9 พ.ค. 2022 เวลา 14:46 • หุ้น & เศรษฐกิจ
CV GUNKUL 06/05/65
✅ GUNKUL หุ้นดี สตอรี่เด็ด ราคาลงมาแบบนี้น่าลงทุนหรือไม่?
1
📌ตัวธุรกิจประกอบไปด้วย
- Trading ซื้อมาขายไป อุปกรณ์ที่ทำเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า เช่น Cable , Fuse and Switches
- EPC การก่อสร้างและรับเหมาทำระบบไฟฟ้า ส่วนมากรายได้มาจากการbidding ของหน่วยงานภาครัฐ ปกติbid ปีละ 20,000-30,000 ล้านบาท ตัวbacklogจะอยู่ประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท/ปี
- ลงทุนในโรงไฟฟ้าต่างๆ
แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่มาจากแสงอาทิตย์ และ พลังงานลม
มีอยู่ใน 4 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย ญี่ปุ่น เวียดนาม
ถ้าดูจากงบตั้งแต่ปี 2016 รายได้ของบริษัทมาจาก Trading และ EPC เป็นหลัก แต่เมื่อปี 2018 รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าก็เริ่มโตขึ้นเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน ทำให้มีรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าถึง 60% ซึ่งเป็นรายได้จากทั้งในและนอกประเทศ โดยgross marginในประเทศสูงถึง 60-65% และตัวTradingอยู่ในช่วง 10-20% เท่านั้น
Power plant ธุรกิจไฟฟ้าในไทยคิดเป็น 60% ของportfolio ส่วนพลังงานแสงอาทิตย์ถือว่าได้ค่าไฟค่อนข้างคงที่ตลอดอายุสัญญา ในขณะที่พลังงานลมจะอยู่ที่ 3.50 บาทใน10ปีแรก หลังจาก10ปีแรกไปก็อยู่ที่ 3 บาท
▶️ Outlookปัจจุบันรวม4ประเทศ อยู่ที่ 600MW
▶️ บริษัทตั้งเป้าพลังงานปี 2022-2023 อยู่ที่ 1,000 MW ส่วนใหญ่คาดว่าจะมาจากพลังงานโซลาร์ในประเทศเป็นหลัก
📌ธุรกิจใหม่ของบริษัท คือ ธุรกิจกัญชง กัญชา
มีการลงทุน 2 แบบ คือ
- ลงทุนเอง จะเป็นธุกิจกัญชงอย่างเดียว
โดยใช้พื้นที่เพาะปลูกในส่วนของโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเขตจ.นครราชสีมา phaseแรกมีพื้นที่อยู่ประมาณ 100-200 ไร่
▶️ 1 ไร่ ปลูกได้ประมาณ 1,000 ต้น yieldที่ได้จากการเอาดอกแห้งมาสกัดอยู่ที่ 18%และจากดอกแห้งมาสกัดเป็นสาร CBD อีก11%
การปลูกกัญชงจะปลูกประมาณ 3-4เดือน ปีนึงก็จะได้ประมาณ 3 รอบ
1 ไร่ ปลูก 3 รอบ ได้สารCBD ประมาณ 30-35 kg/ไร่/ปี
- ลงทุนผ่าน บริษัท THCG ประมาณ 250 ล้านบาท (50%)
GUNKUL JV(THCG) ทำในส่วนทั้งกัญชงและกัญชาต่างจากการลงทุนเองคือ เป็นปลายน้ำหรือfinal product และตัวกัญชาจะเน้นขายให้กลุ่มรพ.เป็นหลัก
การปลูกกัญชง กัญชาของ Gunkul เป็นแบบ indoor ปลูกเพื่อไปทำ Medical grade ปัจจุบัน Medical Grade องค์การเภสัชรับซื้อช่อดอกกิโลกรัมละ 45,000 บาท (CBD 14% ความชื้นไม่เกิน 10% และไม่มีสารปนเปื้อน)
1
ตอนนี้หลายคนปลูกแบบ organic หรือ outdoor แต่พอตรวจสารปนเปื้อนมีมากกว่าครึ่งที่ส่งไปตรวจไม่ผ่านมาตรฐาน เพราะหากมีสารปนเปื้อนจะทำให้ไม่สามารถไปถึง medical Grade ได้ ราคาก็จะถูกลงมาครึ่งนึง ซึ่งจะไม่สามารถสกัดแบบ Full Spectrum ได้ จะต้องสกัด CBD Isolate เท่านั้น ซึ่งมีราคาถูกกว่า Full Spectrum
ซึ่งการปลูก Indoor ของ Gunkul สามารถขายช่อดอก หรือสกัดเป็น Full Spectrum ที่ราคาสูงได้
ในอนาคตบริษัทอาจจะซื้อกัญชงจากเจ้าอื่น ที่ปลูก outdoor ซึ่งมีสารปนเปื้อนบ้าง แต่นำมาสกัด CBD Isolate เพราะ Gunkul มีโรงงานสกัดครบวงจร หรือสามารถรับจ้างสกัดได้
ตลาด Medical ของกัญชง กัญชา มีมูลค่า 943 ล้านเหรียญ และมีการคาดการณ์ว่า ตลาดยาจะโต 100% ไปอีก 6-7 ปี ไปถึง 3 แสนล้านเหรียญ
ตลาดส่งออก กัญชาจากประเทศไทยก็มีข้อได้เปรียบด้านต้นทุนที่เราแข่งขันได้ เทียบกับประเทศอื่นๆ (ช่อดอก แบบที่ไม่ใช่ Medical Grade มีความ over supply อยู่ ราคาลงมาเยอะ แต่สำหรับ medical Grade ราคาโลละแสน ยังมี demand ที่สูงอยู่) ถ้ามีลูกค้าจากต่างประเทศ order มา Gunkul สามารถแข่งขันด้านราคาได้ดีกว่าหลายๆ ประเทศ ส่งออกในราคา 6-7 หมื่นบาท/กก. ก็ยังถือว่ากำไรดี
เพราะด้วยสภาพอากาศ แสงแดดในประเทศไทย เหมาะกับการปลูกกัญชา (กัญชง กัญชาชอบอากาศแห้งและเย็น Gunkul ปลูกในที่ตั้งของ wind farm เลยมี Air Flow ตลอดเวลา ทำให้ไม่ชื้น ยิ่งช่วงหน้าหนาวประหยัดแอร์ไปได้เยอะ ช่วงกลางวันใช้ไฟจาก Solar Cell เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้า) ทำให้มีต้นทุนการปลูกที่ต่ำกว่าหลายๆ ประเทศ
1
📌รายได้กัญชง
- สารCBD มีราคา 200,000บาท/kg
▶️ รายได้ทั้งปีจะอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท
▶️ gross margin 60-65%
-Net profit margin 40-50%
 
📌Key factors
▶️ Power Development Plan
▶️ FX
▶️ Interest Rate
▶️ Success of hemp and cannabis business
📌Seasonal effect
Power plant โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
ช่วง low season จะอยู่ในช่วงQ3 ที่มีฝนตก กลับกันตัวลม จะมีHigh season ที่Q3
การปลูกกัญชง กัญชาของ Gunkul เป็นแบบ indoor ปลูกเพื่อไปทำ Medical grade ปัจจุบัน Medical Grade องค์การเภสัชรับซื้อช่อดอกกิโลกรัมละ 45,000 บาท (CBD 14% ความชื้นไม่เกิน 10% และไม่มีสารปนเปื่อน) ตอนนี้หลายคนปลูก organic หรือ outdoor แต่พอตรวจสารปนเปื่อนมีมากกว่าครึ่งที่ส่งไปจรวจไม่ผ่านมาตรฐาน เพราะหากมีสารปนเปื่อนทำให้ไม่สามารถไปถึง medical Grade ได้ ราคาก็จะถูกลงมาครึ่งนึง ซึ่งจะไม่สามารถสกัดแบบ Full Spectrum ได้ จะต้องสกัด CBD Isolate เท่านั้น ซึ่งมีราคาถูกกว่า Full Spectrum ซึ่งการปลูก Indoor ของ Gunkul สามารถขายช่อดอก หรือสกัดเป็น Full Spectrum ที่ราคาสูงได้
สรรพคุณของกัญชง กัญชา สามารถรักษาได้หลายโรค ลมชัก ผ่อนคลาย ระบบเลือด ปัจจุบันเริ่มมีคนไข้ใช้เยอะขึ้น ในอนาคต Gunkul มองตลาดอาหารเสริมจะค่อยๆ มี demand ที่มากขึ้น
กฏหมายในไทยปลูกเอาช่อดอก THC > 1% เป็นกัญชา ถ้า THC < 1% จัดว่าเป็นกัญชง
การทดสอบสารปนเปื่อนล็อตที่เขาค้อ ของ Gunkul ทดสอบผ่านหมด ในอนาคตอาจจะซื้อกัญชงจากเจ้าอื่น ที่ปลูก outdoor (ซึ่งมีสารปนเปื่อนบ้าง แต่นำมาสกัด CBD Isolate เพราะ Gunkul มีโรงงานสกัดครบวงจร หรือสามารถรับจ้างสกัดได้)
ตลาด Medical ของกัญชง กัญชา มีมูลค่า 943 ล้านเหรียญ และมีการคาดการณ์ว่า ตลาดยาจะโต 100% ไปอีก 6-7 ปี ไปถึง 3 แสนล้านเหรียญ
อัพเดทการก่อสร้าง โรงเรือนโรงที่ 2 เราชะลอเพราะกฏหมายเปลี่ยน
ก่อนหน้านี้เอกชนไม่สามารถปลูกกัญชาได้ ต้องให้วิสาหกิจปลูก ปลูกเสร็จวิสาหกิจเอากิ่งก้านรากใบดอกส่งกรมการแพทย์ หรือโรงพบาบาลรัฐ
ล่าสุดสธ. ปลดช่อดอกกัญชา ออกจาก ย.ส.5 ทำให้ช่อดอกกัญชาไม่เป็นยาเสพติดอีกต่อไป เอกชนสามารถครอบครองได้ แต่ เมื่อไหร่ที่สกัดช่อดอก THC เกิน 0.2% ถือว่าเป็นยาเสพติด (ปลดช่อดอกออก แต่ไปควบคุมที่สารสกัด THC แทน ) ทำให้เอกชนไม่สามารถสกัดดอกกัญชาได้ แต่สามารถปลูกกัญชาเพื่อส่งออกได้ เริ่มบังคับใช้ 9 มิ.ย.65
ทำให้โซนที่ 2 มีการเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสำหรับกัญชาส่งออกเพิ่มเติม รวม indoor 4000 ตรม.
ระยะเวลาในการปลูก สำหรับ Crop ที่ใช้เมล็ดปลูก ใช้เวลาประมาณ 5 เดือน คอปหลังๆ ใช้โคลน เหลือ 2 เดือนครึ่ง
ในการปลูก 1 โรงเรือน 1 ไร่ ปลูก 1,783 ต้น ต่อจากนี้โรง 4 จะปลูกถี่ขึ้นเป็น 3-4 พันต้น yield ต่อตรม จะสูงขึ้นหลังจากนี้ ปัจจุบันระบบการป้องการแมลง เริ่มนิ่งแล้วไม่มีปัญหาแล้ว ดินปลูก ใช้เม็ดดินเผาที่ผ่านความร้อนสูง และมีการใช้พีชมอสที่นำเข้าแบบที่ไม่มีการปนเปื่อน ส่วนน้ำเป็นน้ำ RO ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงเพื่อ Controll คุณภาพและสารปนเปื่อน
ตลาดส่งออก กัญชาจากประเทศไทยมีข้อได้เปรียบด้านต้นทุนที่เราแข่งขันได้เทียบกับประเทศอื่นๆ (ช่อดอก แบบที่ไม่ใช่ Medical Grade มีความ over supply อยู่ ราคาลงมาเยอะ แต่สำหรับ medical Grade ราคาโลละแสน ยังมี demand ที่สูงอยู่) ถ้ามีลูกค้าจากต่างประเทศ order มา gunkul สามารถแข่งขันด้านราคาได้ดีกว่าหลายๆ ประเทศ ส่งออกในราคา 6-7 หมื่นบาท/กก. ก็ยังกำไรดี
เพราะด้วยสภาพอากาศ แสงแดดในประเทศไทย เหมาะกับการปลูกกัญชา (กัญชง กัญชาชอบอากาศแห้งและเย็น Gunkul ปลูกในที่ตั้งของ wind farm เลยมี Air Flow ตลอดเวลา ทำให้ไม่ชื้น ยิ่งช่วงหน้าหนาวประหยัดแอร์ไปได้เยอะ ช่วงกลางวันใช้ไฟจาก Solar Cell เพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้า) ทำให้มีต้นทุนการปลูกที่ต่ำกว่าหลายๆ ประเทศ
ตอนนี้เมล็ดพันธ์ ชาลอตแองเจิล เพิ่งสั่งไป 5หมื่นเมล็ด แต่ส่งมาได้แค่ 2 หมื่นเมล็ด ตอนนี้ขาดตลาด มีเรามีอยู่คนเดียว การดีลกับองค์การเภสัชก็จะคุยกันไม่ยาก (การปลูกโดยขออนุญาตต้องมีที่มาที่ไป)
ด้านการสกัด แบ่งเป็น 4 level
1. เครื่องสำอาง
2. อาหาร เครื่องดื่ม
3. ยาสมุนไพร
4. ยาแผนปัจจุบัน
ตอนนี้โรงสกัดของ Gunkul สามารถ Cover ได้ Level 3 ระดับ ส่วนโรงสกัดใหญ่ที่กำลังจะเริ่มก่อสร้าง เป็นโรงงานยา level 4 (ปัจจุบันยังไม่มีโรงสกัดไหนที่เป็น level 4 สำหรับการสกัด CBD กัญชง กัญชา)
ในส่วนของลูกค้า ตอนนี้มีคุยปลายน้ำไว้หลายราย ทั้ง oem และ JV
เริ่มมีลูกค้ามา visit บ้างแล้ว มีคุย sign agreement ในเดือนนี้ ส่วนช่อดอกที่ออกมายังไม่พอส่ง เทียบกับปริมาณที่ลูกค้าต้องการ
ช่วงที่เทสเครื่อง มีผลิตภัณฑ์ที่เอามา แบบใหญ่ 10000 ขวด ขอ อย ใบสกัด สัปดาห์หน้า ผ่าน อย approve ขณะอนุ วันที่ 11/05/65 ขณะใหญ่ 26/05/65 อนุมัติเรียบร้อย รอสัปดาห์หน้าได้ใบอนุญาต พอได้ใบก็สามารถออกผลิตภัณฑ์เพื่อจำหน่ายได้ ก็จะตัด cop แรกไปส่ง ในส่วนช่อดอกกัญชา ต้องรอหลัง 9 มิ.ย.65 ตามกฏหมายเป็นต้นไป
📌ไอเดียการลงทุน
ช่วงนี้ราคาปรับตัวลงมาแรง ตามสภาพตลาด + บทวิเคราะห์ที่แชร์ว่า งบ Q1 จะลดลง YoY ซึ่งสาเหตุหลักมากจาก Q1 ที่ผ่านมาลมยังไม่ดีมาก
แต่คิดว่าน่าจะกำลังจะเริ่มดีในQ2 สังเกตุได้จากช่วงหน้าร้อนนี้มีพายุเข้ามาหลายๆลูกส่งผลให้ผลประกอบการเป็นในทิศทางที่ดีขึ้น
ส่วนความคืบหน้าในเรื่องกัญชง ในไทยยังถือว่าใหม่มากตรงนี้คือจุดเริ่มต้น เท่าที่ทำการบ้านตัว Drive สำคัญคือ Demand ในประเทศ ทั้งกลุ่มการแพทย์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และอาหาร
ต้องนี้ต้องตามต่อเพราะสำคัญสุดคือทำอย่างไรให้ได้ของในระดับ Medical grade ได้หรือไม่ เพราะถ้าได้ตรงนี้จะทำให้มีโอกาสเติบโตสูงมากๆ
ส่วนปลายปีประมาณช่วงQ3จะมีการประมุลงานพลังงานลง1500เมก ถ้าGunkulได้งานมากกว่า500เมก ถือว่าดีมาก ถ้าต่ำกว่า500ไม่คค่อยดี
ธุรกิจกัญชงใครทำก่อนจะเป็นfirst moverตลาดจะไห้premiumเยอะมาก แต่ผ่านไประยะนึง คาดว่าจะมีรายใหม่เข้ามาในตลาด แต่ด้วยGk มีพื้นที่พร้อม2000ไร่ และการปลูกที่ควบคุมมาตรฐานและรายละเอียดการปลูกเยอะจึงอาจจะช่วงแรกคนเอาจะเข้ามาไนธุรกิจนี้ยาก
ธุรกิจพลังงานsolar อนาคตไฟฟ้าจะปรับขึ้นราคา คาดว่า คนจะเริ่มหันมาติดตั้งsolar roofมากขึ้น
ค่าไฟที่ปรับขึ้น
อนาคตอาจจะมีการทำJVกับpartnerหลายเจ้า ตัวจิกซอcom7เป็นตัวสำคัญอาจจะเอา กัญชงทำยาขายกับcom7ที่jv bdmsก้ได้
Q1ที่ออกมาอาจจะเป็นbottom outของปี65 และจากอากาสแปรปรวน ลานีญา มีผลอาจจะทำไห้ลมมาเยอะขึ้น
พัฒนาการการปลูกนั้นก็อยู่ในเกณฑ์ดี เริ่มมีการตัดดอกออกไปขายบ้างแล้ว แต่อย่างที่บอกยังต้องมีอะไรที่เรียนรู้กันอีกพอสมควร ถ้ารายได้เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างว่า มากน้อยเพียงใด คงจะมีคนสนใจมากกว่านี้
สุดท้ายเรามาลุ้นว่าในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ อาหาร เครื่องสำอางค์ กัญชงจะมีบทบาทมากขึ้นหรือไม่
ถ้าสำเร็จก็มีโอกาสที่จะโตต่อไปได้แบบยาวๆ 🥰
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดบัญชี ค่าคอมหุ้น 0.05%
TFEX สัญญาละ 18-20
กับโบรคเกอร์
แนะนำหุ้นโดยที่ผู้แนะนำการลงทุนที่มีใบอนุญาต
แจ้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรทาง INBOX ได้เลยครับ
โฆษณา