30 เม.ย. 2022 เวลา 14:53 • กีฬา
เจาะฟอร์มนักเตะหลังเกมกับนิวคาสเซิ่ล 🕊️🕊️
เยือกเย็นและสวยงามสำหรับประตูตัดสินชัยชนะหนึ่งเดียวในเกมนี้
เก็บไปอีกสามคะแนนและชิงขึ้นเป็นจ่าฝูงแบบเกือบสบายเท้า ถ้ามองจากรูปเกมทั้ง 90 นาที ก่อนจะเริ่มแข่งขัน admin เองก็มีความกังวลไม่น้อยในสภาพความอ่อนล้าของนักเตะที่ได้พักไม่ถึง 3 วันและต้องลงบู๊ในเกมที่เตะกันตั้งแต่เที่ยงตรง
แต่ผลจากการโรเตชั่น และ squad depth ที่หงส์แดงมีในฤดูกาลนี้ รวมถึงระบบการเล่นที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้คว้าชัยในเกมนี้ไปได้ แบบไม่ยากเย็นเท่าไร เพราะถึงสกอร์จะเฉือนไปแบบหืดจับ แต่ตลอดทั้งเกมลิเวอร์พูลมีโอกาสมากมายที่จะทำให้เกมนี้จบด้วยประตูห่างกัน 3-4 ลูก แต่เพราะความตั้งหน้าตั้งตากันยิงของแผงหน้าก็เลยทำให้พลาดประตูไปมากมาย แต่ยังไงก็ตาม 3 แต้มในเกมโคตรสำคัญ คงทำให้แฟนๆ ได้ลุ้นกันไปยาวๆ ยันเกมท้ายๆ อย่างแน่นอน
มาดูฟอร์มการเล่นของนักเตะรายตัวกันครับ
อลิสซอน ไม่มีข้อกังขาใดๆ ว่าเค้านายทวาร Top 5 ของโลกฟุตบอล โดยเฉพาะถ้ามองในภาพรวมของการเป็นประตูสมัยใหม่ ทั้งการใช้เท้า การออกบอล การเซฟประตู พ่อหมีทำได้เยี่ยมทุกสิ่งที่กล่าวมา ถึงการออกบอลจะมีความหวาดเสียวบ่อยครั้งแต่มันก็เป็นสไตล์ที่ทำให้ทีมเดินเกมรุกได้ทันทีจากแดนหลัง และในเกมนี้เค้าก็ออกมาตัดบอลสวยๆ ได้หลายหน รวมทั้งจังหวะดวลเดี่ยวก็เซฟได้สบายๆ ถึงจะล้ำหน้ามาก่อนก็ตาม
โรเบิร์ตสัน โคตรกองหลังพลังม้าแห่งยุค เติมเกมกระจายไม่ว่าจะประสานกับมาเน่ หรือดิอาส ก็ทำได้ดี ไม่รู้เอาพลังมาจากไหนทั้งที่พักไปแค่ 2 วันกว่าๆ เท่านั้นเอง
โกเมส นำจุดเด่นของตัวเองคือความเร็วมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ชัดเจนมาก เติมเกมไปสุดเส้นหลังได้บ่อยครั้ง และทำให้เทรนต์ได้พักทั้งเกมแบบไร้ความกังวล
ฟานไดจ์ ยอดมนุษย์เหล็กที่คาดว่าคงไม่มีทางได้พักแน่ๆ ในเกมอีก 6-7 นัดที่เหลือ ด้วยสไตล์อ่านเกมและดักทาง จึงไม่จำเป็นต้องวิ่งไล่มากมายในแต่ละเกม ก็น่าจะทำให้สภาพร่างกายของเค้าไม่ล้ามากนัก ยิ่งเกมนี้คุมกับดักล้ำหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้เซฟแรงในเกมรับได้มากมายทีเดียว
มาติป เจ๊เริ่มปีมาจนกระทั้งวันนี้แบบฟิตปั๋ง และจับคู่เล่นกับฟานไดจ์ได้ยอดเยี่ยม จนนิวคาสเซิ่ลแทบจะใช้เกมรุกมาทำอันตรายหงส์แดงไม่ได้เลย
มิลเนอร์ อดีตทูนอาร์มมี่กลับมาเยือนถิ่นเก่าและเล่นบู๊ยังกับเด็กอายุ 26 เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนแดนกลาง และไล่ตัดเกม รวมถึงจังหวะตัดเกมสุดสำคัญที่เป็นจุดเริ่มต้นมาสู่ประตูชัยในเกมนี้
ดิอาซวิ่งซ้ายที ขวาที จังหวะกระชากคือสุดยอดแห่งความเดาทางลำบาก และเค้าเอาชนะแบ็คของนิวคาสเซิ่ลได้บ่อยครั้ง น่าเสียดายที่ไม่มีประตูและแอสซิสต์ในเกมนี้
เฮนเดอร์สัน เล่นได้ตามมาตรฐาน ประสานงานขับเคลื่อนแดนกลางกับมิลเนอร์ได้ดีเยี่ยม บทบาทในเกมรุกดูไม่มากนัก เพราะวันนี้เกมริมเส้นหงส์แดงสะเด่าเหลือเกิน
เกอิต้า ใกล้เคียงกับคำว่าร่างทองเข้าไปทุกทีสำหรับมิดฟิลด์พลังไดนาโมรายนี้ จังหวะเกมของเค้าที่มีร่วมกับทีมในนาทีนี้สำคัญกับทีมมาก เพราะเพิ่มมิติการรุกจากตรงกลางสนาม และการสอดจากแถวสองเป็นอย่างดี ถ้าไม่มีอาการบาดเจ็บมาพรากเค้าไปอีก จะทำให้ฤดูกาลถัดไปจะมีอนาคตดีๆ รออยู่แน่นอนจากโอกาสในช่วงท้ายฤดูกาลที่เค้าแสดงให้เห็น และประตูชัยของเกมต้องนับถือใจที่นิ่งและความมั่นใจของเค้ามากๆ ส่วนตัวแล้วยก MOM ให้เค้าเลยครับ
มาเน่ ถึงจะกลับไปเล่นเป็นปีก แต่ก็ไม่ได้ติดขัดอะไร อาจจะโดดเด่นไม่เท่าดิอาซแต่คงเพราะการกรำศึกหนักและการถือศีลอดคงจะมีผลต่อสภาพร่างกายของเค้าพอควร
โจต้า ได้เล่นตัวจริงก็เล่นได้ดีเสมอ และทำไป 1 แอสซิสต์จากการดึงจังหวะบอล และจ่ายไปให้เกอิต้าโซโลโชว์ น่าเสียดายที่โอกาสมากมายในเกมนี้ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ และถ้าเค้าไม่ตั้งหน้าตั้งตายิง ลิเวอร์พูลก็มีโอกาสชนะขาดกว่านี้ไปแล้ว
บังโม ยังดูตั้งใจจะยิงประตูจนขาดความเป็นธรรมชาติจนเกินไป
ดิอาซ ไม่รู้จะชมยังไงก็ความสามารถของดิอาซที่แสดงให้เห็นในเกมนี้ ความรวดเร็วและความเหนือชั้นทำให้นิวคาสเซิ่ลเอาแทบไม่อยู่อย่างแท้จริง หนำซ้ำทัศนคติในการเล่น ที่ตั้งหน้าตั้งตาเล่นมากกว่ามัวแต่จะเรียกฟาวล์ในจังหวะที่โดนกระแทกในเขตโทษ รวมถึงจังหวะโดนเล่นหนักแต่ก็ไม่สนอะไร เป็นสิ่งที่พิเศษที่ทำให้แฟนบอลหลงรักเค้าไปหมดใจเพียงแค่ไม่กี่เดือนที่ร่วมทางไปด้วยกัน ถ้าเกมนี้ยิงประตูหรือทำแอสซิสต์ได้ล่ะก็ คงโยน MOM ให้เค้าคนนี้ครับ
3 ตัวสำรอง ฟาบินโญ่ และธิอาโก้ ลงมาเพิ่มมิติในแดนกลางได้ตามสไตล์ของเค้า โดยไม่ได้อิมแพคกับรูปเกม เพราะลิเวอร์พูลก็เป็นฝ่ายที่เปิดเกมใส่นิวคาสเซิ่ลได้อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เริ่มเกมได้ไม่ถึง 10 นาทีแรก จะมีก็แต่ซาลาห์ที่ยังฟอร์มไม่ลงล็อคซักที และพยายามตะบี้ตะบันจะทำประตูมากเกินไป จนดูขาดๆ เกินๆ ไปซะหมด ก็หวังว่าเค้าจะคืนฟอร์มในเกมที่เหลือของฤดูกาลนี้ในเร็ววัน
จากชัยชนะในเกมนี้ ก็ต้องยกประโยชน์กับให้กับมันสมองของคลอปที่บริหารทรัพยากรได้ดีอย่างเหลือเชื่อ จนไม่น่าเชื่อว่าด้วยเกมที่ถี่ และเยอะขนาดนี้หงส์แดงจะคงสภาพความฟิดของนักเตะให้ดีได้ถึงเพียงนี้
อีกส่วนนึงก็ต้องบอกว่าเป็นเพราะความย่ามใจของนิวคาสเซิ่ล ที่กล้าจะมาเล่นเกมรุกกับทีมแบบลิเวอร์พูล เพราะไม่ว่าทีมใดที่มาเผชิญหงส์แดงด้วยสไตล์การเล่นเช่นนี้ มิวายจะพังพินาศเละเทะ เพียงแต่เกมนี้หงส์แดงขาดความคมแบบน่าเขกกะโหลก
รอดูรอบดึกวันนี้ครับ ว่าเรือใบจะทวงจ่าฝูงคืนได้รึเปล่า การได้ดูบอลที่เสมือนนัดชิงในทุกๆ เกมแบบนี้ กำไรชีวิตของแฟนบอลมากมายครับ 🤩🤩
โฆษณา