15 พ.ค. 2022 เวลา 10:13 • ประวัติศาสตร์
• นักบุญจอมโหด
1
นักบุญหญิงที่รับประกันเลยว่า คุณไม่อยากมีเรื่องกับเธอ
โอลก้าแห่งคีฟ (Olga of Kiev) เป็นมเหสีของเจ้าชายอิกอร์แห่งคีฟ (Igor of Kiev) ซึ่งเป็นผู้ปกครองอาณาจักรคีฟวาน รุส (Kievan Rus) ในช่วงศตวรรษที่ 10 โอลก้ายังถูกยกย่องให้เป็นนักบุญในศาสนาคริสต์ ทั้งนิกายโรมันคาทอลิก และอีสเทิร์นออร์โธดอกซ์
2
นักบุญโอลก้าแห่งเคียฟ
* คีฟวาน รุส คืออาณาจักรของชาวสลาฟในยุคกลาง ที่ครอบครองพื้นที่ของยูเครน เบราลุส และตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซียในปัจจุบัน
ในตอนนั้น ชาวเดรเวียน (Drevlian) ซึ่งเป็นชาวสลาฟเผ่าหนึ่งได้ยอมสวามิภักดิ์ต่อคีฟวาน รุส เพื่อต่อต้านอำนาจของจักรวรรดิไบแซนไทน์ ชาวเดรเวียนยังมอบบรรณาการให้กับผู้นำคีฟวาน รุส ด้วย
1
ทว่าในยุคของอิกอร์ ชาวเดรเวียนกลับไม่ยอมมอบบรรณาการให้ ในปี 945 อิกอร์จึงเดินทางไปยังเมืองโคโรสเตน (Korosten | ปัจจุบันอยู่ในยูเครน) เมืองหลวงของชาวเดรเวียน เพื่อทวงคืนบรรณาการ ปรากฏว่าเมื่ออิกอร์มาถึง เขาก็ถูกชาวเดรเวียนล่อลวงและสังหารอย่างโหดเหี้ยม
การตายของอิกอร์สร้างความเสียใจและโกรธแค้นให้กับมเหสีอย่างโอลก้า ลูกชายของนางมีอายุเพียงแค่ 3 ขวบ โอลก้าจึงต้องเป็นผู้สำเร็จราชการ หลังจากนั้น โอลก้าก็ต้องการแก้แค้นให้กับสวามี พวกเดรเวียนจะต้องจดจำชื่อของนางไปตลอดกาล
3
โอลก้าร่ำไห้ข้าง ๆ ศพของสวามี
ดูเหมือนชาวเดรเวียนจะรู้แล้วว่า พวกเขากำลังจะซวย ชาวเดรเวียนจึงส่งคณะทูตเดินทางไปที่กรุงคีฟ โดยเสนอเจ้าชายชาวเดรเวียนให้ไปอภิเษกกับโอลก้า เพื่อยุติความขัดแย้ง แต่เมื่อคณะทูตมาถึง โอลก้าก็สั่งให้จับตัวคณะทูตทั้งหมด ก่อนที่จะลงโทษด้วยการฝังทั้งเป็น
3
โอลก้าบอกกับเดรเวียนว่า ทูตพวกนี้ธรรมดาเกินไป ไม่สมฐานะกับนาง ดังนั้นขอให้ชาวเดรเวียนส่งทูตชุดใหม่ที่เป็นขุนนางหรือชนชั้นสูงมาแทน
2
ชาวเดรเวียนจึงส่งทูตที่เป็นขุนนางและชนชั้นสูงเดินทางมาที่กรุงคีฟอีกครั้ง เมื่อมาถึงโอลก้าก็บอกให้คณะทูต ไปอาบน้ำที่โรงอาบน้ำให้สบายใจ
แต่สิ่งที่คณะทูตไม่รู้เลยก็คือ หลังจากพวกเขาเข้าไปในโรงอาบน้ำ โอลก้าก็สั่งล็อคประตูไม่ให้ออกมาได้ ก่อนจะเผาโรงอาบน้ำ จนสุดท้ายคณะทูตก็ถูกไฟเผาทั้งเป็นตายอยู่ในนั้น
3
โอลก้าสั่งให้เผาโรงอาบน้ำที่มีทูตเดรเวียนอยู่ภายใน
นี้เป็นแค่น้ำจิ้ม เพราะมันยังไม่สาสม โอลก้าเดินทางไปโคโรสเตน โดยบอกว่าถ้าจะให้นางให้อภัย ชาวเดรเวียนจะต้องจัดพิธีรำลึกถึงสามีของนางอย่างยิ่งใหญ่ ชาวเดรเวียนยอมทำตาม มีการจัดงานรำลึกอย่างยิ่งใหญ่ ชาวเดรเวียนในงานดื่มเหล้าจนเมามาย โอลก้าเห็นดังนั้น นางจึงสั่งให้ทหารจับตัวชาวเดรเวียนและสังหารทิ้งให้หมด มีการบันทึกว่า มีชาวเดรเวียนถูกสังหารมากถึง 5,000 คน
2
ชาวเดรเวียนที่เหลือร้องขอชีวิตจากพระนาง พวกเขาต้องการมอบทรัพย์สมบัติที่มีเพื่อไถ่โทษ โอลก้าบอกกับชาวเดรเวียนไปว่า
“เอานกพิราบและนกกระจอกมาให้กับข้าอย่างละสามตัว ข้าไม่ปรารถนาจะเอาทรัพย์สมบัติเหมือนสามีของข้า แต่ข้าต้องการเพียงของกำนัลเล็ก ๆ น้อย ๆ จากพวกเจ้าเท่านั้น เพราะตอนนี้พวกเจ้ากำลังถูกปิดล้อมอยู่”
2
หลังจากได้นกมา โอลก้าก็สั่งให้ปล่อยนกเหล่านี้ แต่ก่อนปล่อย นางให้ทหารนำเศษผ้าชุบกำมะถันที่ติดไฟเอาติดไปกับนกด้วย
2
เมื่อนกถูกปล่อยมันจะไปที่ไหนล่ะ ใช่ครับ บ้านของชาวเดรเวียนที่เป็นเจ้าของมันไง ซึ่งบ้านของชาวเดรเวียนเป็นบ้านที่ทำจากไม้และฟาง ดังนั้นพอนกบินกลับมาบ้าน บ้านทั้งหลังก็เกิดเพลิงไหม้ จนสุดท้ายทั้งเมืองก็เต็มไปด้วยเพลิงไฟ ชาวเมืองที่พยายามหนีเอาชีวิตรอด ก็ถูกทหารของโอลก้าสังหารและจับไปเป็นทาส โอลก้าประสบความสำเร็จในการแก้แค้นของนางแล้ว
2
โอลก้าบุกโจมตีเมืองโคโรสเตนของชาวเดรเวียน
ด้วยวีรกรรมเหล่านี้ อาจจะสงสัยว่า ทำไมนางถึงถูกยกย่องให้เป็นนักบุญได้ล่ะ คำตอบคือนางเป็นผู้ปกครองหญิงคนแรกของคีฟวาน รุส ที่เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ สิ่งนี้ยังทำให้นางถูกยกย่องให้เป็นอัครสาวกด้วย
1
“พระนางส่องแสงสว่างเหมือนดั่งดวงจันทร์ในยามราตรี และพระนางก็เปล่งประกายท่ามกลางพวกนอกศาสนา เหมือนดั่งไข่มุกในโคลนตม เนื่องด้วยผู้คนยังมีคราบสกปรก เพราะยังไม่ชำระล้างบาปด้วยบัพติศมาอันบริสุทธิ์” จาก Primary Chronicle บันทึกประวัติศาสตร์ของคีฟวาน รุส
1
*** Reference
#HistofunDeluxe
โฆษณา