21 เม.ย. 2022 เวลา 01:37 • สุขภาพ
Case study
คนไข้ชาวจีนเพศหญิง อายุ 45 ปี มาด้วยอาการอ่อนเพลียช่วงบ่าย 2 ปี
ปกติแล้วคนไข้เป็นคนที่ค่อนข้างใส่ใจกับสุขภาพ ก็มักจะมีการซื้อสมุนไพรต่างๆ อาหารเสริมต่างไป มารับประทานเป็นประจำ
ใน 2 ปีที่ผ่านมานี้ คนไข้รู้สึกว่าตัวเองอ่อนเพลียบ่อยๆ โดยเฉพาะช่วงบ่ายๆก็จะง่วงและเพลียมาก คนไข้เข้าใจว่าร่างกายอ่อนแอจึงสรรหาสมุนไพรบำรุงที่ราคาแพง มีฤทธิ์ที่แรง เช่น โสมเกาหลี ถั่งเช่า ฯลฯ และยาโป๊ว ยาบำรุงต่างๆมารับประทาน แต่รับประทานเรื่อยๆระยะหนึ่งอาการไม่ได้ดีขึ้นแถมอาการยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แถมมีอาการเบื่ออาหาร ขับถ่ายบ่อยและเหลว จึงตัดสินใจมาหาแพทย์แผนจีนที่แผนกของผม
จากการวินิจฉัยทางแพทย์แผนจีน เริ่มจากการวิเคราะห์สีหน้าคนไข้ไม่ซีดแต่แดงคล้ำเล็กน้อย ดูลิ้นมีลักษณะฝ้าเหลืองหนา ชีพจรลื่นและแรง จากการสอบถามพฤติกรรมก็ได้ข้อมูลดังที่กล่าวไว้ข้างบน
จากการวิเคราะห์ก็สรุปได้ว่าอาการของคนไข้คนนี้ เกิดจากการที่ปกติมีการกินทั้งสมุนไพร ทั้งอาหารเสริมต่างๆหลากหลายชนิดมากจนเกินไป ยาบำรุงส่วนใหญ่ก็จะมีฤทธิ์ร้อน (热)และมีฤทธิ์เหนียว (腻) และเมื่อทานเป็นประจำ ก็จะทำให้ร่างกายเกิดสภาะม้ามร้อนชื้น (湿热困脾) "ม้าม" ในทางแพทย์แผนจีนจะเกี่ยวข้องกับระบบย่อยและเผาผลาญ สรุปแบบภาษาชาวบ้านก็คือ ระบบย่อยเกิดปัญหาไม่สามารถย่อยและดูดซึมได้เต็มที่ คนไข้ก็เลยมีอาการเบื่ออาหาร อ่อนเพลีย การขับถ่ายผิดปกติ
เมื่อทราบปัญหาแล้วผมจึงให้คนไข้หยุดทานยาบำรุงและอาหารเสริมทุกชนิดก่อน จากนั้นก็จะให้ยาสมุนไพรจีนที่มีฤทธิ์ในการขจัดความชื้น ฟื้นฟูระบบย่อย เช่นตำรับยา หวงเหลียนเวินต่านทัง คนไข้รับประทานตำหรับนี้ 20 วัน ก็หายจากอาการเพลียที่เป็นมา 2 ปี
การรักษาด้วยแพทย์แผนจีนไม่จำเป็นต้องใช้ยาบำรุงแพงๆเสมอไป แค่ใช้ยาธรรมดา แต่ใช้อย่างถูกต้องให้ถูกโรคก็จะเห็นผลได้ ดี
โสมและสมุนไพรบำรุงอีกหลายชนิดเป็นของดีครับ แต่ว่า "ยาบำรุง"แต่ละชนิด ต้องใช้อย่างถูกต้อง ไม่ได้เหมาะกับทุกคนครับ
โสม
โฆษณา