11 พ.ค. 2022 เวลา 14:26 • หนังสือ
หลงไพร ep.1
ความลึกลับของป่าดงพงไพร
สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง
Ep.1
"ไอ้วุธ​ วิ่ง..........." ผมตะโกนออกมาพร้อมกับวิ่งแบบไม่คิดชีวิต
เสียงวิ่ง​ ของพวกเรา​ ดัง ปะปนกับเสียง​ของอะไรบางอย่าง ตามหลังพวกเรามา​
"มึงเห็นอะไร" ผมซึ่งวิ่งอยู่ ถามขึ้น
"ผู้หญิง​ พี่​ ผู้หญิง​ เดินมาเรียก​ ผมกับพี่บอล​ ตรง​ หลังต้นไม้​ ข้างแคมป์เรา" ไอ้วุธ​ พูดออกมาพร้อมกับอาการหอบหายใจไม่ทัน
"-่า​ เอ้ย​ กูบอกพวกมึงแล้ว​ ให้ระวัง​ มันเอาเราแน่" ผมพูดออก
"พี่แล้วพี่บอล​ ละพี่" วุธถาม​
"กูว่าตายห่าไปแล้ว​ มึงไม่เห็นเหรอ​ เครืี่องในมันออกมาจากท้องขนาดนั้น​ กูว่า​ พวกเรา​ 3​ คน​ เอาตัวรอดก่อนดีกว่า​........... ​"
ย้อนกลับก่อนหน้าไป​ก่อนหน้า 1 วัน
กริ๊งงงง...... กริ้งงงงง.....
เสียงนาฬิกาปลุกจากหัวเตียงทำให้ผมต้องสดุ้งตื่นจากการหลับไหลอย่างสบายในตอนเช้าบนเตียงที่นุ่มและผ้าห่มอันแสนอบอุ่น
ผม​ ชื่อ​..วิทย์. ปีนี้อายุย่างเข้า​ 24​ ปีแล้ว
อาศัยอยู่กับแม่​ เพียงสองคน​ ที่​ บ้านต่างจังหวัด​ เรียกได้ว่า​ ชนบทพอสมควร
.."วิทย์​ ". แม่​ เรียกชื่อ​ ในตอนเช้า​
"สายแล้ว​ วันนี้มีนัดไปเที่ยวกับเพื่อนไม่ใช่เหรอ" แม่เอ่ยขึ้นพร้อม​ กับเคาะประตู​
"ครับ​ ผมตื่นแล้วครับแม่" ผมพูดออกไป​ พร้อมกับ​ ฝืน​ ตัวเองให้ลุกจากที่นอน​
ในฤดูหนาว​ ซึ่งทางภาคเหนือนั้น​ ในฤดูหนาวจะมีอากาศที่หนาวกว่าภาคอื่นๆในประเทศ​
ผม​หันไปมองไปที่นาฬิกา​ ซึ่ง​ มีตัววัดอุณหภมิ​ ปรากฏเลข​ 14​ องศา​ "โห" ผมอุทานออกมา​ ซึ่งความหนาวนี้เป็นปรกติ​ ทางบ้านผม​ แต่​ ทำใจให้ชินกับอากาศแบบนี้​ไม่ได้จริงๆ​
ขณะนี้เวลา​ 6​ โมง​ เช้า​แล้ว​ หมอกลงจัด​มาก ไม่เห็นแม้แต่ถนน​ หน้าบ้าน​ ผมหยิบ​
โทรศัพท์​ มือถือ​ ขึ้นมาพร้อมโทรหา​ ไอ้พงษ์​ และ​ ไอ้บอล​ ปลายสาย​ เหมือนกำลังตื่นจาก​การหลับสบายเช่นกัน​ "เห้ย​ มึงตื่นหรือยังเนื้ย​ เดียว​ ที่นัดกันไว้ก็ไปสายหรอก​
ใช่ครับ​ พวกผม​ มีนัดไปค้างแรมที่ น้ำตก​ ในอุทยาน​แห่งหนึ่ง​ ใน​ ต่าง​ จังหวัด ครับ​ ไป​ กัน​ 3​ คน​ ซึ่ง​ เข้า​ ป่า​ ด้วยกันก็บ่อย​ พอสมควร​ พวกเราจึงค่อนข้างชำนาณในการเดินป่า
วันนี้​ พวกผมจะเดินทางก็ซึ่งวางแผนกันมานาน โดยจะไป​ ค้างแรม​ 3​ คืน​ เต็ม​ๆกับการใช้ชีวิตในป่า
ซึ่งผม​ ได้จัดของเตรียมไว้พร้อมเรียบร้อยแล้ว
เวลา​ 8​ โมงเช้า​ ไอ้พงษ์​ กับ​ ไอ้บอล​ ก็​ มาหา​ผมที่บ้าน​ พร้อมกับอุปกรณ์​ เป้​ เดินป่าเต็มหลัง​ เหมือนจะไปอยู่เป็นเดือน
"เห้ย​ พวกมึงจะไปอยู่ในป่ากันถาวร​ เหรอ​" ผมพูดออกไปพร้อมหัวเราะ​
ไอ้พวกนั้นสวนกลับมาว่า​ "ของจำเป็นทั้งนั้น​ เพื่อนเอ่ย" พร้อมกับ​ เดินโยกเยกๆ​ เข้า​ บ้าน​ผมมา​ ยกมือไหว้แม่​ และ​ เอาของวางไว้หน้าบ้าน​
"เอ้าาา​ ลูกๆ​ มากินข้าวๆ​ แม่ทำกับข้าวไว้หลายอย่างเลย​" แม่ผมพูดพร้อมตักข้าวในชาม​ ให้พวกผม
ไอ้พงและ​ ไอ้บอล​ ซึ่ง​ รู้ฝีมือของแม่ผมอยู่แล้ว​ รีบเข้าไปนั่งที่โต๊ะ​ และ​ กินกับข้าวฝีมือแม่ผมอย่างอเล็ดอร่อย​
หลังจากทานข้าวเสร็จ​ ก็เตรียมตัวออกเดินทาง
ไอ้บอล​ บอกกับผมว่า​ น้องชายของมันกลับมาจาก​ กรุงเทพได้​ อาทิตย์​ กว่าๆแล้ว​ มันอยากไปเที่ยวด้วย​ "เห้ย​ ไอ้วุธ มันกลับมาแล้วเหรอ​ ไม่เห็นรู้เลย" ผมพูดพร้อมตบไหล่ไอ้บอล​ "ไปสิ​ ไปเที่ยวด้วยกัน" ผมพูดต่อ​
"เออ​ เดียวเดินผ่าน​ บ้านกู​ ก็เจอเอง​ มันเก็บของเรียบร้อย​ ไม่ว่ามึงจะให้ไปหรือไม่​ มันก็จะไปอยู่ดี​ มันบอกมันเบื่อ​ ตึกสูง​ รถติด​ อยากไปเที่ยวป่าให้ธรรมชาติ​ บำบัด" บอลพูดพร้อม​ เบ้ปาก​มองบอล
เดินมาได้​ สักพัก​ ก็เจอ​ ไอ้วุธ​ น้องชาย​ ของไอ้บอล​ ยืนรอตรงหน้าบ้านน
" เห้ย​ ไอ้วุธไม่เจอกันนานเลย​ " ผมพูดพร้อมยกมือทักทาย
วุธ​ ยกมือ​ ไหว้ผมและ​ พงษ์​ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ของพี่ชาย​ อ่อนกว่า​ 5​ ปี​ ซึ่งตอนนี้ก็อายุ​ 19​ ปี
ไอ้วุธ​ มันเป็นเด็กกรุงเทพ​ ตัวสูงขาว​ ใส่แว่น​ ดูท่าทางจะเจ้าสำอางไม่น้อย
"ปะ​ ไปเที่ยว​ กัน​ ห้ามร้องไห้กลับบ้านนะ​ มึง​ " ผมพูดพร้อม​ ตบหัว​ มันไป​ 1​ ที​
ไอ้วุธหัวเราะ​ พร้อมบอก​ ว่า​ " โห​ พี่​ ผมไม่เหมือนเมื่อ​ก่อนแล้วนะ"
พวกเราทั้ง​ 3​ คน​ มองหน้ากันแล้วหัวเราะ​
"5555... เออ​ พ่อคนเก่ง" พงษ์พูด
ขณะนี้เวลา​ 9​ นาฬิกาเศษ​ พวกผมนั่งรถประจำทาง​ ไปยัง​ ทางเข้าอุทยาน ประมาณ​ 2​ ชั่วโมง​ ก็ถึงหน้าทางเข้าอุทยาท​ ที่เป็นจุดมุ่งหมาย
พอถึงอุทยาท​ ก็ขึ้นไปสำนักงาน​ เพื่อ​ ขออนุญาติกับเจ้าหน้าที่พร้อม​ กรอกเอกสาร​ โดย​ ให้​ ไอ้บอลเป็นคนจัดการเขียนรายละเอียดจำนวนคนและ​ จำนวน​ คืนที่ค้างแรม​
เจ้าหน้าที่​ มีแค่​ 2​ คน​ ในสำนักงาน​ ซึ่งไม่ค่อยพูดอะไรเท่าไหรนัก​
หลังจากกรอกเอกสารเสร็จ​ พวกเราก็เดินทาง​ กันต่อ​ ต้องเดินเท้าขึ้นไปบนเขาอีก​ 3-4​ ชั่วโมง​ กว่าจะถึง​ น้ำตก​ จุดที่เรา​ จะตั้งแคมป์กัน​
ผม​ ไอ้พงษ์​ ไอ้บอล​ และ​ วุธ​ พวกเราทั้ง​ 4​ ได้เดินทางไป​ โดยมีเจ้าหน้าที่​ อีกคนนำทางเราไปยังจุดตั้งแคมป์​
"พี่ครับ​ ช่วงนี้ไม่มี​ นักท่องเที่ยวเลยเหรอครับ"
ผมเอ่ยถามกับลุงเจ้าหน้าที่
"ไม่ค่อยมีหรอก​ ช่วงนี้ป่าจะเงียบๆ " เจ้าหน้าที่ตอบ
"แล้วพี่​ ไปส่งพวกเราแล้วก็กลับเลยเหรอครับ"
ไอ้บอล​ ถาม​ขึ้นมาบ้าง
"ใช่" เจ้าหน้าที่ตอบ​ สั้นๆ​
ตอนนี้เวลา​ 15​ นาฬิกาแล้ว​ เจ้าหน้าที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด​พัก​ พวกเราซึ่ง​ แบกทั้งของและ​ การเดินทางมาตลอดทั้งวัน​ เหนื่อยจนขาแทบขาด
" -​่า​ เอ้ย​​ ใครเป็นคนคิดมาตั้งแคมป์ที่นี้ว่ะ​
ไกล​ -ิบหาย​" พงษ์​ พูดประโยคแรกหลังจากที่เดินเงียบๆกันมานาน​
"ไอ้บอลเลย ตัวต้นคิด" ผมพูดพร้อมชี้หน้า​ ไอ้บอล​
"ก็พวกมึงอยากไปนอนกันในป่าลึก​ๆกูก็จัดให้แล้วไง​ ดีนะกูไม่ได้จองทริปเดินป่า​ พม่าไว้​ ลึกกว่านี้อีกนะมึง" ไอ้บอลพูดขึ้นพร้อมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
" เอาที่มึงสบายใจ" ผมพูดพร้อม​ กระโดดเตะก
ตัดขา ไอ้บอล​ไว้​
ไอ้บอลรู้อยู่แล้วกระโดดหลบอย่างชำนาญ​
แล้วพูดขึ้นว่า​" ไม่ได้แดกกูหรอก​โว้ยย "
" เฮ้า​ ไกล้ถึงกันแล้ว​ รีบหน่อย​ เดียวจะค่ำมืดกันหมด" เจ้าหน้าที่พูดพร้อมกับโบกมือ​ เมื่อเห็นพวกเรา​ เล่นกันเป็นเด็ก
สักพัก​ ก็มาถึง​ ลานกว้างริมน้ำตก​ เสียงน้ำตก​กระทบหิน​ บรรยากาศดีมากครับ
พวกผมพอถึงก็แทบจะลงนอนกันตรงนั้น​ เหนื่อย​ แต่สนุก​ กับการเข้าป่า
หลังจากเตรียมของได้สักพัก​ ตรงจุดตั้งแคมป์​ เจ้าหน้าที่ก็เดิน​ มา​ ที่พวกผมพร้อมกับยืนธูปในมือให้​ พูดว่า​ "ไหว้เจ้าป่าเจ้าเขา​ กันซะ​ จะได้ปลอดภัยจากอันตราย" พูดจบก็หยิบธูป​ ชูขึ้นเหนือหัว​ พร้อม​ ท่อง​ คาถา​ อะไรของแก​ พึมพัมๆ
พวกเรา​ ก็​ แจกจ่ายธูป​ ให้ครบทุกคนพร้อมยกมือไหว้​พร้อมกัน​
"ผีมันจะปกป้องเรา​ เพราะ​ ไอ้ธูป​ ดอกเดียวเนี้ยนะ​" ไอ้บอลกระซิบในหมู่พวกเรา​
" เห้ยย​ ปากหมา​นะมึง​ อยู่ในป่าอย่าพูดดูถูกเจ้าป่าเจ้าเขา" ผมพูดพร้อมทำหน้ายักษ์​ ใส่มัน
"ระวังปากมึงให้ดี ไอ้บอล" ไอ้พงษ์​ ผู้พูดน้อยที่สุดกล่าวขึ้น
"มาเลย​ ผีสางนางไม้​ อะไร​ กูก็อยากเห็นเหมือนกัน​" ไอ้บอลยังพูดต่อไป​
ผม​ ยืนมือไป​ ตบหัว​ ของไอ้บอลแรงๆ​ จนมันหยุดพูด
" เอ้า​ เตรียมของอะไรกันเสร็จก็​ เข้านอนแต่หัวค่ำนะ​ ดึกๆ​ ได้ยินเสียงอะไร​ อย่าทัก​ อย่าออกมานอกเต้น" เจ้าหน้าที่พูด
"ผีจะมาหลอกเราเหรอครับ​" ไอ้บอล​ ปากไม่ค่อยจะดีนัก​ พูดขึ้น​ เชิงขำๆ
"เด็กหนุ่มนี้ช่างไม่รู้อะไรเลย​ ในป่าในเขาอย่าพูดเล่น​ กันแบบนี้​" เจ้าหน้าที่​ พูดพร้อม​ โบกมือไปมา
" ขอโทษครับ​ เพื่อนผมมัน​ ปากไม่ค่อยดี​แบบนี้แหละครับ​ แล้วพี่จะกลับเลยเหรอครับ​ นี้มันก็ไกล้จะมืดเต็มที​ แล้วนะครับ" ผมพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง
"ไม่เป็นไหรหรอก​ ลุงอยู่ที่นี้มา​ 20​ ปีแล้ว​ หลับตาเดินยังได้เลย​ เอ้าลุงไปละนะ​ เออ​ แล้ว​ บนน้ำตก​ มีต้นตะเคียน​
อย่าเข้าไป​ ทำอะไร​ ที่ไม่ดีละ​ อยู่กันแต่ข้างล่างก็พอ ลุงไปละ​ โชคดีๆ​ ถึงเวลากำหนดลุงจะเข้ามารับ​ " พูดจบแกก็ออกเดินกลับทางเดิม​ ท่าทีรีบ​ กว่า​ เดินนำพวกเรามาเสียอีก​ สักพักก็หาย​ ไปกับราวป่า​ ที่​ เริ่มจะสหลัว
พวกเรารีบ​ ก่อกองไฟ​ ขึ้นเพื่อให้ความสว่าง​
" มึงว่าลุงแก​ ดูรีบๆ​ ไหมว่ะ​ ตอนขากลับ" ไอ้พงษ์พูดขึ้น
" เออ​ กูก็เห็นนึกว่า​ กูรู้สึกอยู่คนเดียว"
ไอ้บอลพูดพลาง​ ใส่ฟืนไปในกองไฟ
"ก็น่าจะ​ รีบกลับบ้านแกมั้ง​ สงสัยลืมปิดน้ำหน้าบ้าน" ผมพูดปลอบใจ​ เพื่อนๆ
"ผมว่าาา.......ลุงแกน่าจะกลัวอย่างอื่นมากกว่านะครับ​ " ไอ้วุธ​ที่ตลอดเวลานั่งเงียบ​ พูดออกมาเป็นประโยคแรก​ พูดพร้อมกับ​ สีหน้า​ ซีดๆ​ และชี้มือขึ้นไปที่น้ำตก​ ชั้นบนสุด​
ทุกคน​ หันมองตามมือที่ชี้นั้นขึ้นไป​ ความมืดในป่า​ ทำให้เห็นอะไรได้รางๆ​ มันเป็น​ ร่างผู้หญิง​ ยืนอยู่บนน้ำตก​
" เหี้ย¡¡" ทุกคนอุทานขึ้นพร้อมกันและเข้าไปรวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมาย​ ตอนนี้ทุกคน​ ตัวสั่นหน้าซีดทุกคน​ ไอ้พงษ์​ ผู้สติดีที่สุด​ หยิบ​ ไฟฉาย​ ขนาด​ใหญ่​ ส่องขึ้นไป​ ภาพที่ปรากฎตรงหน้า​ คือ​ ทุกอย่างว่างเปล่า​ ไม่มีอะไรอยู่บนน้ำตกทั้งสิ้น​ ตอนนี้​ จิตใจของทุกคน​ ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวกันแล้ว​ "อาจจะเป็น​ นักท่องเที่ยว​ ที่เข้ามาก่อนเราก็ได้​ " ผมพูดพร้อมกับ​ จับขาที่สั่นอยู่
"เออๆ​ อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้" ไอ้พงษ์พูด
"แต่..... ว่า​ ลุงเจ้าหน้าที่​ บอกบนนั้นมีต้นตะเคียน​ นะโว้ย" ไอ้บอลผู้ที่​ ฝีปากกล้าตอนนี้​ เสียงสั่นเครือ
"เพราะ​ ปาก​ มึงนั้นแหละ​ มาคืนแรกก็เจอดีเลยมึง" ผมพูดขึ้น
" ผมว่าพวกเรา​ ขอขมา​ กันอีกรอบไหมพี่" วุธพูดขึ้น​
" เออ​ ก็ดีเหมือนกัน​ มาๆ​ พวกเรา​ มาขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขากันใหม่" ผมพูด​ คราวนี้ทุกคนทำตามแบบไม่มีคำถามใดๆเพราะ​ สิ่งที่ทุกคนเห็นนั้น​ เห็นเหมือนกันหมด​ จะว่าตาฝาด​ กันเอง​ ก็ยืนยันได้ว่าเห็นทั้ง​ 4​ คน
โฆษณา