5 พ.ค. 2022 เวลา 11:56 • ประวัติศาสตร์
“คุณหมอผู้หลงไหลในศิลปะการสัก คุณหมอ ฟุคุชิ มาซาอิชิ” (ผิวหนังคนจริง ๆ 😨)
ทำไมยากูซ่าที่ว่าเหี้ยมโหดถึงยอมมอบผิวหนังให้คุณหมอกันนะ🤔⁉️
เริ่มแรกของการศึกษา คุณหมอได้สังเกตว่า “โรคซิฟิลิสจะไม่เกิดขึ้นซ้ำบนบริเวณผิวหนังที่ได้รับการสักใหม่ ๆ “ ทำให้คุณหมอเริ่มศึกษารอยสักทั้งบนผิวหนังคนเป็นและคนตาย
1
ถึงขั้นศึกษาวิธีการดูแลและเก็บรักษาผิวหนังที่ถูกถลกออกมาจากร่างการ วิธีแผ่ผิวหนังขึงให้ได้รูปร่าง การเก็บรักษายังไงไม่ให้สีรอยสักเพี้ยน เพื่อประโยชน์ในด้านการแพทย์
ดังนั้นถ้าจะศึกษา “รอยสัก” ให้ถ่องแท้ก็ต้องผูกมิตรกับยากูซ่า🫱🏻‍🫲🏼
ในสมัยอดีตหมอต่างหวาดกลัวยากูซ่าไม่ยอมรักษาให้ มีแค่คุณหมอฟุคุชิคนเดียวที่ยอมรักษาให้และบางทีก็ไม่คิดค่ารักษา เลยทำให้คุณหมอสนิทกับยากูซ่า
แล้วทำไมยากูซ่าที่ว่าเหี้ยมโหดถึงยอมมอบผิวหนังให้คุณหมอกันนะ🤔⁉️
ด้วยความที่คุณหมอสนิทกับยากูซ่าเลยขอว่าถ้าหากเสียชีวิตผิวหนังที่สุดเท่จะเสียไปเปล่าประโยชน์ ขอเก็บผิวหนังไปใช้เพื่อศึกษาทางการแพทย์แล้วก็เก็บไว้ให้คนรุ่นหลังดูได้ไหม
2
ยากูซ่าก็เลยยอมตกลงให้คุณหมอนั่นเองค่ะ👍🏻
🔍กว่าจะสักได้ลายเท่ ๆ แล้วสักได้ทั้งตัวขนาดนี้ต้องมีความอดทนมาก ๆ เลยนะคะ🤩
1
แต่น่าเสียดายนะคะ ในปี 1926 รอยสักจำนวนมาก ภาพถ่ายกว่า 3,000 ใบ ถูกทำลายไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 😰
1
ปัจจุบันเลยเหลือเพียง 105 ชิ้นเท่านั้นที่ยังจัดแสดงอยู่ในวิทยาลัยการแพทย์กรุงโตเกียค่ะ
ถึงแม้จะดูน่าขนลุก ถ้ามองคือศิลปะสุดเท่อย่างหนึ่งเลยนะคะ🎨
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : visualatelier8 / bizzarrobazar / wikipedia / wikivisually

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา