4 พ.ค. 2022 เวลา 03:04 • ปรัชญา
EP123 :
สูงสุด และ ต่ำสุด ในความเป็นมนุษย์ เกิดมาอย่างไร ?🧐🧐🧐
ค ว า ม เ สื่ อ ม แ ห่ ง อ า ยุ ว ร ร ณ ะ ข อ ง ม นุ ษ ย์ ช า ติ
หลายคนสงสัยว่ามนุษย์จะเจริญรุ่งเรืองสูงสุดไปถึงไหน?
ในปัจจุบันนี้เรากำลังเจริญขึ้นหรือเสื่อมถอยลงกันแน่?
ที่ว่าต่ำสุดของมวลมนุษย์ชาติจะเป็นอย่างไรหนอ?
… 🤔🥸
พระตถาคตคือผู้รอบรู้ทุกสิ่งในโลกธาตุ พระองค์ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง ลักษณะความเป็นไปแห่งสัตว์มนุษย์นั้น ครั้งหนึ่งพระตถาคตทรงตรัสสอนแก่ภิกษุสาวกบันทึกอยู่ใน สุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค จักกวัตติสูตร คือ ในพระไตรปิฏกส่วนที่เป็นคำพูดของพระพุทธเจ้า ส่วนที่สอนยาวละเอียดในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่แห่งพระมหาจักรพรรดิ ระบุถึงสถานะความเสื่อมถอยของ อายุวรรณะของมนุษย์และเหตุปัจจัยไว้โดยละเอียด
มนุษย์ เป็นภพหนึ่งที่สัตว์ (ผู้ติดยึดในขันธ์) มาเวียนว่ายตายเกิด ครั้งหนึ่งจะมีอายุสูงสุดที่
๘ ๐ , ๐ ๐ ๐ ปี : ให้ทาน, อยู่ในกุศลธรรม, รักษาศีลห้า 😇
ครั้งนั้น มนุษย์มีพระมหาจักรพรรดิ ประกอบด้วยแก้วเจ็ดประการ คือจักร ช้าง ม้า แก้ว นาง คฤหบดี ปรินายก บ้านเมืองมีอาณาเขตติดมหาสมุทรทั้งสี่ มีลูกหลานวีรกษัตริย์มากมาย ต่างปกครองโดยธรรม ไม่ต้องใช้อาญาปกครอง ใครขัดสนพระมหาจักรพรรดิทรงพระราชทานทรัพย์ ต่างอยู่ในศีลในธรรมสงบสุขรุ่งเรือง ถึงอายุมาก พระมหาจักรพรรดิจึงออกบวชโดยสั่งเสียในบุตรต่อไป แต่หลังเจ็ดวัน จักรแก้วก็หายไป
พระจักรพรรดิผู้ลูกเศร้าโศก และปรึกษาพระราชฤาษีได้ปกครองโดยธรรมต่อไป แต่ขาดการให้ทานผู้ขัดสน
๔ ๐ , ๐ ๐ ๐ ปี : ไม่ให้ทาน, อทินนาทานแพร่หลาย ศัตราวุธแพร่หลาย ปาณาติบาตแพร่หลาย 👹
ผู้ขัดสนไม่ได้รับทาน เกิดการลักขโมยของที่ไม่ไช่ของตน เมื่อพระจักรพรรดิสอบถามสาเหตุว่าขัดสนจึงพระราชทานทรัพย์ให้ตนและแจกจ่ายญาติพี่น้อง
เมื่อเกิดบ่อยครั้งขึ้นก็มีการเลียนแบบกันจนกระทั่ง พระจักรพรรดิให้กุมตัว โกนผม ตัดคอ มีการสร้างอาวุธขึ้นมา เกิดการปล้นบ้าน ปล้นเมือง ปล้นนคร ปล้นตามถนนหนทาง
๑ ๐ , ๐ ๐ ๐ ปี : ไม่ให้ทาน, อทินนาทานแพร่หลาย, มุสาวาทแพร่หลาย 🤬
มนุษย์ เริ่มมีการใช้วาจาโกหก อายุวรรณะเสื่อมลง
๕ , ๐ ๐ ๐ ปี : วรรณะเสื่อม, กาเมสุมิจฉาจารแพร่หลาย 😘
มนุษย์เริ่มมีการละเมิดภรรยาผู้อื่น
๒ , ๕ ๐ ๐ ปี : ผรุสวาจาและสัมผัปปลาปะแพร่หลาย 🤬
มนุษย์เริ่มมีการพูดจาหยาบคายยุยงสอดเสียด อายุจึงเสื่อมถอยจาก 5,000 มาเป็น2,500บ้าง 2,000ปีบ้าง
๑, ๐ ๐ ๐ ปี : อภิชฌา และพยาบาทแพร่หลาย 🥶
มนุษย์เริ่มมีความโลภอยากได้ของผู้อื่น มีความพยาบาท
๕ ๐ ๐ ปี : มิจฉาทิฐิแพร่หลาย 😒
มนุษย์เริ่มมีความเห็นผิด เชื่อในสิ่งที่ไม่ไช่สัจจะความเป็นจริง
๒ ๕ ๐ ปี : อกตัญญูแพร่หลาย 😶‍🌫️
มนุษย์เริ่มไม่ปฏิบัติชอบต่อมารดา บิดา สมณะ พราหมณ์ ผู้ใหญ่ในตระกูล
๑ ๐ ๐ ปี : อธรรมราคะ วิสมโลภ มิจฉาธรรม แพร่หลาย 🤯🤑😈
มนุษย์ยุคนี้ (ก็คือยุคเรานี่แหละ😅) เริ่มเกิดธรรมมาอีก 3 ธรรมคือ อย่างแรกมีความยินดีที่จะอยู่ในอธรรมความชั่วร้าย เปี่ยมด้วยความโลภอันไม่มีที่สิ้นสุด และประพฤติตนเคยชินไปตามความต้องการอยากในกิเลสแห่งตน
อันนี้รวมทั้งที่ได้สั่งสมมาอย่างยาวไกลมาตั้งแต่เรื่อง การลักขโมยผู้อื่น การฆ่า การพูดโกหก การผิดในกาม การพูดจาหยาบคาย ยุยงสอดเสียด สั่งสมความทุกข์ใจ ความพยาบาท เชื่ออะไรผิดๆงมงาย และอกตัญญูไม่รู้คุณแม่พ่อพระสงฆ์องค์เจ้าปู่ย่าตายาย
แนวโนม้ต่อไปอนาคต อายุ วรรณะ แห่งมนุษย์ชาติจะเสื่อมลงไปเรื่อยๆหรือไม่หนอ ?
ก็เป็นจริงตามนั้นเมื่อติดตามคำตถาคตต่อไปจะพบว่า…
๑ ๐ ปี : อายุเท่านี้ก็ฆ่ากันตายแล้ว 😫😫😫
สมัยนั้นมาถึงจุดที่ ถ้าสมัยนี้มนุษย์กินอาหารหลักคือข้าวสาลีกับเนื้อสัตว์ มนุษย์สมัยนั้นกินหญ้าตีนตุ๊กแกเป็นอาหารหลัก ยุคนั้นจะไม่มีใครรู้จักรสชาดของ เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อยและเกลือ
เด็กผู้หญิงอายุ 5 ปีเริ่มถึงวัยมีสามี อยู่กันด้วยไม่มีอ่อนน้อมบูชาแม่พ่อ ฯลฯ อายุถึงสิบปีส่วนที่เป็น กุศลธรรมทั้งหลายจะไม่เหลืออยู่ในตัวเลย ความเป็นอยู่สมสู่ปะปนกันไปหมด เหมือนแพะ ไก่ สุนัขบ้าน สุนัขจิ้งจอก
อายุสิบปีต่างมีแต่จิตอาฆาตจ้องจะฆ่าไม่มีพ่อแม่ปู่ย่าน้าอาอะไรทั้งสิ้น มีแต่ลักษณะเหมือนนายพรานที่จ้องหาเหยื่อ จะมีวันหนึ่งที่เกิดการฆ่ากันเจ็ดวันเจ็ดคืน “สัตถันตรกัปสิ้น ๗ วัน”
จากนั้นมนุษย์ที่หลบอยู่ในป่าจึงรอดชีวิตและมองเห็นว่า ความสูญเสียนั้นเกิดจากการปฏิบัติที่เป็นอกุศลต่างๆ จึงเริ่มฟื้นฟูการประพฤติในกุศลธรรม อายุจึงค่อยพื้นฟู จาก
10, 20, 40, 80, 160, 320, 640, 2,000, 4,000, 8,000, 20,000, 40,000 และ 80,000ปี
๘ ๐, ๐ ๐ ๐ ปี : พระพุทธเจ้านามว่า “พระเมตไตรย์” อุบัติขึ้นในโลกอีกครั้ง
จากการติดตามคำตถาคตใน “จักกวัตติสูตร” นี้ เราได้รับความรู้จากพระองค์ว่าด้วยที่สุดแห่งการเป็นมนุษย์นั้นวนเวียนในธรรมชาติเกิดดับได้สูงสุดแค่ไหน แต่ต่ำสุดได้จากเหตุปัจจัยอย่างไร มีความละเอียดอ่อน สลับซับซ้อนอย่างไรบ้าง เราได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ตราบได้ที่เราคือสัตว์ที่ยังเป็นผู้ติดยึด และเกิดมาในภพมนุษย์ ก็คงไม่พ้นวัฏจักรแบบนี้
ไม่มีอะไรที่น่าดึงดูดหลงไหลที่จะเวียนว่ายตายเกิดต่อไปจนไม่มีสิ้นสุด หาทางรู้อริยสัจให้แจ่มชัด และดำเนินไปในหนทางมรรคแปด ไปสู่ความพ้นทุกข์จากสิ่งเหล่านี้กันเถอะ
โฆษณา