19 เม.ย. 2022 เวลา 01:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สินเชื่อแต่ละประเภท ทำไมคิดดอกเบี้ยไม่เท่ากัน?
หนี้สิน เป็นสิ่งที่หลายคนอาจจะไม่ได้อยากเป็น แต่บางครั้งก็จำใจต้องยอมกู้สินเชื่อเพราะความจำเป็นทางการเงินต่าง ๆ แต่เมื่อเรามีความต้องการกู้สินเชื่อเกิดขึ้น สิ่งที่ตามมาเมื่อเราเลือกใช้สินเชื่อก็อาจมีอาการสับสนกันได้ เพราะสินเชื่อมีมากมายหลายประเภท และสินเชื่อแต่ละแบบก็มีอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เท่ากัน
ในบทความนี้ เรามาทำความรู้จักกับสินเชื่อแต่ละประเภทกัน เพื่อที่จะได้เลือกสินเชื่อได้ตรงกันโจทย์ที่วางเอาไว้ และได้รับดอกเบี้ยที่เหมาะสม
รู้หรือไม่ ? สถาบันการเงินก็กลัวว่าถ้าให้วงเงินกู้ไปแล้ว ลูกหนี้จะไม่สามารถชำระคืนได้
โดยปกติแล้วธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อเรานั้น ก็มีความเสี่ยงที่ผู้กู้จะ “ไม่สามารถชำระหนี้คืนได้ (Default Risk)” ทำให้ก่อนกู้สินเชื่อ ต้องมีขั้นตอนในการตรวจสอบขอเอกสารค่อนข้างเยอะ ทั้งดูหลักฐานการเงินและแหล่งที่มาของรายได้
โดยในบางกรณีก็มีการเรียกขอ “หลักประกัน” เพื่อธนาคารจะได้มั่นใจว่า หากผู้กู้ไม่สามารถชำระได้ก็สามารถยึดหลักประกันเพื่อนำไปแปลงสภาพเป็นเงินสดกลับคืนมา ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของสินเชื่อที่เราขอกู้ รวมถึงความเสี่ยงที่เราจะผิดนัดชำระ ยิ่งเสี่ยงน้อยธนาคารก็ยิ่งสามารถให้ดอกเบี้ยที่ถูกได้ และถ้ามีหลักประกันก็จะยิ่งถูกคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ลดลง โดยสินเชื่อหลัก ๆ จะประกอบไปด้วย 5 ประเภทหลัก ได้แก่
  • สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (สินเชื่อบ้าน)
เป็นสินเชื่อที่ใช้เงินจำนวนมากและมีระยะเวลาในการผ่อนชำระนานที่สุด การขอสินเชื่อประเภทนี้ธนาคารจะมีการเรียกขอ “หลักประกัน” จากผู้ขอสินเชื่อ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือ โฉนดหรือตัวบ้านที่ทำการกู้สินเชื่อ และการที่มีบ้านเป็นหลักประกันนั้นทำให้ธนาคารมีความปลอดภัยมากขึ้น จึงสามารถให้ดอกเบี้ยได้ค่อนข้างต่ำเฉลี่ยอยู่ที่ 5-6% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยตลาด ณ ช่วงเวลานั้น ๆ ด้วย
โดยเหตุผลที่ทางธนาคารสามารถให้ดอกเบี้ยของสินเชื่อเพื่อที่อาศัยได้ค่อนข้างต่ำ เพราะหากผู้กู้ผิดนัดชำระหนี้ ก็สามารถนำที่อยู่อาศัยไปขายทอดตลาดได้นั่นเอง
  • สินเชื่อส่วนบุคคล
สินเชื่อประเภทนี้ เป็นสินเชื่อที่ไม่กำหนดวัตถุประสงค์การกู้ยืม ผู้กู้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในทางใดก็ได้ โดยทั่วไปจะกำหนดวงเงินอยู่ที่ 5 เท่าของรายได้ ไม่ต้องใช้หลักประกันใด ๆ ทำให้สินเชื่อส่วนบุคคลมีดอกเบี้ยที่สูง เพราะธนาคารต้องแบกรับความเสี่ยงสูง แต่ด้วยความง่ายและรวดเร็ว ทำให้คนส่วนใหญ่ใช้บริการกันค่อนข้างมาก โดยดอกเบี้ยจะอยู่ที่ประมาณ 15-25% (ไม่นับรวมหากมีโปรโมชั่น) และสามารถแบ่งชำระค่างวดเป็นรายเดือนเท่า ๆ กัน โดยมีการกำหนดวันนัดชำระล่วงหน้าที่แน่นอน
  • สินเชื่อบัตรเครดิต
สินเชื่อบัตรเครดิตเป็นการอนุมัติสินเชื่อล่วงหน้าโดยให้สิทธิในการใช้บริการในรูปแบบบัตร สามารถนำไปใช้รูดชำระสินค้าและบริการแทนเงินสดได้ โดยจะมีวงเงินกำหนดไว้ตามฐานรายได้ การชำระเงินจะเกิดขึ้นในรอบบัญชีที่กำหนดไว้ ซึ่งหากชำระล่าช้าก็จะมีการคิดดอกเบี้ยย้อนหลังในยอดนั้น ๆ ที่ค้างชำระ โดยทั่วไปแล้วจะมีดอกเบี้ยอยู่ที่ 18% ขึ้นไป
1
  • สินเชื่อบัตรกดเงินสด
สินเชื่อประเภทนี้จะคล้ายกับสินเชื่อส่วนบุคคล แต่เป็นการใช้บริการผ่านรูปแบบบัตรเหมือนสินเชื่อบัตรเครดิต โดยผู้ใช้งานสามารถถอนเงินสดจากบัตรกดเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็ม เหมือนเป็นการยืมเงินออกมาใช้ โดยจะมีดอกเบี้ยอยู่ที่ 18-25% โดยประมาณ
  • สินเชื่อธุรกิจ
สินเชื่อธุรกิจ เป็นสินเชื่อที่นำมาช่วยให้คนที่ทำธุรกิจมีเงินสดไว้สำหรับการหมุนเวียนธุรกิจ หรือสามารถมีเงินก้อนนำไปลงทุนขยายธุรกิจ ขยายสาขา รวมถึงการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ๆ ก็สามารถใช้ประโยชน์จากสินเชื่อประเภทนี้ได้
โดยดอกเบี้ยของสินเชื่อธุรกิจนี้ จะมีดอกเบี้ยที่สูงกว่าสินเชื่อบ้าน มีทั้งแบบมีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน โดยอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับมูลค่าหลักประกันเมื่อเทียบวงเงินกู้ ซึ่งสินเชื่อสำหรับธุรกิจเองก็มีแบ่งประเภทย่อยลงไปตามความเหมาะสมของการให้บริการด้วย
ยิ่งเราทำให้สถาบันการเงินมั่นใจได้มากเท่าไหร่ว่าเราจะสามารถชำระเงินคืนได้ตามที่ตกลงกัน อย่างการมีประวัติทางการเงินที่มั่นคง มีสินทรัพย์ มีหลักประกัน และ ความชัดเจนของการนำเงินไปใช้ ก็จะยิ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับธนาคารว่าไม่ได้นำเงินไปเสี่ยงและ ราก็จะถูกคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำลงมากเท่านั้น
สินเชื่อนั้นเป็นการกู้ยืมเงินที่เราต้องทำการจ่ายคืนตามข้อกำหนดและสัญญาที่ได้ทำไว้ ดังนั้น การศึกษาสินเชื่อแต่ละประเภทในแต่ละสถาบันการเงินให้ละเอียดถี่ถ้วนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะหากเราไม่เข้าใจหรือเลือกใช้ไม่ตรงโจทย์ก็อาจจะทำให้เสียค่าใช้จ่ายแพง และยิ่งหากไม่มีกำลังในการผ่อนชำระแล้วก็จะกลายเป็นหนี้สินที่ติดตัวไปอีกด้วย
*หมายเหตุ*
สำหรับผลิตภัณฑ์ทางด้านสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารมีผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย รองรับทุกความต้องการ อาทิเช่น สินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเพื่อรีไฟแนนซ์ที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่น หรือสินเชื่อบ้านแลกเงิน ที่สามารถนำเงินไปใช้ได้อเนกประสงค์ โดยที่สินเชื่อมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ยอดผ่อนชำระต่อเดือนต่ำ และระยะเวลากู้นาน เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของลูกค้าที่ต้องการสินเชื่อดังกล่าว
นอกจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารยังมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล ที่ตอบสนองทุกความต้องการทางการเงิน ซึ่งเป็นสินเชื่อที่ลูกค้าสามารถกู้เพื่อนำเงินไปใช้ได้อเนกประสงค์ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ระยะเวลากู้นานถึง 60 เดือน ส่งผลให้ค่างวดต่อเดือนต่ำ ไม่เป็นภาระต่อลูกค้า
โฆษณา