5 พ.ค. 2022 เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
วิเคราะห์หุ้นเวียดนาม ปรับฐานเพื่อไปต่อ?
โดย คุณธิดาศิริ ศรีสมิต, CFA
Chief Investment Officer, KAsset
2
วิเคราะห์หุ้นเวียดนาม ปรับฐานเพื่อไปต่อ?
Highlight :
- หุ้นเวียดนามการปรับฐานมากกว่า 10% ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเม.ย. และเริ่มรีบาวด์กลับมาบ้างแล้ว
- ปัจจัยกดดันหลัก ๆ มาจากความกังวลในภาคอสังหาริมทรัพย์และธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ขณะที่ปัจจัยนอกประเทศก็กดดันตลาดในทางอ้อมด้วย
- KAsset มีมุมมองบวกต่อการลงทุนในหุ้นเวียดนามในระยะกลาง-ยาว
- ความผันผวนในระยะสั้นจะยังมี แต่มองเป็นโอกาสทยอยเข้าสะสมสำหรับผู้ที่มีสัดส่วนหุ้นเวียดนามน้อยหรือยังไม่มี แต่สำหรับผู้ที่มีเยอะแล้วก็สามารถถือต่อไปได้
✅ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรับตัวของหุ้นเวียดนาม
- ปัจจัยในประเทศ :
หลังจากมีข่าวประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในประเทศถูกจับข้อหาปั่นหุ้น และปกปิดข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
รัฐบาลเวียดนามจึงเข้ามาตรวจสอบหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง การปล่อยกู้ของธนาคาร รวมถึงการให้ Margin Lending ของบริษัทหลักทรัพย์เพื่อซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ส่งผลให้เกิดแรงขายจากนักลงทุนในประเทศเวียดนาม
- ปัจจัยนอกประเทศ :
ความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อ และผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวสูงขึ้น จากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ FED และความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ตลอดจนทิศทางนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางหลักของโลก
✅ มุมมองของ KAsset ต่อการลงทุนในหุ้นเวียดนาม
KAsset ยังคงมุมมองเชิงบวกในระยะกลาง-ยาว ต่อการลงทุนในประเทศเวียดนาม เนื่องจากเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตได้ดีกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคเดียวกัน
จากการฟื้นตัวของภาคการผลิตเพื่อการส่งออก หลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และการขยายตัวของประชากรวัยทำงานที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้การบริโภคภายในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และคาดว่าภาคการท่องเที่ยวและการบริการจะฟื้นตัวได้ในระยะถัดไป
ส่วนความกังวลระยะสั้นต่อภาคอสังหาริมทรัพย์และธนาคารพาณิชย์จะส่งผลไม่รุนแรง
เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มี Valuation ไม่แพง มีพื้นฐานแข็งแกร่ง คาดว่าทั้งสองอุตสาหกรรมจะกลับมาเติบโตได้ดีภายหลังการตรวจสอบจากรัฐบาลผ่านไปจากความต้องการที่อยู่อาศัยและสินเชื่อที่ยังอยู่ในระดับสูง
ขณะที่แรงกดดันด้านต้นทุนที่สูงขึ้นจากราคาพลังงานจะถูกชดเชยจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ผ่านพ้นไป
✅ ​​ปัจจัยสนับสนุนที่ให้เวียดนามน่าเข้าลงทุนในระยะกลาง-ยาว
- แรงสนับสนุนหลักจากภาคการส่งออกที่แข็งแกร่ง การฟื้นตัวของการบริโภคหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 และเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) ที่ยังคงไหลเข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จึงมีการคาดการณ์ว่า GDP ของเวียดนามจะเติบโต 7.5% ในปีนี้ และ 6.8% ในปีหน้า ซึ่งสูงสุดในกลุ่ม ASEAN Emerging Markets (ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม)
- รัฐบาลเวียดนามทุ่มงบประมาณกว่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2021 (คิดเป็น 5% ของ GDP) เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานซึ่งคิดเป็นสัดส่วนต่อ GDP สูงที่สุดในอาเซียน
ตลอดจนเห็นชอบงบประมาณการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระหว่างปี 2021-2025 ของประเทศรวมทั้งหมด 1.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อยกระดับความสามารถการแข่งขันในภูมิภาคและมีเป้าหมายก้าวสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2045
- เวียดนามมีสัดส่วนประชากรวัยแรงงานสูงถึง 61% และมีการเปลี่ยนโครงสร้างอาชีพจากภาคเกษตรกรรมมาเป็นภาคอุตสาหกรรมและบริการมากขึ้น ส่งผลให้รายได้ต่อหัว และการอุปโภค-บริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น
- อัตราการเติบโตของตลาดหุ้นเวียดนามโดดเด่นในภูมิภาค โดยคาดว่าจะเติบโต +19.3% ในปีนี้ และ +24.3% ในปีหน้า แถมระดับราคาหุ้นก็ยังไม่แพงที่ PE Multiple 13x และ 10.3X ตามลำดับ
ตลอดจนหากถูกปรับสถานะจาก Frontier เป็น Emerging Markets และก้าวสู่การเป็น The Rising Star of Asia ก็จะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติได้อีกมาก
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหุ้นเวียดนามยังคงมีปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ อยู่ ไม่ว่าจะเป็น..
- สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีความไม่แน่นอน แต่ ณ ปัจจุบันรัฐบาลเวียดนามก็ควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อได้ดี และมีการเปิดประเทศแล้ว ในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
- Margin Lending ของนักลงทุนรายย่อยยังอยู่ในระดับสูง หากตลาดหุ้นปรับตัวลงอย่างมีนัยยะ จะทำให้หุ้นบางส่วนถูกบังคับขายเพิ่มแรงกดดันในตลาดขาลง แต่ด้วยสภาพคล่องของตลาดที่สูงขึ้นในที่ผ่านมาจะช่วยบรรเทาแรงกดดันระยะสั้นไปได้
- สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และความตึงเครียดระหว่างยูเครน-รัสเซีย อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนาม เพราะมีการพึ่งพาภาคการส่งออกสูง แต่เวียดนามมีข้อตกลงเขตการค้าเสรี (RCEP) กับหลายประเทศทั่วโลก จึงทำให้การส่งออกของเวียดนามยังเติบโตได้
- ความผันผวนของค่าเงินเวียดนามด่อง อาจมีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากความไม่แน่นอนจากภายนอก
อย่างไรก็ตาม เงินทุนสำรองที่สูงเป็นประวัติการณ์ และภาคส่งออกที่แข็งแกร่งจะช่วยลดความผันผวนของค่าเงินเวียดนามด่องได้
สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นเวียดนามอยู่เยอะแล้ว “แนะนำถือต่อไปได้” แต่สำหรับใครที่ยังมีในสัดส่วนน้อยหรือยังไม่มี “ใช้จังหวะที่ตลาดปรับฐาน ทยอยเข้าสะสมได้” แต่ต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ส่วนใครที่กำลังมองหาตัวช่วยเรื่องการลงทุนดี ๆ ก็อย่าลืมดาวน์โหลดแอป K-My Funds ติดเครื่องไว้ เพราะสามารถเปิดบัญชีกองทุนออนไลน์ได้ทุกที่ ตลอด 24 ชม.
ที่สำคัญยังมีการอัปเดตข่าวสารแวดวงการลงทุนทั่วโลก แนะนำกองทุนน่าสนใจ และฟีเจอร์ช่วยจัดพอร์ตกองทุนให้ตรงสไตล์ของเรา ช่วยให้เราตามทันทุกการลงทุนทั่วโลกได้ในแอปเดียว
📌 ดูรายละเอียดเกี่ยวกับแอป K-My Fundsเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/3HfUPoi
📲 สนใจลงทุน เริ่มต้นเพียง 500 บาท ผ่านแอป K-My Funds ตลอด 24 ชม.
#KAsset #KBankLive
โฆษณา