เกาหลีใต้จากป่วยโควิดหลักแสน สู่การเปิดประเทศ ปชช.แห่เที่ยวต่างแดน
• เกาหลีใต้ยกเลิกมาตรการควบคุมโควิดในประเทศ คงไว้แต่การสวมใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งจะมีการพิจารณายกเลิกในอีกสองสัปดาห์หากสถานการณ์โควิดคงที่
• ไม่ใช่แค่ต่างชาติเท่านั้นที่เดินทางเข้ากรุงโซล แต่ชาวเกาหลีใต้เองก็แห่จองตั๋วเครื่องบินเที่ยวต่างประเทศ จนเกิดปรากฏการณ์ 'Revenge Travel' หรือเที่ยวให้หายแค้นใจ หลังต้องอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมโรคมาเป็นแรมปี
• ถึงแม้จำนวนผู้ป่วยจะพุ่งสูงเกาหลีใต้ก็ได้หลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์แบบปิดประเทศแบบเต็มรูปแบบขณะที่เกิดการแพร่ระบาด ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัว 4 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2564 ผู้เชี่ยวชาญชี้การยกเลิกมาตรการโควิดในครั้งนี้ขึ้นอยู่กับสองปัจจัยหลัก คืออัตราการแพร่ระบาดและจำนวนเตียงที่เหลือของโรงพยาบาล
เมื่อเดือน มี.ค 65 ที่ผ่านมาเกาหลีใต้ต้องเผชิญกับตัวเลขผู้ป่วยโควิดทะลุแสนรายจากการแพร่ระบาดของโรคโควิดสายพันธุ์โอมิครอน หลังจากระยะเวลาผ่านไปราว 4 เดือน ตัวเลขผู้ป่วยในเกาหลีใต้ลดลงอย่างมากจนเหลือต่ำกว่า 50,000 ราย นำไปสู่การประกาศยกเลิกมาตรการโควิด หลังจากที่ถูกบังคับใช้ครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2563
ส่วนข้อบังคับสวมใส่หน้ากากอนามัยยังถูกบังคับใช้ต่อไปอีกราว 2 สัปดาห์ เพื่อให้ทางการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศ
ส่วนการทานอาหารในโรงภาพยนตร์ สถานออกกำลังกาย และศาสนสถาน จะเปิดทำการในวันที่ 25 เม.ย 65 ส่วนชาวเกาหลีใต้เองก็เก็บกดจากการอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมโรคระบาดเช่นการเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นแรมปี ทำให้หลายคนแห่เที่ยวให้หนำใจให้หายแค้นหรือ 'Revenge Travel'
รัฐบาลเกาหลีใต้ได้เริ่มปรับมาตรการเพื่อกลับสู่ภาวะปกติตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่แผนการดังกล่าวต้องถูกพับไป หลังเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในช่วงฤดูหนาวจนถึงต้นฤดูใบไม้ผลิ
ถึงแม้จำนวนผู้ป่วยจะพุ่งสูงเกาหลีใต้ก็ได้หลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์แบบปิดประเทศแบบเต็มรูปแบบขณะที่เกิดการแพร่ระบาด ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัว 4 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2564 นับเป็นตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจรายปีที่สูงที่สุดในรอบ 11 ปี ซึ่งหากเปรียบเทียบความสมดุลระหว่างตัวเลขผู้ติดเชื้อ และยอดผู้เสียชีวิตในเกาหลีใต้ จะพบว่าเกาหลีใต้นั้นเป็นอีกประเทศหนึ่งบังคับใช้มาตรการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตต่อประชากร 1 ล้านคนในเกาหลีใต้นั้นใกล้เคียงกับสิงคโปร์ และน้อยกว่าสหรัฐอเมริกาถึง 10 เท่า
การยกเลิกมาตรการควบคุมโรคจะนำไปสู่การแพร่ระบาดอีกระลอกหรือไม่
ด้านนักวิชาการตั้งคำถามว่า การยกเลิกมาตรการในครั้งนี้นั้นจะนำไปสู่การแพร่ระบาดอีกระลอกหรือไม่ ด้านแพทย์หญิง อลิส แทน แพทย์อายุรกรรม ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์อารีรัง ว่า เกาหลีใต้นั้นยังมีความเสี่ยงที่ต้องเผชิญกับโควิดอีกระลอกเนื่องจากถึงแม้ประชาชนจะฉีดวัคซีนเข้มกระตุ้นหรือเข็มที่สามกันจำนวนมากแล้ว แต่ประสิทธิภาพของวัคซีนนั้นเริ่มลดลงเรื่อยๆ แต่อย่างไรก็ตามหากจะเกิดการแพร่ระบาดอีกระลอกหลังจากนี้ก็เป็นการแพร่ระบาดที่ไม่รุนแรงเท่ากับที่เคยเผชิญ
การผ่อนปรนมาตรการต่างๆ นั้นมีสองปัจจัยสำคัญ คือจำนวนเตียงโรงพยาบาลรวมถึงที่ว่างในห้องไอซียู และอัตราการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งขณะนี้อัตราการแพร่ระบาดของโควิดในเกาหลีใต้อยู่ที่ 270 คนต่อจำนวนประชากร 1,000 คน นับว่าเป็นตัวเลขการแพร่ระบาดที่ยังสูง ในทางกลับกันเกาหลีใต้มีผู้ใช้เตียงผู้ป่วยน้อยกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ทำให้คาดการณ์ว่ายังพอเพียงในการรักษาผู้ป่วยหากเกิดการแพร่ระบาดซ้ำอีก แต่ปัญหาที่มีโอกาสเกิดขึ้นคือการตรวจโรคที่ไม่ทั่วถึงที่ทำให้ไม่พบสัญญาณการแพร่ระบาดระลอกใหม่
การประกาศยกเลิกมาตรการโควิดเกิดขึ้นหลังจากที่ตัวเลขผู้ป่วยในประเทศแตะจุดสูงสุดในเดือนมีนาคม 65 ที่เกาหลีใต้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายวัน มากกว่า 600,000 ราย ส่วนวันศุกร์ที่ผ่านมามีผู้ป่วยรายวัน 125,846 ราย
เปิดพรมแดนรับนักท่องเที่ยว
การชั่งน้ำหนักระหว่างควบคุมโรค และการเดินหน้าเศรษฐกิจอย่างสมเหตุสมผล ทำให้เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่เดินหน้าเปิดรับนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศทั่วโลกโดยไม่ต้องกักตัวในวันที่ 27 มี.ค 65 ที่ผ่านมาโดยนักเดินทางต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดส และได้ลงทะเบียนยืนยันประวัติการฉีดวัคซีนสามารถเดินทางเข้าประเทศเกาหลีใต้ได้โดยไม่ต้องกักตัวสังเกตอาการ 7 วัน แต่นักเดินทางยังคงต้องแสดงผลตรวจเป็นลบก่อนเข้าประเทศ
สนามบินนานาชาติอินชอน ของเกาหลีใต้ ระบุว่า ได้รองรับนักท่องเที่ยว 20,000 คน ต่อวันหลังจากเปิดพรมแดนครั้งแรกในรอบ 2 ปี ซึ่งถึงแม้ว่าจำนวนนักเดินทางจะยังไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนหน้าโรคระบาด ที่สนามบินเคยรับนักเดินทาง 200,000 รายต่อวัน แต่นับว่าเป็นก้าวสำคัญของการทยอยรับนักเดินทางกลับเข้าเกาหลีใต้
ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกาหลีใต้ ระบุว่า มาตรการกักตัวต่างๆ อาจจะถูกบังคับใช้อีกครั้งขึ้นอยู่กับสถานการณ์โรคระบาด ของแต่ละประเทศ และหากมีไวรัสสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้น
ชาวเกาหลีใต้แห่เที่ยวให้หนำใจ 'Revenge Travel'
ไม่ใช่แค่เพียงนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้นที่ต้องการเดินทางไปยังเกาหลีใต้ ชาวเกาหลีใต้เองก็เก็บกดจากการอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมโรคระบาดเช่นการเว้นระยะห่างทางสังคมเป็นแรมปี ทำให้หลายคนแห่เที่ยวให้หนำใจให้หายแค้น 'Revenge Travel' โดยชาวเกาหลีใต้จำนวนมากได้จองตั๋วเครื่องบินท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ทำให้ดีมานด์การท่องเที่ยวพุ่งสูง ทำให้เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่ผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรคระบาดให้ประชาชนสามารถปรับตัวกลับมาใช้ชีวิตอีกครั้งเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ อย่าง สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
ขณะที่ผลโพลชี้ว่า ชาวเกาหลีใต้กังวลว่าจะติดโรคโควิด-19 น้อยลง และมองว่าการป้องกันการแพร่ระบาดนั้นเกินความสามารถของคนทั่วไป ในขณะที่ยอดขายตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศของ เอสเค เทเลคอม เพิ่มขึ้นกว่า 8 เท่าตัว เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ด้านคิม บู-คยอม นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ระบุว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิดสายพันธุ์โอมิครอนมีสัญญาณการแพร่ระบาดที่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 65 ซึ่งขณะที่สถานการณ์เริ่มทรงตัว และความสามารถในการรองรับผู้ป่วยในระบบสาธารณสุขได้รับการยืนยัน รัฐบาลเกาหลีใต้จึงตัดสินใจทำสิ่งที่ท้าทายในการยกเลิกมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
นอกจากนี้เกาหลีใต้ยังได้ลดระดับโรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่อระดับสองในเดือนหน้า ก็จะทำให้ผู้ที่ถูกตรวจพบว่าติดโรคโควิด-19 ไม่ถูกบังคับให้กักตัวตามกฎหมาย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญ ชี้ว่า ถึงแม้จะมีการลดระดับโรคระบาดโควิด-19 แต่ไม่ได้หมายความว่าผลกระทบจากโรคจะจางหายไป ตัวเลขผู้ป่วยรายวันที่ยังสูงหมายความว่าจะมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษามากขึ้นตามไปด้วยและยังคงต้องจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิดหลังจากนี้.
ที่มา: Reuters, Arirang, ft, Washingtonpost
- 45
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
