24 เม.ย. 2022 เวลา 14:56
ความบังเอิญ หรือ พรหมลิขิต
หลายคนที่มีความเชื่อในเรื่อง 'Destiny' ก็มีความเป็นไปได้ ของการกลับมาพบกันเพื่อทำภารกิจและแยกย้าย มีพบ มีจาก ตามแรงบุญ-กรรมที่ทำร่วมกันมา ไม่มีคำว่าบังเอิญ ในทางพุทธศาสนา
ในชีวิตเราเคยได้ยินอีกคำหนึ่งจากบทสนทนาของเพื่อนชายที่เคยชอบพอกันสมัยเป็นที่ปรึกษา คำว่า 'Serendipity' เคยฟังนะ เข้าใจแต่ไม่อิน จนมาวันนี้ พอนั่งใช้สมองลำดับเรื่องราว เหตุการณ์ในชีวิตช่วงนี้ กลับพบอะไรบางอย่างที่ทำให้คำนี้ กลับมาชนที่กล่องความจำอีกครั้งจนตัดสินใจเขียนบันทึกนี้
กฎของแรงดึงดูด ก็มีส่วนในการนำพาคนสองคน ที่ต่างอาชีพ ต่างเวลา ต่างฐานะ ต่างสังคม มาเจอกัน บางคู่ เคยพบ เคยเห็น ผ่านตา ผ่านการบอกเล่าแต่ ยังไม่เคยได้ทำความรู้จักกันด้วยซ้ำ
บางครั้งโชคชะตาก็เล่นตลก เหมือนเรื่องของเราที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้
เราได้รู้จักผู้ชายคนหนึ่งผ่านเพื่อนสาวเรามานานมาก เห็นมานาน แต่ ไม่สนใจ เพราะไม่ใช่แบบที่เราชอบเลย ดูกะล่อน เจ้าชู้ ปากหวาน เล่นกล้ามเป็นคนแบบถ้าเจอภายนอกคือไม่ชอบ เขาเคยติดตามเราและเลิกติดตามไป เพราะ คิดว่าเราหยิ่ง ดูเป็นคนซีเรียส เวลาผ่านไปเป็นปี กลับมาเจอกันอีกครั้ง โดยน้องสาวอีกคน ที่เรารู้จักร่วมกันแนะนำว่าลองคุยกันดูได้
เป็นช่วงที่เราเลิกกับคนที่คบพอดีแบบเป็นรอยต่อที่พอดีมากในใจก็เบื่อไม่อยากคุยแล้ว คิดอีกทีลองคุยแก้เหงา เศร้า เผื่อได้เพื่อนสักคน
จากวันแรกที่คุยกลายเป็นทุกวันที่คุย แปลกที่เขาทำให้เราไม่เบื่อ ที่จะตอบ ทั้งที่เราไม่มีความรู้สึกอะไรในตอนนั้นเลย จนวันหนึ่งมันแปลกจนเราต้องถามว่า ที่คุยกันทุกวันนี่ต้องการอะไร คิดอะไร พอได้คำตอบก็อึ้งไป เลยถามต่อ อยากรู้จักจริงจังเหรอคะ เพราะไม่เคยเจอคนตรงไปตรงมา แสดงอารมณ์ชัดเจนแบบคลั่งรักชัดเจน 555 ไม่มีมาด ไม่มีอะไรให้ต้องเดา คือ เป็นครั้งแรกที่เราเจอผู้ชายแบบนี้ในชีวิต แบบที่ไม่คิดจะชอบถ้าแรกเจอ
พอรู้ความรู้สึก สมองเราก็เริ่มทำงานเอาไงดี จะไปต่อ หรือพอแค่นี้ กลัวคนแบบนี้จัง แต่มันน่าแปลกตรงไหนรู้ไหม ชื่อของเขาเป็นชื่อที่เราเคยสงสัยว่าถ้าเราจะตั้งชื่อลูกเราแบบนี้ โตขึ้นเวลาเขามีคนรักจะอายไหมถ้าต้องชื่อนี้ ที่สุด!! 555 เรากลับเจอผู้ชายที่ชื่อเดียวกับที่เราสงสัย ตอนนี้เข้าใจละ เข้าใจดีมาก นี่เป็นหนึ่งในความบังเอิญที่เรียกว่าโชคชะตาเล่นตลกจริงๆ
หลังจากนั้นมีเรื่องพีคกว่าเมื่อความสัมพันธ์ ของเราทั้งคู่ถูกทดสอบด้วยเคสที่เรียกได้ว่าทุเรศ ควรเลิกคบกันไปเลย เหตุการณ์นี้สร้างบททดสอบไม่ใช่แค่เรา เพื่อนเรา และผู้ชายคนนี้ ทุกคนผ่านมันมาด้วยกัน หนักหนาพอสมควร
แต่...เรายังให้โอกาส และตัดสินใจคบต่อ เพราะใจเราจะให้โอกาสหนึ่งครั้งสำหรับความผิด และ เขามีบางอย่างที่เซนส์เราบอกว่า เธอควรรู้จักคนๆนี้ให้ดี มองให้ทะลุข้ามเปลือกที่เธอไม่ชอบทั้งหมดไปซะ
ใช่ !! ยากมากที่จะเปิดใจ ทำความเข้าใจกับตาบ้า ซื่อบื่อ และทำตัวแบบไม่น่าให้อภัยแต่เราก็ทำ มาๆ มาคุยต่อระหว่างที่เราอาการดิ่งกำเริบหนักจากเหตุการณ์นี้ ความบ้ามาเต็มพิกัด ร้องไห้ทุกวัน กินเหล้าแทนน้ำ ยานอนหลับก็จับกรอกปาก แต่เขาก็ยังอยู่ ปฏิบัติกับเราเหมือนคนปกติ เหมือนดูแลเด็กงอแง และทำความเข้าใจกับคนที่เป็นอาการนี้ จนเราหายบ้าชั่วขณะหนึ่ง มาหัวเราะกับตัวเองที่ต้องนั่งหาข้อมูลส่งให้ตามที่เขาขอเพราะอยากทำความเข้าใจอาการของคนที่เคยป่วยแบบนี้ และอยากเข้าใจเรา ขอบคุณที่จริงใจ ขอบคุณที่อดทน
จนทุกอย่างดีขึ้นเป็นปกติ เราทั้งคู่ต่างรู้จักกันมากขึ้นไปอีก และเริ่มเปิดด้านของชีวิตให้กันและกัน เรากลับพบว่า ส่วนหนึ่งของชีวิตเขา ช่วงเวลานี้ คือเราเมื่อสิบกว่าปีก่อน เหมือนเราส่องกระจกเห็นตัวเองในร่างผู้ชายตรงหน้า เรื่องราวอันแสนเศร้าที่ยากจะหาใครมาเข้าใจ ความเจ็บปวดและเก็บกด มันคือเรื่องของเราในตัวเขาช่วงนี้นี่เอง วิญญาณแม่กางปีกเริ่มมาเราเริ่มเอาใจตัวเองซ้อนทับเข้าไป แล้วเราก็ตระหนักทันที นี่คงเป็นเหตุที่เราต้องเจอกันสินะ
ยิ่งรู้จักเรายิ่งพบมุมภายในที่ดีของเขา สิ่งที่เขาเป็นข้างในนั้นสวยงามและอดทนมากมายขอบคุณที่แม้โลกใบนี้จะโบยตีเขาแต่ยังเติบโตมาโดยที่ข้างในยังมีความคิดที่ดี ทำให้เราประทับใจและมองเขาเปลี่ยนไปมาก สุดท้ายเรารู้เหตุผลของพฤติกรรมที่เขาแสดงออก และการกระทำที่ผิด ไม่แปลกใจแต่วิธีการมันผิดแค่นั้นเอง
เราทั้งสองคนเข้ากันได้ดีคุยได้ทุกเรื่อง คือทุกเรื่องจริงๆไม่มีมุมที่น่าอาย มุมที่ปิดบัง มุมที่เป็นด้านอ่อนแอของความรู้สึก มุมที่เป็นความคิดเชิงลบ เราต่างฟังเสียงกันและกัน
นับเป็นครั้งแรกในชีวิต...ตั้งแต่รู้จักเพศชายที่เราเจอคนที่สามารถแลกเปลี่ยนเรื่องราวโดยที่ไม่มีเกมระหว่างคนสองคน ทำให้เราตัดสินใจว่าขอเจอตัวจริงที่ไม่ใช่ตัวอักษร หรือ แค่ได้ยินเสียง เพราะการเจอตัวนั้น เราสามารถบอกได้เลยว่าใช่หรือไม่ใช่
เมื่อถึงเวลา..ที่เราได้พบกันต่อหน้าสักทีทุกคำถามมันก็พบคำตอบ ทันทีที่รู้เรากลัวมากสำหรับความรู้สึกนี้ กลับมาแล้วต้องนั่งถามตัวเองแทบบ้าว่าจะเอาอย่างไรกับความรู้สึกนี้ เพราะเรารู้ว่ากำลังจะเจอกับอะไร เขาก็เช่นกัน เราต่างเป็นจิ๊กซอว์ของกันและกัน
เราเจอคำบรรยายความรู้สึกที่บอกยาก ในเพลงๆหนึ่ง ด้วยความบังเอิญแต่ใช่ทุกคำเขาอ่านแล้วขนลุกบอกว่าก็รู้สึกแบบเดียวกันบอกว่าเราเขียนดีมาก ..เปล่า ไปเจอม๊าาชั้นไม่มีความสามารถบรรยายอะไรแบบนี้ได้ 🤣
เราทั้งคู่ตัดสินใจที่จะไปต่อ เพราะอย่างน้อยที่สุด มันยากมากที่เราจะเจอคนที่ 'พอดี' ในทุกเรื่องขนาดนี้ คนที่เป็นที่นอน เป็นอ้อมกอด และเป็นคนที่เหมือนบ้าน ที่เราวางใจโดยไม่ตัดสินกันได้จริงๆ ยิ่งเราได้รู้ข้อมูลกันและกัน แนวคิด ทัศนคติ การใช้ชีวิต ล้วนไปในทางเดียวกัน เสริมกันแลกเปลี่ยนกันได้ และเราทั้งคู่ก็อยู่ใกล้ๆ กันมาตลอดในชีวิตจริง แต่กลับพบเจอในอีกโลกหนึ่ง นี่แหล่ะที่เรียกว่าตลก
ในที่สุด..ความสัมพันธ์ที่เราต้องการเราก็เจอ วันที่ศรัทธาในความรักเราไม่มี แต่กลับพบความลงตัวที่ไม่อึดอัด คนที่รับสิ่งที่เราเป็นจริงๆ มีวิธีที่จะคุยและทำให้เรายอมรับได้ ความรู้สึกที่ให้อิสระแบบที่เราต้องการ มันยิ่งทำให้ใจเราอยู่เองโดยที่ไม่ต้องร้องขอ ความรู้สึกแบบนี้มันสงบมาก ไม่มีความหวือหวา คลั่งรัก มันสบาย นิ่งเรียบง่ายแต่ลึกและแผ่ลงไปทุกวัน สุดท้ายถ้ามันไม่ใช่ความรัก สิ่งที่เราทั้งคู่เป็นนี้ เราจะเป็นบ้านให้กันตลอดไป เพราะชีวิตหนึ่งของคนเรา ยากจะเจอคนที่เข้ามาแล้วพบกันในรูปแบบนี้ เราจะไม่ฝืนความรู้สึก ไม่ฝืนอะไรทั้งนั้น ทำให้เต็มที่ทุกวัน ที่เหลือนับจากนี้เราปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตา(Serendipity) ที่ไม่ใช่เพียงแค่ความบังเอิญ (Destiny)
ชีวิตไม่ได้เป็นเพียงชุดอุบัติเหตุ
หรือเรื่องบังเอิญที่ไร้ความหมายแต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในที่สุด ที่แฝงไว้ด้วยแผนการบางอย่างที่ปราณีตและงดงาม
-Serendipity-
โฆษณา