5 พ.ค. 2022 เวลา 06:59 • หุ้น & เศรษฐกิจ
6 บทเรียนสุดยอดคำแนะนำของบัฟเฟตต์ประจำปี 2022 / Cr. Stock2Morrow
ในงานประชุมผู้ถือหุ้นเบิรก์ไซด์ฮาธาเวย์ ประจำปี 2022 เป็นสิ่งที่ทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะนักลงทุนทั่วโลกต่างก็อยากรู้ว่าตำนานนักลงทุนอย่างวอเร็น บัฟเฟตต์ และชาลี มังเกอร์ จะพูดอะไรในงาน ให้คำแนะนำอะไรกับนักลงทุน
... และนี้คือ 6 บทเรียนสุดยอดคำแนะนำของบัฟเฟตต์ และมังเกอร์ ประจำปี 2022 มีอะไรบ้างอยากจะเล่าให้ฟังแบบนี้ครับ
1. ถือเงินสดเอาไว้บ้าง
บัฟเฟตต์ บอกว่าเบิร์กไซด์จะใช้หลักการถือหุ้น ไปพร้อมกับเงินสด จะไม่มั่นใจจนซื้อหุ้นหมดหน้าตัก หรือที่เรียกว่า All In จนไม่มีเงินสดเหลืออยู่ในมือเลย
บัฟเฟตต์ บอกว่า การมีเงินสดอยู่ในมือก็เหมือนกับการมีออกซิเจนอยู่กับเราตลอดเวลา ถ้าเกิดวิกฤตอะไรขึ้นมา เรายังสามารถมองหาโอกาสจากการที่มีเงินสดในการเข้าไปซื้อหุ้นราคาถูกๆ
แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราไม่มีเงินสด เหมือนขาดออกซิเจนไป เราก็จะตาย ทุกอย่างก็จะจบลง เราอาจจะเสียโอกาสเข้าซื้อหุ้นในช่วงวิกฤต
สรุปคือ บัฟเฟตต์ต้องการแนะนำนักลงทุนให้สร้างพอร์ตโฟลิโอที่เหมาะสมระหว่างการถือทรัพย์สิน และการถือเงินสดเอาไว้บ้าง
... ถ้าถือทรัพย์สิน 100% ไม่ถือเงินสดเลย เราก็จะเสียโอกาสเวลาเกิดวิกฤตแล้วไม่มีเงินซื้อ
... ถือถือเงินสด 100% ไม่ถือทรัพย์สินเลย เราก็จะเสียโอกาสถ้าหุ้นเป็นกระทิง เราก็อาจจะตกรถได้
2. ลงทุนแบบเน้นคุณค่า อย่าจับจังหวะตลาด
บัฟเฟตต์ บอกว่า เขาอยู่ในตลาดหุ้นมาตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก กลยุทธ์ที่เขาใช้คือ "การวิเคราะห์กราฟ" เพื่อการจับจังหวะตลาด ผลปรากฏว่าเขาทำได้ไม่ดีเลย
และเขาก็คิดว่านักลงทุนโดยส่วนใหญ่ก็น่าจะทำได้ไม่ดีด้วยในการจับจังหวะตลาด
"เราทำได้ไม่ดีนัก สำหรับการจับจังหวะตลาด" บัฟเฟตต์พูด
"แต่สิ่งเดียวที่เราทำได้ดี คือ มองหาบริษัทที่ดี ในราคาที่สมเหตุสมผล วางเงินของเราลงไปในสัดส่วนที่เหมาะสม และเราก็ทำแบบนั้นมาได้ดีมาตลอด"
ช่วงปีโควิด ดัชนีดาวโจนส์ ลงมามากกว่า 13% บัฟเฟตต์ยอมรับว่า "เขาทำพลาด" ที่ไม่ได้ซื้อหุ้นเลย แต่พอมาคิดๆดูแล้ว ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวร้ายมากกนัก เพราะการลงทุนแบบเน้นคุณค่า คือ ต้องเลือกหุ้นที่ดี ในราคาที่เหมาสม ไม่ใช่การมาจับจังหวะตลาดว่าจะลงหรือจะขึ้นเมื่อไร
3. จงเป็นเจ้าของสินทรัพย์ที่ผลิตคุณค่าให้กับผู้ถือครอง
บัฟเฟตต์ เน้นย้ำว่า นักลงทุนควรเป็นเจ้าของในสินทรัพย์ที่ผลิตคุณค่าให้กับผู้ถือครอง (Productive Assets)
"ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา มีการลงทุนมากมายเป็นการพิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่ามีสินทรัพย์มากมายที่สร้างคุณค่าให้กับผู้ถือครองมัน ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน หรือแม้แต่การทำฟาร์ม ... "
"การเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ยังสามารถปล่อยให้เช่า การเป็นเจ้าของฟาร์มสักแห่ง ยังสามารถเพาะปลูกได้ตรงกันข้ามกับ Bitcoin ซึ่งถ้าเราถือครองมันแล้วแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากการขายต่อให้กับคนที่อยากซื้ออีกทีหนึ่งโดยคาดหวังว่าคนเหล่านั้นจะมาซื้อต่อจากเราในราคาที่สูงขึ้น"
4
4. หลีกเลี่ยง Bitcoin และ Cryptocurrencies
น่าจะเป็นหัวข้อ "ทัวร์ลง" ประจำปีนี้สำหรับนักลงทุนที่ชื่นชอบในคริปโต
บัฟเฟตต์ และมังเกอร์ มีความเห็นตรงกันว่า Bitcoin และ Cryptocurrencies เป็นการลงทุนที่อันตราย
โดยเฉพาะชาลี มังเกอร์ เรียกได้ว่าเป็นการพูดแบบจัดเต็ม ...
"ในชีวิตของผม ผมพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่ทำ 3 สิ่ง คือ สิ่งที่ดูโง่ สิ่งที่ชั่วร้าย และสิ่งที่ทำให้ตัวเองดูแย่ และ Bitcoin มีครบทั้ง 3 สิ่ง"
มังเกอร์ แนะนำอีกว่า ไม่ควรเอา Bitcoin หรือเงินดิจิทัลอื่นๆมาอยู่ในพอร์ตการลงทุนเพื่อการเกษียณโดยเด็ดขาด เพราะสุดท้ายแล้วมันจะมีค่าเท่ากับ "0"
... สอดคล้องกับบัฟเฟตต์ ที่บอกว่า "ผมไม่รู้ว่าอีก 10 ปีข้างหน้า ราคามันจะขึ้นหรือจะลงแต่สิ่งที่แน่ ๆ ก็คือ Bitcoin ไม่ได้ผลิตอะไรเลย และไม่ว่ามันจะราคาเท่าไร ผมก็จะไม่ซื้อมัน เพราะมันไม่มีมูลค่าอะไร"
5. จิตใจต้องมั่นคง อย่าไหลไปตามแรงเก็งกำไร
บัฟเฟตต์ บอกว่า ช่วง 2 ปีมานี้รู้สึกว่าตลาดหุ้นจะเหมือนบ่อนคาสิโนเข้าไปทุกที มีนักเก็งกำไรจำนวนมากกว่าที่เคยเป็นอยู่ การพยายามซื้อๆขายๆหลายครั้งทำให้เราต้องจ่ายค่าธรรมเนียมที่สูง ซึ่งค่าธรรมเนียมจะเป็นรายจ่ายมากเมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่เราควรจะได้
... ดังนั้น สิ่งที่นักลงทุนควรทำ คือ ซื้อขายให้น้อยครั้ง หรือลงทุนในกองทุนอิงดัชนี S&P 500 ไม่มีอะไรยอดเยี่ยมกว่าการได้เป็นเจ้าของอเมริกาอีกแล้ว และที่สำคัญค่าธรรมเนียมต่ำ
สอดคล้องกับความเห็นของมังเกอร์ที่บอกว่า นักลงทุนที่แทบจะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับตลาดหุ้น ไปขอคำแนะนำจากโบรคเกอร์ที่รู้พอๆกับคุณนิดหน่อย ลองคิดดูสิว่าตลาดมันจะจบลงอย่างไร
6. สิ่งเดียวที่เงินเฟ้อไม่สามารถทำอะไรคุณได้ คือ ความรู้ของคุณเอง
อันนี้ถือเป็น "วรรคทอง" ของการประชุมครั้งนี้เลย
มีสาวน้อยคนหนึ่งอายุ 15 ปี ชื่อ สเตฟานี่
เขาถามบัฟเฟตต์และมังเกอร์ว่าในสภาวะเงินเฟ้อหนักขนาดนี้ ถ้าเราต้องซื้อหุ้นหนึ่งตัวที่ทนทานต่อเงินเฟ้อได้ดี ควรจะเป็นหุ้นตัวไหน
บัฟเฟตต์ตอบว่า การลงทุนที่ดีที่สุด คือการลงทุนในตัวเอง ...
สิ่งที่ดีที่สุดที่คนอายุยังน้อยจะทำได้ คือ ค้นหาตัวเองให้เจอว่าเราเก่งอะไร แล้วเก่งในเรื่องนั้นให้สุดๆไปเลย เช่น เก่งในเรื่องศิลปะ เก่งในเรื่องการเป็นหมอ เก่งในเทคโนโลยี หรืออะไรก็ได้แต่ต้องเก่งให้ดีที่สุด แล้วผู้คนจะยอมแลกกับสิ่งที่พวกเขามี เพื่อแลกกับความสามารถของเรา
ถ้าเราเก่งในเรื่องอะไรก็ตามแต่ จะมีประโยชน์ด้วยกัน 3 อย่าง คือ
1. เงินเฟ้อ ทำอะไรเราไม่ได้ และไม่มีใครเอาความเก่งของเราไปจากเราได้
2. ผู้คนจะยอมจ่ายในสิ่งที่เขามี เพื่อแลกกับความสามารถของเรา
3. ความเก่งของเรา ไม่โดนเก็บภาษี
บัฟเฟตต์ ยังพูดอีกด้วยว่า ถ้าเราเก่งในเรื่องใดแล้ว แบงก์ดอลลาร์จะมีค่าเท่าไร มันก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไปแล้ว
ชาลี มังเกอร์ ขอเสริมว่า อย่าซื้อ Bitcoin ...
นี้ก็เป็น 6 บทเรียนสุดยอดคำแนะนำของบัฟเฟตต์ประจำปี 2022 ครับ ...
โฆษณา