนำว่า ทางที่ดีที่สุดในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ก็คือ การติดตั้งที่ชาร์จแบบติดผนังของ Tesla หรือเข้าใช้บริการที่สถานี Supercharger ของ Tesla แทน เพียงเท่านี้ก็ไม่ต้องง้อสายชาร์จดังกล่าวอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลายคนก็มองว่า สายชาร์จดังกล่าวยังมีความจำเป็น ในกรณีที่เดินทางไปในพื้นที่ที่ไม่มีสถานีชาร์จ ก็ยังต้องใช้สายชาร์จดังกล่าวเพื่อชาร์จกับปลั๊กไฟบ้านนั่นเอง
ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าค่ายอื่น ๆ เช่น Nissan Leaf, Ford Mustang Mach-E, รถยนต์ไฟฟ้าของ BMW ทั้งหมด ก็ยังคงแถมสายชาร์จอยู่เช่นกัน
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
