Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ประสบการณ์การเดินทาง | เทคนิคการเลือกสินค้าเดินป่า
•
ติดตาม
8 พ.ค. 2022 เวลา 13:47 • ท่องเที่ยว
ไปล่องแก่งกันจ้า 🚣🏼♀️
Unseen แม่ฮ่องสอน
ล่องแก่งแม่น้ำปาย
Unseen แม่ฮ่องสอน เส้นทางล่องแก่งหนึ่งเดียวในไทย ที่ไหลสวนทางกับแม่น้ำทุกสายในประเทศ เพราะที่นี่เป็นสายน้ำที่ไหลย้อนขึ้นเขาออกสู่สาละวินไปยังพม่าที่เราอยากมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก เราเริ่มต้นล่องแก่งที่อำเภอปายขึ้นเหนือไปยังเมืองแม่ฮ่องสอน ในระยะทาง 60 km ใช้เวลาทั้งหมด 2 วัน 1 คืน และพักค้างแรมในป่าริมน้ำ ที่นี่แก่งเล็กไม่นับ เน้นนับแต่แก่งใหญ่เน้นๆ เต็มคำผ่านทั้งหมด 3 อำเภอที่กลับตัวก็ไม่ได้กลับใจก็ไม่ทันแล้ว
เริ่มต้นการเดินทางด้วยการนั่งรถมายังอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน จุดรวมพลที่ Pai Basecamp สำหรับการเตรียมตัวและจัดส้มภาระเพื่อไปล่องแก่ง โดยเราจะนอนที่ Camp 1 คืน จากนั้น วันรุ่งขึ้นนั่ง 4WD ออกจาก Camp ไปยังเมืองแปงนั่งรถข้ามไปยังทางลูกรังที่ล้อมไปด้วยป่ารอบด้าน เพื่อเข้าไปยังเส้นทางแม่น้ำปาย
ที่เราจะเริ่มล่องแก่งประมาณ 40 นาที
ลำดับแรก ก่อนล่องแก่งคือทุกคนจะต้องเข้ารับการอบรมจากสตาฟเพื่อสอนวิธีล่องแก่งที่ถูกวิธี สำหรับกิจกรรมผจญภัยทางน้ำเพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน โดยมือใหม่ที่ยังไม่เคยล่องแก่งก็สามารถเล่นได้โดยทำความเข้าใจคร่าวๆ สำหรับการล่องแก่งเบื้องต้น ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมวิธีพายหรือพายไม่เป็นเพราะเรือแต่ละลำจะมีสตาฟ 2 คน สำหรับการดูแลตลอดเส้นทางล่องแก่ง
แก่งที่ต้องเจอ
วันที่1: แก่งออบหลวง, แก่งน้ำเหมย
วันที่2: แก่งผาแดง, แก่งตะลุงช้าง, แก่งหินมอง
เห็นชื่อแก่งน้อยๆ แบบนี้เพราะไม่เน้นเยอะ เน้นยาว 555+ ในเลข 5 กำลังสำลักน้ำอยู่ 🥹 แนะนำว่า "อย่าตกแก่งเชียวนะ" เพราะหายนะมีอยู่จริงรอรับปลายทางยาวๆ ได้เลย จับไม้พายให้มั่น เกาะและหนีบเรือให้ดี และดูกับดักหินลูกใหญ่ด้วย ทั้งบนบกและใต้น้ำรวมทั้งน้ำวนไฮโดร ตู้มๆๆๆ เสื้อชูชีพและหมวกกันกระแทกสำคัญมากๆ ถ้าใครนึกภาพไม่ออกว่ามันโหดระดับไหน ก็ลองนึกถึงโค้งถนนแม่ฮ่องสอนที่ทับศอกไปมา แต่นี่เป็นเปลี่ยนจากทางถนนมาเป็นทางน้ำและเป็นแก่งที่ไหลย้อนขึ้นเขา
แก่งวันแรกก็จะโหดหน่อย มีความท้าทายเป็นอย่างมาก เพราะว่าจะเป็นแก่งขนาดใหญ่และช่องทางน้ำซิกแซกสลับไปกับหิน พร้อมคลื่นที่กระแทกเรือเราแทบจะพลิกคว่ำจมน้ำ เนื่องด้วยความแรงของกระแสน้ำที่กระแทกกับหินช่วงฤดูฝน น้ำจึงไหลหลากเป็นอย่างมาก ระยะผ่านแก่งสำหรับวันแรกค่อนข้างนานทำให้เราต้องใช้แรงกายและกำลังแขนเพื่อผ่านแก่งลูกใหญ่ไปให้ได้ แบบแทบไม่ได้พักหายใจ เพราะถ้าหยุดพายเมื่อไหร่มีสิทธิ์เรือคว่ำกระแทกหินแน่ ถ้าใครตกแก่งวันแรกถือว่าจะได้รับความตื่นเต้นแบบพิเศษ เพราะคงได้ตามเก็บอีกทีปลายน้ำของแก่ง ซึ่งบางแก่งใช้เวลานานถึง 10 นาที กว่าจะพ้นช่วงอันตราย ดังนั้นควรใส่ชูชีพให้แน่นและพยายามไม่ตกแก่งในวันแรกนะคะ
ใช้เวลาไปค่อนวันจนถึงเย็นในที่สุดเราก็ล่องแก่งมาจนถึงปลายทางวันแรก ซึ่งเราจะตั้งแคมป์กลางป่าใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 5 ชั่วโมง เราค่อยๆ พายเรือออกนอกเส้นทางน้ำหลักที่เป็นน้ำป่าหลากเข้าไปยังเส้นลำธารน้ำสาย เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์สำหรับการอาบน้ำและทำอาหาร ซึ่งมีทำเลเหมาะสมอย่างมากในการตั้งแคมป์
อุปกรณ์แคมป์ปิ้งและอาหารที่พกไป ก็จะทานแบบคนป่าหน่อยๆ เพื่อให้ได้ความรู้สึกผจญภัยในธรรมชาติ ใช้ไม้ไผ่แทนแก้ว แทนจาน แทนชามบ้าง แถบนี้ยังมีปลา ต้นไม้ และผักป่า ให้เราได้เก็บทานด้วย หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการล่องแก่งมา
ทั้งวัน การได้ทานอาหารอร่อยถือเป็นรางวัลปลอบใจที่ดีที่สุด ในการสู้สำหรับแก่งของวันพรุ่งนี้ (หลับฝันไปพร้อมกับคำถาม "จะรอดมั๊ยนะ?!" ฮ่าๆๆ)
วันที่สองตื่นเช้ามาพร้อมกับเสียงจิ้งหรีดและเสียงนกรำไร พร้อมกับนกที่โผลบินตามช่องเขา เราสัมผัสได้ถึงอากาศที่กระทบเต็นท์ให้ความรู้สึกง่วง อยากนอนหลับอยู่อย่างนั้นแต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่าตื่นเถอะหนาวแบบนี้หมอกต้องปังแน่ๆ เลยขุดตัวเองลุกออกจากเต็นท์มาถ่ายรูปบริเวณแคมป์สักรอบ และรู้สึกถึงความชื้นสัมพัทธ์ที่แน่นทำให้เราเห็นภาพหมอกและวิวสวยๆ มาให้ชื่นใจ
รางวัลของคนตื่นเช้ามันดีอย่างนี้นี่เอง 📸
หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จเราก็เริ่มล่องแก่งกันต่อ โดยระหว่างทางก็จะได้ชมน้ำตกกลางป่าแวะเล่นน้ำสักเล็กน้อย จากนั้นก็แวะพอกโคลนธรรมชาติที่เกิดจากน้ำพุร้อนกลางป่าที่มีแร่ธาตุหายาก
อาบแร่แช่น้ำร้อนกันฟินๆ หลังจากที่เมื่อยขบกับการล่องแก่งเมื่อวาน แต่ระยะทางวันที่สองนี้ก็อีกยาวไกล เพราะเมื่อผ่อนคลายเสร็จแล้วแก่งเล็กแก่งน้อยยังรออยู่ข้างหน้า
อีกทั้งยังมีกิจกรรมโดดหน้าผาลงน้ำตามความสมัครใจ ถ้าใครยังแรงเหลือก็ไม่ควรพลาดที่จะสร้างความตื่นเต้น จบทริปด้วยการกระโดดลงด้วยความสูง 20 เมตรพร้อมลอยคอลงแก่งไปจนถึงปลายทาง
เราล่องแก่งเสร็จประมาณบ่าย 3 โมงเย็นก็เก็บเรือขึ้นฝั่งพร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระทึก
ว่าครั้งหนึ่งเราได้ผจญภัยเอาชีวิตรอดมาร่วมกัน ครั้งหน้าคงจะต้องกลับมาซ้ำใหม่ช่วงที่น้ำแรงกว่านี้สักเดือนสิงหาคม คิดว่าต้องสนุกกว่าเดิมแน่ๆ เพราะเป็นช่วงที่น้ำจะไหลแรงสุด สำหรับทริปนี้สนุกมากๆ ค่ะ น้องก็แรงใช่เล่น กว่าจะถึงปลายทางก็เกือบหมดไปอีกวันแล้ว ซึ่งจุดที่เราขึ้นฝั่งเป็นเมืองแม่ฮ่องสอนแล้วหนทางกลับอีกยาวไกล คือต้องนั่งรถย้อนกลับเข้าเชียงใหม่เพื่อกลับกรุงเทพกันต่อ สำหรับใครที่มีเวลาเหลือแนะนำให้ซื้อแพ็คเก็จแบบ 3 วัน 2 คืน หรือไม่ก็ 4 วัน จะได้เที่ยวเล่นปางมะผ้าหรือปายก่อนกลับจะได้ไม่เหนื่อยกับทริปมากเกินไป อีกทั้งยังมีเวลาเที่ยวที่สวยๆ ระหว่างทางเพิ่มเติมด้วยค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
- ราคาล่องแก่ง 2 วัน 1 คืน 3,700 บาท ***ขึ้นอยู่กับ Package
- จำกัดจำนวนล่องแก่งต่อวันไม่เกิน 20 คน
- เดือนที่เหมาะสมสำหรับการล่องแก่ง กรกฏาคม - ตุลาคม
- ความยากระดับ 4/5
ติดตามบทความ เรื่องราวสาระที่นำมาฝากการเพิ่มเติมได้ที่
www.thepuffinhouse.com
ท่องเที่ยว
ธรรมชาติ
การเดินทาง
1 บันทึก
1
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย