Blockdit Logo (Mobile)
World Maker
•
7 พ.ค. 2022 เวลา 07:07 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🔥BREAKING !!🔥 : จับตาตลาดหุ้นโลก ! สัญญาณเทขายยังน่ากังวล S&P 500 สูญเสียมูลค่าไปแล้วสูงถึง 6 ล้านล้านดอลลาร์ ! Nasdaq ร่วงลงมาแล้ว -20% ส่วนหุ้นกลุ่ม FAANG ของสหรัฐฯ สูญเสียมูลค่ารวมกัน 2 ล้านล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปลายปี 2021
4
⚠️การเทขายหุ้นในทั่วโลกยังคงอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วงและรุนแรง โดยล่าสุดนี้มีรายงานออกมาว่า S&P 500 สูญเสียมูลค่าไปแล้วราว 6 ล้านล้านดอลลาร์ ดัชนี Nasdaq ร่วงลงมาจาก All Time High แล้ว -20% ! ขณะที่หุ้นกลุ่ม FAANG หรือกลุ่มที่เป็น "ยอดหลักหัวกะทิ" หรือก็คือหุ้นชั้นนำกลุ่ม Blue Chip ของสหรัฐฯ ได้สูญเสียมูลค่ารวมกันไปกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์แล้วนับตั้งแต่ปลายปี 2021 มาจนถึงปัจจุบันนี้ !
📌นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรหน้าใหม่หลายท่าน อาจจะยังไม่คุ้นชินกับภาวะตลาดขาลง หรือที่เราเรียกกันว่าตลาดหมี แต่ตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีความเสี่ยงสูงมากที่นักลงทุนทั่วโลกจะต้องพบเจอกับตลาดหมีของหลายสินทรัพย์ในปีนี้ !
1
⚠️มีคำเตือนมาหลายเดือนแล้วว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นเกินกว่าที่ FED คาดการณ์ไว้ แต่ที่ผ่านมาตลอด 2 ปีก่อนหน้านี้มันยังไม่เกิดขึ้น ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่ตระหนัก จนมาถึงวันนี้ ที่ภาพใหญ่หลายอย่างชัดเจนไปทั่วโลก สำนักข่าวต่าง ๆ รายงานถึงเงินเฟ้อกันรายวันรายชั่วโมง
📌และเช่นเดียวกัน มีคำเตือนมาหลายเดือนแล้วว่าวันหนึ่งหุ้นที่เคยทำ All Time High ใหม่อย่างต่อเนื่อง จะต้องเข้าสู่ภาวะตลาดหมี ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้คนก็ยังไม่ตระหนัก เพราะตลาดยังเป็นขาขึ้นอยู่ ! จนมาถึงวันนี้ ที่ผู้คนต่างต้องพากัน Yield Hunting (ไล่ล่าผลตอบแทน) เนื่องจากราคาสินทรัพย์ส่วนใหญ่ที่กระแสเงินไหลเข้าไปลงทุน มีการปรับตัวลดลงเรื่อย ๆ
⚠️นั่นทำให้เริ่มมีการขาดทุนในพอร์ต และเริ่มทำให้นักลงทุน นักเก้งกำไรทั้งหลาย พยายามหันไปหาสินทรัพย์ใหม่ ๆ ที่จะทำกำไรให้พวกเขาได้ในสภาวะที่ทั่วโลกตึงตัว
1
📌อย่างไรก็ตาม ความพยายามนั้นอาจยังไม่ประสบความสำเร็จนักในปัจจุบัน เพราะแม้แต่หุ้นระดับ Blue Chip ของสหรัฐฯ อย่างเช่น Facebook, Apple, Amazon, Microsoft, Alphabet หรือกลุ่ม 'FAANG' ที่ได้ชื่อว่า "เป็นหุ้นที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก" ก็ยังสูญเสียมูลค่ารวมกันไปแล้วถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้จากกระแสการเคลื่อนย้ายเงินทุนครั้งใหญ่ ขณะที่ดัชนีรวมอย่าง S&P 500 นั้นสูญเสียมูลค่าไปแล้ว 6 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในช่วงที่ตลาดเป็นขาขึ้นในปี 2021
2
แม้แต่ตลาดหุ้นที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในโลกอย่างสหรัฐฯ เอง ตอนนี้หุ้นระดับ TOP ในกลุ่ม FAANG โดนเทขายสูญเสียมูลค่ารวมกันไป 2 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว !
ดัชนี Nasdaq ติดลบถึง -20% จากระดับ All Time High แล้ว ! ใกล้เคียงกับการร่วงลงในช่วงเริ่มการระบาดใหญ่เมื่อต้นปี 2020
⚠️Michael Ball กรรมการผู้จัดการของ Weatherstone Capital Management ให้ความเห็นเอาไว้ว่าสัญญาของภาวะ 'ฟองสบู่' หรือ 'การเก็งกำไรส่วนเกิน' นั้นมีมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการประเมินมูลค่าหุ้นที่สูงลิ่วจนผิดกับเศรษฐกิจจริง (Real Economy) และการเก็งกำไรโดยไม่สนใจปัจจัยพื้นฐาน ภายใต้สภาวะ Yield Hunting
“โดยเฉพาะการที่บางบริษัทพยายามสร้างเรื่องราวของตัวเองให้ดูยอดเยี่ยม แต่ไม่ได้มีธุรกิจที่มั่นคงจริง ๆ ภายใต้การบริหารของพวกเขาเลย” Michael Ball กล่าวโดยไม่ได้ระบุชื่อว่าเป็นบริษัทใด
1
📌ดังนั้นเมื่อเกิดการเทขายขึ้น ผู้คนเหล่านี้จะหันมาตระหนักว่าพวกเขากำลังเสี่ยง ! และการเทขายก็จะยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก เพราะไม่มีใครอยากสูญเสียมากไปกว่านี้ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ดูย้อนแย้งกันอย่างแปลก ๆ แต่เป็นเรื่องปกติที่มนุษย์ทำเมื่อเกิดการ Panic Sell
1
(The normal signs of excess have been out there for a while, whether it be in valuation, whether it be in all the speculative overshooting of some of these stock that have great stories but not a real solid business underneath them, What starts as a trickle turns into a bigger outfall as everybody starts to say ‘I need to take off risk’ and nobody wants to take the other side.)
⚠️นอกจากหุ้นกลุ่ม Blue Chip แล้ว แม้แต่หุ้นชื่อดังอื่น ๆ อย่างเช่น NVDIA, AMD, Intel ซึ่งเป็นหุ้นที่น่าจะมี Demand อย่างไม่ขาดตลาด ก็ยังปรับตัวลงราว ๆ 30-50% แล้วภายในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ! ซึ่งภาพเช่นนี้คล้าย ๆ กับตอนนี้ที่ตลาดหุ้นจีนฟองสบู่แตกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเลย !
📌หากแนวโน้มยังไม่มีอะไรดีขึ้น เราจะต้องมาจับตามองกันอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว ว่าจะมีหุ้นของบริษัทใดอีกบ้างที่ทะยอยกันปรับฐานร่วงมา ? แต่ในอีกแง่หนึ่ง ! หากอยู่ ๆ มีปัจจัยที่ดีเข้ามาเสริมอย่างต่อเนื่อง ก็จะต้องรอลุ้นกันว่าตลาดหุ้นจะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเหมือนที่ผ่านมาหรือไม่ !
⚠️นโยบายการเงินของ FED, ปัญหาทางด้าน Supply Chain และปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์โลก ยังถือเป็นสิ่งที่ต้องจับตามองกันรายชั่วโมง ! เพราะเพียงแค่ 3 ประเด็นนี้ก็ส่งแรงกระเพื่อมไปได้ทั่วโลกแล้ว และคงไม่มีใครรู้ได้แน่นอนว่าโลกของเราจะไปเริ่มใหม่ที่จุดใด ?
🔥ทันโลก ทันเหตุการณ์ ทันข่าวสาร อย่างแท้จริงไปกับ WorldMaker🔥
โฆษณา