11 พ.ค. 2022 เวลา 14:34 • หนังสือ
หลงไพร EP.3
ความลึกลับของป่าดงพงไพร
สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มีอยู่จริง
Ep.3
แต่่.​....................... ภาพที่เห็นตรงหน้า​ จะว่าตาฝาด​ เพราะเพิ่งตื่นก็​ ไม่ใช่​ ภาพที่เห็น​ คือ​ ไอ้​ วุธ กำลังโดน​ สิ่งมีชีวิตบางอย่าง​ย้ำ​ นะครับ​ สิ่งมีชีวิต​ ที่​ ครึ่งบน​ เป็น​ มนุษย์​ ผู้หญิง​ แต่​ ครึ่งล่างจากเอว​ ลงไปเป็น​ เสือโคร่งลายพาดกลอน​ ทับตัวอยู่​ แต่เห็น​ ศพ​ ครับ​ แค่ผมเห็นแว๊ปแรก​ มั่นใจได้เลยว่านั้นคือ​ ศพ​ ของ​ ไอ้บอล​ พี่ชายของ​
ไอ้วุธ​ ที่​ เข้าเวรยาม​ ต่อจาก​ ผม​ และไอพงค์​ สภาพของ​ ร่างไอ้บอล​ เละ​ เลือดอาบแดงฉานไปทั้งตัว​ ส่วนบริเวรหน้าท้องถูกเปิดออก​ จนเห็น​ เครื่องใน​ น่าสะอิดเสอียน​ ตอนนี้ทั้งตัวผม​ เย็นกว่าอากาศ​
ที่หนาวเน็บป็นร้อยเท่า​ หัวใจเต้น​ แรง​ จนแทบจะหลุด​ อยากจะคิด​ ว่าทุกอย่างมันเป็นแค่ฝันไป​ ในช่วงที่ยังตะลึงอยู่นั้น​ สติผมก็กลับมา​ อย่างรวดเร็ว​ ผมหยิบ​ ไม้ฟืนติดไฟ​ ขึ้นมาพร้อม​ ฟาดลงไปที่​ คนกึ่งเสือโคร่งตัวนั้น​ อย่างสุดแรงเกิด​ ทำให้มัน​ ถอยเซไปด้านข้าง​ ด้วยแรงกระทบของไม้​ สิ่งเดียวที่​ คิดได้ในตอนนั้น​ คือ​ วิ่ง​
"ไอ้วุธ​ วิ่ง..........." ผมตะโกนออกมาพร้อมกับวิ่งแบบไม่คิดชีวิต
เสียงวิ่ง​ ของพวกเรา​ ดัง ปะปนกับเสียง​ของอะไรบางอย่าง ตามหลังพวกเรามา​
"มึงเห็นอะไร" ผมซึ่งวิ่งอยู่ ถามขึ้น
"ผู้หญิง​ พี่​ ผู้หญิง​ เดินมาเรียก​ ผมกับพี่บอล​ ตรง​ หลังต้นไม้​ ข้างแคมป์เรา" ไอ้วุธ​ พูดออกมาพร้อมกับอาการหอบหายใจไม่ทัน
"-่า​ เอ้ย​ กูบอกพวกมึงแล้ว​ ให้ระวัง​ มันเอาเราแน่" ผมพูดออก
"พี่แล้วพี่บอล​ ละพี่" วุธถาม​
"กูว่าตายห่าไปแล้ว​ มึงไม่เห็นเหรอ​ เครืี่องในมันออกมาจากท้องขนาดนั้น​ กูว่า​ พวกเรา​ 3​ คน​ เอาตัวรอดก่อนดีกว่า​........... ​"
มันเป็นเวลากลางคืน​ ประมาณ​ ตี​ 2​ ที่พวกเรา​ สามคน​ วิ่ง​ กันไปกลางป่า​ ที่ไม่มีแม้แต่​ ไฟฉาย​ ทุกอย่างรอบตัวมืด​ มีเพียงแสงเงารางๆจากเงาจันทร์​ ที่ส่องสว่างให้พวกเราสามคน​ วิ่งกันอย่างไม่คิดชีวิต​ จะกี่นาที​ เราไม่รู้ได้​ ทั้งวิ่งผ่านลำห้วย​ ขึ้นเขา​ สดุด กิ่งไม้ล้ม กิ่งไม้​ หนามที่มีอยู่ประปลายตามป่าที่เราวิ่งลุยไป​ เป็นแค่สิ่งเล็กน้อย​ ถ้าเทียบกับ​ สิ่งที่พวกเราเจอมา​ พวกเราวิ่งมาได้สักพัก​
ผมก็​ ตั้งสติได้​ จึง​ บอก​ ให้ทุกคน​ หยุด​ เพื่อหา​ ต้นไม้สักต้น​ ที่สามารถปีนขึ้นไปได้​ เพื่อหลบ​ ตัวบ้าอะไรก็ตามที่จู่โจมพวกเรา​ ไอ้พงค์​ ชี้นิ้ว​ บอกพวกเรา​ ไม่มีประโยคไดต่อจากนั้น​ ทุกคนต่าง​ ปีนขึ้นต้นไม้นั้นอย่างรวดเร็ว​ จนไปหยุดที่กิ่งใหญ่​ ที่พอจะหยุดพักได้​
เสียงหายใจ​ ของทุกคนที่วิ่งกันเป็นตาย​ แบบ4×100​ ต่างหายใจ​ กันแบบที่​ ถ้า​ เอาหัวใจมาวางไว้ข้างนอก​ ก็จะทำกัน​ไปแล้ว​
ผ่านไป​ 5​ นาที​ ของการหายใจหอบ​ ของแต่ละคน​ ผมยังช็อคกับเหตุการ์ณที่เจอ​ อยู่เมื่อไม่กี่นาที​ ที่ผ่านมา​ จะซ็อค​ ด้วย​ เห็น​ สิ่ง​ ที่เราไม่เคยคิดว่าจะเห็นหรือมีอยู่จริง​ หรือ​ ภาพ​ ที่หน้าสยดสยองของ​ เพื่อน​
ที่เดินทางมาด้วยกัน​ ผมยังอยากตื่นขึ้นมา​ พร้อมกับ​ พูดว่าทุกสิ่งนี้คือ​ ความฝัน​ ด้วยเทรณ
แต่่.​....................... ภาพที่เห็นตรงหน้า​ จะว่าตาฝาด​ เพราะเพิ่งตื่นก็​ ไม่ใช่​ ภาพที่เห็น​ คือ​ ไอ้​ วุธ กำลังโดน​ สิ่งมีชีวิตบางอย่าง​ย้ำ​ นะครับ​ สิ่งมีชีวิต​ ที่​ ครึ่งบน​ เป็น​ มนุษย์​ ผู้หญิง​ แต่​ ครึ่งล่างจากเอว​ ลงไปเป็น​ เสือโคร่งลายพาดกลอน​ ทับตัวอยู่​ แต่เห็น​ ศพ​ ครับ​ แค่ผม
เห็นแว๊ปแรก​ มั่นใจได้เลยว่านั้นคือ​ ศพ​ ของ​ ไอ้บอล​ พี่ชายของ​ ไอ้วุธ​ ที่​ เข้าเวรยาม​ ต่อจาก​ ผม​ และไอพงค์​ สภาพของ​ ร่างไอ้บอล​ เละ​ เลือดอาบแดงฉานไปทั้งตัว​ ส่วนบริเวรหน้าท้องถูกเปิดออก​ จนเห็น​ เครื่องใน​ น่าสะอิดเสอียน​ ตอนนี้ทั้งตัวผม​ เย็นกว่าอากาศ​ ที่หนาวเน็บป็นร้อยเท่า​ หัวใจเต้น​ แรง​ จนแทบจะหลุด​
อยากจะคิด​ ว่าทุกอย่างมันเป็นแค่ฝันไป​ ในช่วงที่ยังตะลึงอยู่นั้น​ สติผมก็กลับมา​ อย่างรวดเร็ว​ ผมหยิบ​ ไม้ฟืนติดไฟ​ ขึ้นมาพร้อม​ ฟาดลงไปที่​ คนกึ่งเสือโคร่งตัวนั้น​ อย่างสุดแรงเกิด​ ทำให้มัน​ ถอยเซไปด้านข้าง​ ด้วยแรงกระทบของไม้​ สิ่งเดียวที่​ คิดได้ในตอนนั้น​ คือ​ วิ่ง​
"ไอ้วุธ​ วิ่ง..........." ผมตะโกนออกมาพร้อมกับวิ่งแบบไม่คิดชีวิต
เสียงวิ่ง​ ของพวกเรา​ ดัง ปะปนกับเสียง​ของอะไรบางอย่าง ตามหลังพวกเรามา​
"มึงเห็นอะไร" ผมซึ่งวิ่งอยู่ ถามขึ้น
"ผู้หญิง​ พี่​ ผู้หญิง​ เดินมาเรียก​ ผมกับพี่บอล​ ตรง​ หลังต้นไม้​ ข้างแคมป์เรา" ไอ้วุธ​ พูดออกมาพร้อมกับอาการหอบหายใจไม่ทัน
"-่า​ เอ้ย​ กูบอกพวกมึงแล้ว​ ให้ระวัง​ มันเอาเราแน่" ผมพูดออก
"พี่แล้วพี่บอล​ ละพี่" วุธถาม​
"กูว่าตายห่าไปแล้ว​ มึงไม่เห็นเหรอ​ เครืี่องในมันออกมาจากท้องขนาดนั้น​ กูว่า​ พวกเรา​ 3​ คน​ เอาตัวรอดก่อนดีกว่า​........... ​"
มันเป็นเวลากลางคืน​ ประมาณ​ ตี​ 2​ ที่พวกเรา​ สามคน​ วิ่ง​ กันไปกลางป่า​ ที่ไม่มีแม้แต่​ ไฟฉาย​ ทุกอย่างรอบตัวมืด​ มีเพียงแสงเงารางๆจากเงาจันทร์​ ที่ส่องสว่างให้พวกเราสามคน​
วิ่งกันอย่างไม่คิดชีวิต​ จะกี่นาที​ เราไม่รู้ได้​ ทั้งวิ่งผ่านลำห้วย​ ขึ้นเขา​ สดุด กิ่งไม้ล้ม กิ่งไม้​ หนามที่มีอยู่ประปลายตามป่าที่เราวิ่งลุยไป​
เป็นแค่สิ่งเล็กน้อย​ ถ้าเทียบกับ​ สิ่งที่พวกเราเจอมา​ พวกเราวิ่งมาได้สักพัก​ ผมก็​ ตั้งสติได้​ จึง​ บอก​ ให้ทุกคน​ หยุด​ เพื่อหา​ ต้นไม้สักต้น​ ที่สามารถปีนขึ้นไปได้​ เพื่อหลบ​ ตัวบ้าอะไรก็ตามที่จู่โจมพวกเรา​ ไอ้พงค์​ ชี้นิ้ว​ บอกพวกเรา​ ไม่มีประโยคไดต่อจากนั้น​ ทุกคนต่าง​ ปีนขึ้นต้นไม้นั้นอย่างรวดเร็ว​ จนไปหยุดที่กิ่งใหญ่​ ที่พอจะหยุดพักได้​
เสียงหายใจ​ ของทุกคนที่วิ่งกันเป็นตาย​ แบบ4×100​ ต่างหายใจ​ กันแบบที่​ ถ้า​ เอาหัวใจมาวางไว้ข้างนอก​ ก็จะทำกัน​ไปแล้ว​
ผ่านไป​ 5​ นาที​ ของการหายใจหอบ​ ของแต่ละคน​ ผมยังช็อคกับเหตุการ์ณที่เจอ​ อยู่เมื่อไม่กี่นาที​ ที่ผ่านมา​ จะซ็อค​ ด้วย​ เห็น​ สิ่ง​ ที่เราไม่เคยคิดว่าจะเห็นหรือมีอยู่จริง​ หรือ​
ภาพ​ ที่หน้าสยดสยองของ​ เพื่อน​ ที่เดินทางมาด้วยกัน​ ผมยังอยากตื่นขึ้นมา​ พร้อมกับ​ พูดว่าทุกสิ่งนี้คือ​ ความฝัน​ ด้วยเทรณ
แต่............
โฆษณา