23 เม.ย. 2022 เวลา 19:36 • ปรัชญา
“การมีสัมมาคารวะ”
คนเรานี้มันอยู่ในโลกของสมมติ ที่มีสูงมีต่ำ มีผู้มีพระคุณ มีผู้ที่เราจะต้องยกย่องเทิดทูนบูชาให้อยู่เหนือเศียรเกล้าของเรา เพราะบุคคลเหล่านี้เขามีคุณมีประโยชน์กับเรามาก เพราะถ้าไม่มีเขาเราก็จะไม่มีเรา อย่างเช่นพ่อแม่ถ้าไม่มีพ่อแม่เราจะไม่มีร่างกายอันนี้ เราจะไม่สามารถมานั่งฟังเทศน์ฟังธรรมกันได้ บุญคุณของพ่อแม่นี้ยิ่งใหญ่เหนือฟ้าที่เราต้องรำลึกถึงต้องเทิดทูนบูชาผู้ที่ให้พระคุณแก่เรา เช่นพ่อแม่ของเราให้กำเนิดกับเรา แล้วก็พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็จะให้ทางสู่การหลุดพ้นกับเรา
ถ้าไม่มีพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ เราก็จะต้องติดอยู่ในคุกตะรางของการเวียนว่ายตายเกิดไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด แต่พอมีพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์มาก็เหมือนกับมีการอภัยโทษ พอมีพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ปรากฎขึ้นมาในโลกนี้ ก็เหมือนกับการเปิดประตูคุกตะรางให้ผู้ที่ติดคุกติดตะรางนี้ได้ออกมาได้ คุณของพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์นี้จึงยิ่งใหญ่กว่าคุณของบิดามารดาเสียอีก เพราะบิดามารดาให้เพียงแต่เรามาเกิดมีร่างกายนี้เท่านั้น แต่ก็ยังให้เราติดคุกอยู่ไม่สามารถช่วยให้เราพ้นออกจากคุกออกจากตารางไปได้ ไม่มีคำสอน มีพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ที่จะบอกทางให้กับพวกเราให้ออกจากออกจากตารางไป
บุคคลที่สำคัญบุคคลที่มีพระคุณนี้เราจึงต้องให้ความเคารพ เราต้องอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้หลักผู้ใหญ่ เพราะท่านจะได้มีความเมตตากับเรา มีอะไรท่านก็จะแบ่งให้เราช่วยเราได้ก็จะยินดีช่วยเหลือเรา แต่ถ้าเราทำเป็นคนที่ไม่มีสัมมาคารวะไม่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนนี้ เขาก็ไม่อยากจะช่วยเหลือเรา เพราะเห็นแล้วว่าช่วยไปก็ไม่เป็นประโยชน์อะไร คนแบบนี้เป็นคนที่ไม่รู้จักบุญคุณของผู้อื่น ทำไปแล้วก็เสียเวลาไปเปล่า ดีไม่ดีอาจจะถูกเขาทำร้ายได้ก็ได้ วันดีคืนดีอาจจะทำให้เขาโกรธขึ้นมาเขาก็อาจจะทำร้ายเราได้
นี่คือบุญที่เกิดจากการมีการอ่อนน้อมถ่อมตน จากการมีสัมมาคารวะ การอ่อนน้อมถ่อมตนก็จะสบาย ไม่ต้องไปยืนยันให้คนอื่นรู้ว่าเราเก่งอย่างนั้นเก่งอย่างนี้ เราอย่างนั้นเราอย่างนี้ ทำตัวให้เราโง่ดีกว่าทำตัวให้เราจนดีกว่า เราจะได้ไม่ต้องไปพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเราฉลาดเรารวย เราก็จะอยู่อย่างสบาย ไม่ต้องมีใครมาคอยทดสอบความเก่งความรวยของเรา อันนี้ก็คือผลที่เราจะได้รับ จะทำให้ใจเราสงบสบายไม่ต้องวุ่นวาย
ธรรมะบนเขา
วันที่ ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๐
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
โฆษณา